คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาเฉพาะจำเลยที่ได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว และขอบเขตการแก้ไขโทษ
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จับได้จำเลยเพียงคนเดียว ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ได้ตัวมากับโจทก์ฟังไปทีเดียว โดยยังไม่ครบกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันออกหมายจับ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดทุกคนในฐานความผิดที่หนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา เช่นนี้ ศาลฎีกาคงวินิจฉัยให้แต่สำหรับจำเลยที่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้น ส่วนจำเลยที่ยังไม่ได้ตัวมาศาลฎีกายังไม่พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาเฉพาะจำเลยที่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษา และการเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จับได้จำเลยเพียงคนเดียวศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ได้ตัวมากับโจทก์ฟังไปทีเดียวโดยยังไม่ครบกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันออกหมายจับโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดทุกคนในฐานความผิดที่หนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา เช่นนี้ ศาลฎีกาคงวินิจฉัยให้แต่สำหรับจำเลยที่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้นส่วนจำเลยที่ยังไม่ได้ตัวมาศาลฎีกายังไม่พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีอาญา: ผลกระทบต่อสิทธิในการฟ้องร้อง
มูลกรณีในคดีอาญา โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่ง และโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันไว้โดยชัดแจ้งตามหลักฐานเอกสารว่า ทั้งสองฝ่ายยินยอมจะไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากันอีกต่อไป ดังนี้ เป็นการยอมความแก่กันแล้วในความผิดต่อส่วนตัว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(2) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในคดีอาญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาก่อน พ.ร.บ.ศาลแขวง และการใช้บทกฎหมายที่หนักกว่าเป็นคุณแก่จำเลย
คดีอาญาเหตุเกิดและอยู่ในระหว่าง สอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. 2499 อัยการโจทก์ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงก่อน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 เพราะกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 มีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์: จำเลยยังไม่เป็นคู่ความก่อนศาลประทับฟ้อง
ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้ยกฟ้อง แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องหรือพิพากษาตามรูปคดีต่อไปเช่นนี้ จำเลยย่อมไม่มีสิทธิฎีกาเพราะก่อนที่ศาลประทับฟ้อง จำเลยยังไม่เข้ามาสู่ฐานะเป็นคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญาที่กฎหมายกำหนดโทษต่ำกว่า 5 ปี ศาลไม่ต้องสืบพยานและลงโทษจำเลยได้
คดีอาญาที่จำเลยรับสารภาพ ศาลจะต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง ต้องเป็นคดีที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยที่รับสารภาพในคดีอาญา ต้องพิจารณาอัตราโทษขั้นต่ำตามกฎหมาย
คดีอาญาที่จำเลยรับสารภาพศาลจะต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง ต้องเป็นคดีที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951-953/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของนิติบุคคล และการเพิ่มเติมฟ้องต้องมีเหตุผลสมควร
บุคคลที่จะจัดการแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นนิติบุคคล คือผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลผู้แทนดังกล่าวจะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้ฟ้องคดีอาญาแทนนิติบุคคลนั้นไม่ได้
การขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญานั้น โจทก์จะต้องอ้างถึงเหตุอันควรในการขอแก้หรือเพิ่มเติมด้วย
(หมายเหตุ มาตรา 5(3) เทียบ ฎีกาที่ 229/2490,618/2490,2028/2499
มาตรา 163 เทียบฎีกาที่ 533/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941-942/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จ vs. แจ้งความเท็จ, การรวมกระทง, และอำนาจฟ้องในคดีอาญา
จำเลยยื่นคำร้องขัดทรัพย์อันเป็นเท็จต่อศาล ไม่เป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158 เพราะการฟ้องเท็จที่จะเป็นผิดตามมาตรานี้ ต้องเป็นการกล่าวโทษผู้อื่นในคดีอาญา
เมื่อโจทก์ตั้งใจฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158 แล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา118 ไม่ได้ เพราะไม่ตรงกับที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยและไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์สืบสมตามฟ้อง เป็นแต่อ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิดไป ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม วรรคสี่
เมื่อศาลได้พิจารณาคดีทั้งสองรวมกันและให้รวมกระทงลงโทษจำเลยแล้ว ก็เป็นอันนับโทษจำเลยทั้ง 2 คดีต่อเนื่องกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องคดีอาญาที่จำเลยต่อสู้คดีแล้ว และการนำสืบข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องเดิม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอน จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้ว โจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่ง วันเวลาใดไม่ปรากฎชัดจำเลยได้กระทำผิด ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158(5),164 เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้ว ควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณา จึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192
of 312