คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมายป่าไม้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 53 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3430/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปตามกฎหมายป่าไม้: ลักษณะการติดตั้งที่ไม่ถาวร ทำให้ไม้ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นไม้แปรรูป
ไม้ของกลางที่รื้อมาจากบ้านของจำเลยบางส่วน เฉพาะส่วนที่เป็นฝาชั้นบนและชั้นล่างหนา 1 นิ้วบ้าง 5 กระเบียดบ้าง ไม่ได้ไสกบ และตีตะปูไว้เพียงหัวท้าย สามารถรื้อออกจากตัวบ้านได้ง่าย ไม้ฝาชั้นล่างก็เพียงตีทาบไว้ระหว่างเสาไม้ ไม่มีลักษณะเป็นฝาที่ป้องกันอะไรได้ ส่วนที่เป็นไม้พื้นก็ไม่มีลักษณะเป็นไม้พื้นถาวร ไม่อยู่ภายในกรอบของตัวบ้านไม้ของกลางมีลักษณะเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพพรางว่าเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรืออยู่ในสภาพสิ่งปลูกสร้างอันไม่ชอบด้วยลักษณะสิ่งปลูกสร้างทั่ว ๆ ไป จึงเป็นไม้แปรรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปไม้และการปฏิบัติตามกฎหมายป่าไม้ แม้ได้รับอนุญาตโรงงานแล้ว
การไสไม้ ตัดไม้ บังใบ แม้จะกระทำต่อไม้ที่แปรรูปแล้ว แต่ก็ย่อมทำให้รูปและขนาดของไม้เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย จึงเป็นการแปรรูปไม้ตามกฎหมาย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานไสไม้และซอยไม้จากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 แต่เมื่อโรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2482 มาตรา 48 ซึ่งแก้ไขแล้ว คือจำเลยจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบกิจการโรงงานในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายป่าไม้ควบคู่ไปด้วย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกให้ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และทำการแปรรูปไม้ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19 กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกโสดหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้หวงห้าม, การตัดไม้, แปรรูปไม้, การครอบครองไม้แปรรูป: การบังคับใช้กฎหมายป่าไม้และการรอการลงโทษ
ไม้ยางไม่ว่าจะขึ้นอยู่ใดในราชอาณาจักร ย่อมเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. แม้จะเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลย การทำไม้ยางก็ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
การแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง ไม่ว่าไม้นั้นจะขึ้นอยู่ในที่ใด ถ้าได้กระทำในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่
พระราชบัญญัติป่าไม้ ฉบับหลังที่ให้ยกเลิกข้อความมาตราใดในพระราชบัญญัติฉบับเดิม และให้ใช้ข้อความใหม่แทนนั้น ไม่ใช่เป็นการยกเลิกกฎหมาย แต่เป็นการแก้ไขแม้ศาลจะมิได้กล่าวถึง พระราชบัญญัติฉบับหลัง ที่ให้แก้ไขมาตราดังกล่าว ก็ต้องบัญญัติตามข้อความที่แก้ไขใหม่นั้น
การตัดฟันทำไม้แปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองแม้เป็นการกระทำแก่ไม้ต้นเดียวกันแต่เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระจึงเป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน
การที่ศาลเรียงกระทงลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปี รวม 3 กระทง เป็นเวลา 3 ปีนั้น เมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 2 ปี ศาลก็รอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูป: การพิสูจน์สภาพเดิมของไม้เพื่ออ้างข้อยกเว้นตามกฎหมายป่าไม้
ไม้ที่มิให้ถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามมาตรา 4(4) วรรค 2 นั้น แยกได้เป็นสองอย่าง คือ ไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรืออยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ในสภาพเช่นนั้นอย่างหนึ่ง กับไม้ที่เคยอยู่ในสภาพดังกล่าว คือ เคยเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเคยเป็นเครื่องใช้มาแล้ว และผู้ครอบครองพิสูจน์ได้ว่าได้เคยมีสภาพเช่นนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีสำหรับไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้สัก และห้าปีสำหรับไม้สักอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้น ตามความหมายในกฎหมายดังกล่าว ผู้ครอบครองจะต้องพิสูจน์แต่เฉพาะกรณีที่ไม้นั้นมิได้อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือมิได้อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ แต่กล่าวอ้างว่าเคยมีสภาพเช่นนั้นมาแล้วเท่านั้น ส่วนบานประตูและบานหน้าต่างไม้สักของกลางเป็นไม้ที่ทำขึ้นใหม่ อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน จึงมิใช่ไม้แปรรูป และผู้ครอบครองหาจำต้องพิสูจน์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดในพื้นที่ป่าโครงการของรัฐ จำเลยมีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้
จำเลยไปแจ้งความต่อร้อยตำรวจโท อ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรและเวรสอบสวนว่าสุนัขของ ม. กัดหลานของจำเลย อ. มิได้สั่งให้ตำรวจลงบันทึกแจ้งความตามที่จำเลยมาแจ้ง โดยอ้างว่าอาจเป็นสุนัขกลางตลาดก็ได้ จะไปสืบหาเจ้าของสุนัขเสียก่อน จำเลยยืนยันว่าเป็นสุนัขของ ม. แต่อ. ไม่ยอมรับแจ้งความในทันที อ. และจำเลยจึงโต้เถียงกันในเรื่องไม่ลงบันทึกประจำวัน จำเลยได้กล่าวต่อ อ. ว่า ทำอย่างนี้ไม่ยุติธรรม ดังนี้ มีความหมายว่า อ. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยามต่อ อ. เป็นถ้อยคำดูหมิ่น อ. จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ไม่ใช่เป็นการต่อว่าที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามคลองธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2647-2651/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าของไม้เมื่อผู้นำไม้เคลื่อนที่กระทำผิดกฎหมายป่าไม้
จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าของไม้ ได้ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 นำไม้เคลื่อนที่โดยบรรทุกรถยนต์ไปคนละคันมีใบเบิกทางระบุชื่อจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นผู้ควบคุมการนำไม้เคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้จึงอยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ตามที่ระบุไว้ในใบเบิกทางแต่ละฉบับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นผู้รับผิดชอบในการนำไม้เคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้ให้ถูกต้องตามกฎหมายการที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 นำไม้เคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้ในเวลากลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯนั้นเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 4 ได้ร่วมกระทำผิดด้วย จำเลยที่ 4 ในฐานะเจ้าของไม้ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1ถึงที่ 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปประกอบล้อเกวียนยังไม่เป็นเครื่องใช้ ไม่อยู่ในข้อยกเว้นตามกฎหมายป่าไม้
จำเลยมีไม้หวงห้ามทำเป็นซี่ล้อ ดุมล้อ คันชัก และฝักขามสำหรับประกอบเป็นล้อเกวียนและเกวียนเพื่อจำหน่าย เมื่อยังมิได้ประกอบเป็นล้อเกวียนหรือเกวียน จึงไม่อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้คงถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมายป่าไม้
บานประตูและบานหน้าต่างของกลางนั้น กรอบนอกส่วนหัวและส่วนกลางเข้าเดือยหรือลิ่มแน่นหนามั่นคง และเซาะเป็นร่องที่บานเจตนาเพื่อใช้เป็นบานประตู บานหน้าต่างโดยเฉพาะแม้ส่วนหัวและส่วนท้ายไม่เรียบเสมอกัน ไสกบไม่เรียบร้อย ไม่มีรอยบากเพื่อใส่เหล็กริโก้หรือเพื่อใส่บานพับ จะนำไปใช้ประกอบสิ่งปลูกสร้างทีเดียวไม่ได้ ก็เป็นบานประตู บานหน้าต่าง สำเร็จรูปแล้วคงอยู่แต่จะตบแต่งติดตั้งเท่านั้น จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างแล้วไม่ใช่ไม้แปรรูป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปทำเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูป ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมายป่าไม้
บานประตูและบานหน้าต่างของกลางนั้น กรอบนอกส่วนหัวและส่วนกลางเข้าเดือยหรือลิ่มแน่นหนามั่นคงและเซาะเป็นร่องที่บาน เจตนาเพื่อใช้เป็นบานประตู บานหน้าต่างโดยเฉพาะแม้ส่วนหัวและส่วนท้ายไม่เรียบเสมอกัน ไสกบไม่เรียบร้อย ไม่มีรอยบากเพื่อใส่เหล็กริโก้หรือเพื่อใส่บานพับ จะนำไปใช้ประกอบสิ่งปลูกสร้างทีเดียวไม่ได้ ก็เป็นบานประตู บานหน้าต่าง สำเร็จรูปแล้วคงอยู่แต่จะตบแต่งติดตั้งเท่านั้น จึงเป็นเครื่องใช้สำหรับสิ่งปลูกสร้างแล้ว ไม่ใช่ไม้แปรรูป
of 6