คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการกู้ยืมและการบังคับคดี: คำให้การต่อสู้ของจำเลยใช้บังคับคดีไม่ได้หากโจทก์ไม่มีหลักฐานอื่น
ฟ้องเรียกเงินที่ทดรองจ่ายในการศพจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ชำระเงินจำนวนนั้นแทนผู้ซื้อที่ดินจากจำเลย และถึงหากจะฟังว่าเป็นดังฟ้อง ก็เป็นการกู้ยืมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อจำเลยให้การเป็นพยาน ก็ให้การเช่นเดียวกัน ดังนี้ แม้ฟังว่าเป็นการกู้ ก็บังคับคดีแก่จำเลยไม่ได้เพราะขณะฟ้องโจทก์ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือจะถือเอาคำให้การและคำเบิกความของจำเลยในการสู้คดี (ซึ่งรับว่าได้รับเงินจริง) มาอาศัยเป็นหลักฐานบังคับแก่จำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีกับผู้เช่าช่วง: สิทธิเมื่อผู้ให้เช่าเดิมยินยอม
ผู้เช่าช่วงห้องพิพาทจากจำเลย โดยโจทก์ผู้ให้เช่าเดิมรู้เห็นยินยอมไม่ใช่บริวารของจำเลย จะใช้คำพิพากษาที่บังคับขับไล่จำเลย มาบังคับขับไล่ผู้เช่าช่วงด้วยไม่ได้
ในกรณีที่โจทก์ฎีกาขอให้บังคับบริวารของจำเลย 10 รายเรียกค่าธรรมเนียมฎีกาของโจทก์เป็นเรื่องเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกคัดค้านบังคับคดีจากกองมรดก
แม้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามยอมของคู่ความอื่นไม่ได้ก็ตาม แต่ถ้าตามฟ้องของโจทก์เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้แสดงว่าคำพิพากษาตามยอมนั้นจะบังคับเอาจากกองมรดกซึ่งโจทก์เป็นผู้รับมรดกด้วยไม่ได้แล้ว ก็ย่อมมีสิทธิขอให้ศาลแสดงว่าคำพิพากษาตามยอมไม่อาจบังคับเอาจากกองมรดกนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: การไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้สิทธิในการบังคับคดีสิ้นสุดลง
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ชนะคดี เพียงแต่ขอหมายบังคับคดีไว้เฉยๆ 5-6 ปี มิได้นำยึดเพื่อบังคับให้เป็นผลตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นต่อไเมื่อโจทก์ผู้ชนะคดีนี้ได้บังคับคดีเอากับจำเลยผู้ร้องจึงโต้แย้งสิทธิขึ้นมา ดังนี้ จึงเป็นการยากที่จะถือว่ายังอยู่ในระยะเวลาที่ผู้ร้องจะปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: สิทธิการบังคับคดีไม่สูญเสียแม้ผู้ชนะคดีแรกไม่ดำเนินการ
ผู้ชนะคดีแรก เพียงแต่ขอหมายบังคับคดีไว้เฉยๆ 5-6ปี มิได้นำยึดเพื่อบังคับให้เป็นผลตามคำพิพากษาต่อมาโจทก์ผู้ชนะคดีหลังได้บังคับคดีเอากับจำเลยแม้ผู้ชนะคดีแรกจะโต้แย้งสิทธิขึ้นมา โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดี: สัญญาผ่อนปรนสิทธิ ไม่เปลี่ยนแปลงคำพิพากษา ไม่ฟ้องซ้ำ
คดีก่อนศาลชั้นต้นตัดสินให้โจทก์ (คือจำเลยในคดีก่อน) ชำระเงิน 3 ล้านบาทเศษแก่จำเลย (คือโจทก์ในคดีก่อน) คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นหนังสือกันนอกศาลว่า จำเลยยอมรับเงินจากโจทก์เพียง 7 แสนบาทแทนการเรียกให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และได้รับเงิน 7 แสนบาทไปแล้ว ต่อมาคดีนั้นศาลอุทธรณ์พิพาษายืน ไม่มีฝ่ายใดฎีกา จำเลย (ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อน) จะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นหาได้ไม่
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษาและจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยไม่ยอมรับฟังสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันนอกศาลนั้น แล้วจำเลยในคดีก่อนมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในดคีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดี: การฟ้องร้องตามสัญญา แม้มีคดีก่อน
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ (คือจำเลยในคดีก่อน)ชำระเงิน 3 ล้านบาทเศษแก่จำเลย (คือโจทก์ในคดีก่อน) คดีอยู่ในระหว่าง อุทธรณ์ โจทก์ จำเลย ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นหนังสือกันนอกศาลว่าจำเลยยอมรับเงินจากโจทก์เพียง 7 แสนบาท แทนการเรียกให้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา และได้รับเงิน 7 แสนบาทไปแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ไม่มีฝ่ายใดฎีกาจำเลย (ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อน)จะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นหาได้ไม่
ในกรณีข้างต้น เมื่อโจทก์ในคดีก่อนขอให้ศาลออกคำบังคับคดีตามคำพิพากษา และจำเลยในคดีก่อนอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นออกคำบังคับโดยอ้างสัญญาประนีประนอมดังกล่าวก็ดี จำเลยในคดีก่อนก็มีสิทธิมายื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อนขอให้บังคับโจทก์ในคดีก่อนปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวอีกได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีก่อนเป็นการโต้เถียงกันชั้นบังคับคดี คดีใหม่เป็นเรื่องฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การย้ายภารจำยอมในชั้นบังคับคดี: จำเลยมิอาจยกข้ออ้างใหม่ได้หากก่อให้เกิดประเด็นต้องสืบพยานเพิ่มเติม
จำเลยจะยกสิทธิขอให้ย้ายภารจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 3192 ขึ้นอ้างในชั้นบังคับคดีไม่ได้ เพราะเป็นการก่อให้เกิดประเด็นขึ้นใหม่ว่า การย้ายต้องไม่ทำให้ความสะดวกของเจ้าของสามยทรัพย์ลดน้อยลง ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาสืบพยานหลักฐานชี้ขาด ถ้าโจทก์ไม่ตกลงยินยอมในการย้าย จำเลยก็ต้องไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้ออ้างการย้ายภารจำยอมในชั้นบังคับคดีเป็นประเด็นใหม่ ต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
เมื่อศาลพิพากษาให้ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในภารจำยอมแล้วจำเลยจะยกสิทธิขอให้ย้ายภารจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1392 ขึ้นอ้างในชั้นบังคับคดีไม่ได้ เพราะเป็นการก่อให้เกิดประเด็นขึ้นใหม่ว่า การย้ายต้องไม่ทำให้ความสะดวกของเจ้าของสามยทรัพย์น้อยลง ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาสืบพยานหลักฐานชี้ขาด ฉะนั้นถ้าโจทก์ไม่ตกลงยินยอมในการย้าย จำเลยก็ต้องไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กฎหมายเก่าบังคับคดีอาญา แม้มีกฎหมายใหม่ยกเลิกแล้ว โดยพิจารณาจากหลักกฎหมายอาญา
ขณะกระทำผิด พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2496 ยังใช้บังคับอยู่ แม้ต่อมาชั้นพิจารณาได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อ พ.ศ. 2502 ก็ตาม แต่การฆ่าโคกระบือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายยังคงถือว่าเป็นความผิดอยู่ และไม่มีคุณแก่ผู้กระทำผิด จึงต้องใช้พระราชบัญญัติอากรการฆ่าสัตว์ที่ใช้ขณะกระทำผิดบังคับแก่คดีตามหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา
ฆ่ากระบือ กฏหมายให้ปรับเรียงตัวสัตว์ที่ฆ่าได้ไม่เกินตัวละ 500 บาท ฉะนั้น เมื่อศาลปรับเรียงตัวจำเลยจึงปรับได้ไม่เกินคนละ 500 บาท
of 270