คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลวงขายเครื่องหมายการค้า: แม้สินค้าต่างประเภทกัน หากหีบห่อคล้ายคลึงกันจนชวนเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ ถือเป็นการละเมิด
ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29วรรคสอง การกระทำที่เป็นการลวงขายมีความหมายกว้างขวางมาก ไม่จำเป็นว่าสินค้าที่ทำขึ้นจะต้องเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันเท่านั้น ซึ่งแปลความหมายได้ว่า ไม่ใช่แต่เป็นการลวงในวัตถุเท่านั้น หากรวมถึงการลวงในความเป็นเจ้าของด้วย
จำเลยใช้เครื่องหมายสินค้าหมากฝรั่งของจำเลยในหีบห่อเหมือนบุหรี่ของโจทก์ตลอดจนลักษณะและสี คือ ใช้พื้นสีแดง อักษรสีขาว กลางซองบุหรี่ด้านหน้าทำเป็นรูปวงกลมรี เป็นรูปไข่ขนาดเท่ากัน ผิดแต่แทนที่จะเป็นอักษรคราเว่นเอทำเป็นอักษรโปรเกรส เหนือวงกลมนี้ขึ้นไปเป็นรูปแมวสีดำ รูปร่างหน้าตาขนาดเดียวกัน แต่ของจำเลยยึดลำตัวสูงกว่าเล็กน้อย อยู่ระหว่างตัวอักษร คำว่าคอร์คทิป เช่นเดียวกัน ซองด้านหลังทำเป็นรูปกรอบสี่เหลี่ยมมุมกรอบทั้งสี่ข้างทำเป็นรูปและขนาดเดียวกัน แต่ของโจทก์เป็นอักษรภาษาอังกฤษ ของจำเลยเป็นอักษรไทย ใต้กรอบลงมามีอักษรฝรั่งสีดำขนาดตัวอักษรเดียวกัน ด้านข้างของกล่องบุหรี่พิมพ์ด้วยอักษรสีขาวของโจทก์ว่า คราเว่นเอ 10 ของจำเลยก็เป็น โปรเกรส10 ด้านข้างอีกด้านหนึ่งเป็นอักษรภาษาอังกฤษ ตัวหนังสือสีขาวเช่นเดียวกัน ของโจทก์ว่า เมดอินอิงแลนด์ ของจำเลยเป็น โปรเกรส 10 เหมือนกัน ทั้งสองข้าง ใต้รูปไข่ด้านหน้า มีอักษรตัวโตขนาดเดียวกันเด่นชัดว่าซิกาแรต เพียงแต่สลับที่กัน ของโจทก์อยู่ชิดขอบซองแถวล่าง ของจำเลยอยู่ถัดแถวล่างสูงขึ้นไปบรรทัดหนึ่งผิดกันแต่คำว่า เวอร์ยินเนียกับชิวอิงกัม เท่านั้น จริงอยู่แม้รูปจะผิดเพี้ยนกันบ้างเล็กน้อยแต่การวินิจฉัยเครื่องหมายการค้าจะต้องให้เหมือนกันทุกสิ่งอย่างหามิได้ เพียงแต่ให้เห็นว่าเครื่องหมายนั้นชวนให้เห็นว่าเป็นลักษณะทำนองเดียวกันหรือเกือบเหมือนสินค้าของโจทก์ก็พอแล้ว ทั้งจำเลยก็รับว่าได้เคยเห็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาก่อนแล้ว จึงเป็นการแสดงเจตนาว่าจำเลยแสวงหาประโยชน์โดยอาศัยแอบอิงเอารูปเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้กับสินค้าของจำเลยโดยไม่สุจริต ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าจำเลยนำเอาหีบห่อในลักษณะ ขนาด และสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปใช้กำกับสินค้าหมากฝรั่งของจำเลย ย่อมเป็นการลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์แล้ว เป็นการกระทำที่ไม่มีสิทธิจะทำได้ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลวงขายเครื่องหมายการค้า แม้สินค้าต่างประเภทกัน หากสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นสินค้าของโจทก์ ก็เป็นการละเมิด
ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29วรรคสอง. การกระทำที่เป็นการลวงขายมีความหมายกว้างขวางมาก. ไม่จำเป็นว่าสินค้าที่ทำขึ้นจะต้องเป็นสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันเท่านั้น.ซึ่งแปลความหมายได้ว่า ไม่ใช่แต่เป็นการลวงในวัตถุเท่านั้น. หากรวมถึงการลวงในความเป็นเจ้าของด้วย.
จำเลยใช้เครื่องหมายสินค้าหมากฝรั่งของจำเลยในหีบห่อเหมือนบุหรี่ของโจทก์ตลอดจนลักษณะและสี. คือ ใช้พื้นสีแดง อักษรสีขาว กลางซองบุหรี่ด้านหน้าทำเป็นรูปวงกลมรี เป็นรูปไข่ขนาดเท่ากัน. ผิดแต่แทนที่จะเป็นอักษรคราเว่นเอทำเป็นอักษรโปรเกรส เหนือวงกลมนี้ขึ้นไปเป็นรูปแมวสีดำ รูปร่างหน้าตาขนาดเดียวกัน. แต่ของจำเลยยึดลำตัวสูงกว่าเล็กน้อย อยู่ระหว่างตัวอักษร คำว่าคอร์คทิป เช่นเดียวกัน. ซองด้านหลังทำเป็นรูปกรอบสี่เหลี่ยมมุมกรอบทั้งสี่ข้างทำเป็นรูปและขนาดเดียวกัน. แต่ของโจทก์เป็นอักษรภาษาอังกฤษ ของจำเลยเป็นอักษรไทย. ใต้กรอบลงมามีอักษรฝรั่งสีดำขนาดตัวอักษรเดียวกัน. ด้านข้างของกล่องบุหรี่พิมพ์ด้วยอักษรสีขาวของโจทก์ว่า คราเว่นเอ10ของจำเลยก็เป็นโปรเกรส10. ด้านข้างอีกด้านหนึ่งเป็นอักษรภาษาอังกฤษ ตัวหนังสือสีขาวเช่นเดียวกัน ของโจทก์ว่า เมดอินอิงแลนด์ ของจำเลยเป็น โปรเกรส 10 เหมือนกัน. ทั้งสองข้าง ใต้รูปไข่ด้านหน้า มีอักษรตัวโตขนาดเดียวกันเด่นชัดว่าซิกาแรต เพียงแต่สลับที่กัน. ของโจทก์อยู่ชิดขอบซองแถวล่าง. ของจำเลยอยู่ถัดแถวล่างสูงขึ้นไปบรรทัดหนึ่ง.ผิดกันแต่คำว่า เวอร์ยินเนียกับชิวอิงกัม เท่านั้น. จริงอยู่แม้รูปจะผิดเพี้ยนกันบ้างเล็กน้อยแต่การวินิจฉัยเครื่องหมายการค้าจะต้องให้เหมือนกันทุกสิ่งอย่างหามิได้. เพียงแต่ให้เห็นว่าเครื่องหมายนั้นชวนให้เห็นว่าเป็นลักษณะทำนองเดียวกันหรือเกือบเหมือนสินค้าของโจทก์ก็พอแล้ว. ทั้งจำเลยก็รับว่าได้เคยเห็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาก่อนแล้ว จึงเป็นการแสดงเจตนาว่าจำเลยแสวงหาประโยชน์โดยอาศัยแอบอิงเอารูปเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้กับสินค้าของจำเลยโดยไม่สุจริต. ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าจำเลยนำเอาหีบห่อในลักษณะ ขนาด และสีเช่นเดียวกับของโจทก์ไปใช้กำกับสินค้าหมากฝรั่งของจำเลย. ย่อมเป็นการลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์แล้ว. เป็นการกระทำที่ไม่มีสิทธิจะทำได้. ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดต่อค่าเสียหายจากการละเมิดของผู้อื่นโดยตรง
ค่าพาหนะไปมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาพยาบาลบาดแผลที่ถูกทำละเมิดเป็นค่าเสียหายที่เกิดโดยตรงสืบเนื่องจากการละเมิด
โจทก์ถูกทำละเมิดแขนซ้ายพิการตลอดชีวิต มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพราะเหตุทุพพลภาพได้
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยทำสัญญากับจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของจำเลยที่ 1 เพื่อความวินาศภัยกันเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งและซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบ มีลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยค้ำจุน ดังนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยโดยตรงและมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดต่อผู้เสียหายโดยตรงจากละเมิดของผู้รับประกัน
ค่าพาหนะไปมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาพยาบาลบาดแผลที่ถูกทำละเมิดเป็นค่าเสียหายที่เกิดโดยตรงสืบเนื่องจากการละเมิด
โจทก์ถูกทำละเมิดแขนซ้ายพิการตลอดชีวิต มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพราะเหตุทุพพลภาพได้
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยทำสัญญากับจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของจำเลยที่ 1 เพื่อความวินาศภัยอันเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งและซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบ มีลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยค้ำจุน ดังนั้นเมื่อจำเลย ที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยโดยตรงและมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยค้ำจุน: ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากการละเมิดของผู้อื่น
ค่าพาหนะไปมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาพยาบาลบาดแผลที่ถูกทำละเมิดเป็นค่าเสียหายที่เกิดโดยตรงสืบเนื่องจากการละเมิด.
โจทก์ถูกทำละเมิดแขนซ้ายพิการตลอดชีวิต. มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพราะเหตุทุพพลภาพได้.
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยทำสัญญากับจำเลยที่1 ว่า. จำเลยที่ 2 ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของจำเลยที่ 1. เพื่อความวินาศภัยอันเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งและซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดชอบ. มีลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยค้ำจุน. ดังนั้นเมื่อจำเลย ที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์. โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยโดยตรงและมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือนของเครื่องหมายและการใช้ก่อน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร winner ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษร winnerr ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมาย จ.1 ดังนี้ เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า "winnerr" กับ "winner" ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่ จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกัน เพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่ ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ ประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่ เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศ มีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกัน ผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่าย ว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกัน เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: การประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่าย และการหักลบค่าเสียหาย
กระบือของจำเลยหลุดไป จำเลยทราบแต่ไม่ติดตามทันที กระบือลงไปนอนแช่น้ำในลำคลองสาธารณะ แม้จำเลยจะประมาทด้วย แต่ความเสียหายหาได้เกิดเพราะความประมาทของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่ หากเกิดเพราะโจทก์ขับเรือยนต์ด้วยความเร็วจึงชนเอากระบือเข้า กระบือบาดเจ็บ เป็นความประมาทของโจทก์ด้วย โจทก์จึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายให้แก่จำเลย โดยให้หักความเสียหายอันเกิดเพราะความประมาทของจำเลยออกเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากช้างทำละเมิด: เจ้าของช้างไม่เกี่ยวข้องหากมอบให้บุตรดูแลและทำงานเอง
เจ้าของช้างมอบช้างให้บุตรไปดูแลเลี้ยงรักษาและทำงานหาประโยชน์ โดยเจ้าของช้างไม่ได้เกี่ยวข้องในการเลี้ยงหรือรับจ้าง เมื่อช้างทำความเสียหายขึ้นโดยละเมิดเจ้าของช้างไม่ต้องรับผิด บุตรผู้เลี้ยงรักษาช้างเท่านั้นต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: แม้มีสัญญาระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอก จำเลยยังต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการกระทำของลูกจ้าง
แม้นายหัดผู้เช่ารถโจทก์จะมีข้อสัญญารับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเช่าด้วยประการใดๆ ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างนายหัดกับโจทก์ ส่วนการที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์โดยตรง เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ และเมื่อจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้าง จำเลยที่ 2 จะอ้างเอาสัญญาระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของลูกจ้างและนายจ้าง แม้มีสัญญาเช่าระบุความรับผิดของผู้เช่า
แม้นายหัดผู้เช่ารถโจทก์จะมีข้อสัญญารับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเช่าด้วยประการใด ๆ ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างนายหัดกับโจทก์ ส่วนการที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์โดยตรง เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ และเมื่อจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้าง จำเลยที่ 2 จะอ้างเอาสัญญาระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอกมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้
of 278