คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมายลักษณะอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลดโทษผู้กระทำผิดอายุไม่เกิน 20 ปี ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา (ฉบับที่ 14) แม้ประกาศใช้หลังเกิดเหตุ
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา (ฉะบับที่ 14) พ.ศ.2494 มาตรา 7 ที่ว่า " ผู้ใดอายุกว่าสิบเจ็ดขวบแต่ยังไม่เกินยี่สิบขวบกระทำการอันกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด ถ้าศาลเห็นสมควรจะลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ลง 1 ใน 3 หรือกึ่งหนึ่งก็ได้ " แม้ พ.ร.บ.นี้จะประกาศใช้ภายหลังการกระทำผิดของจำเลยก็ดี แต่ถ้าคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล ศาลนั้นก็มีอำนาจที่จะยก พ.ร.บ.นี้ขึ้นปรับบทให้เป็นคุณแก่จำเลยได้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณระยะเวลาจำคุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา: ใช้ปีสุริยคติ หรือ 30 วันต่อเดือน
การคำนวณกำหนดโทษจำคุกนั้น ก.ม.ลักษณะอาญาได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี ก็ต้องคิดเวลา 12 เดือนตามสุริยคติกาลดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ข้อ 22 ถ้าต้องคิดระยะเวลาเป็นเดือนก็ต้องคิด 30 วันเป็นหนึ่งเดือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุเด็กในคดีอาญา: การนับอายุ 16 ปีบริบูรณ์ตามกฎหมายลักษณะอาญา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าจำเลยเป็นเด็กอายุยังไม่เต็ม 16 ปีบริบูรณ์
โจทก์ฎีกาว่า ศาลล่างทั้งสองใช้วิธีนับอายุจำเลยยังไม่ถูก ต้องนำมาตรา 16 แห่งป.ม.แพ่งฯ มาใช้จึงจะถูก ดังนี้ถือว่าโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างจำเลยมีอายุไม่เต็ม 16 ปี
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีอาญาซึ่งมีอายุ 16 ปี ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานมาแล้วว่า ต้องนับอายุ 16 ปีบริบูรณ์ตามนัยฎีกาที่ 1738/2492 จะนับตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 16 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างการพิจารณาคดี และผลกระทบต่อความผิดของผู้ต้องหา
ในขณะพิจารณาคดี ได้มีกฎกระทรวงการคลังฉะบับที่ 7 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน 2485 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2491 ยกเลิกความในข้อ 2,11 แห่งกฎกระทรวงการคลังฉะบับที่ 1 อันเป็นบทบัญญัติความผิดในคดีแล้ว จึงต้องใช้กฎหมายที่มีโทษเบาแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 8 จำเลยจึงไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกกฎกระทรวงทำให้จำเลยไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
ในขณะพิจารณาคดี ได้มีกฎกระทรวงการคลังฉบับที่ 7 ออกตามความใน พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน 2485 ลงวันที่14 มีนาคม 2491 ยกเลิกความใน ข้อ 2,11 แห่งกฎกระทรวงการคลังฉบับที่ 1 อันเป็นบทบัญญัติความผิดในคดีแล้ว จึงต้องใช้กฎหมายที่มีโทษเบาแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 จำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามตามกฎหมายลักษณะอาญาใช้ได้กับพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว การกระทำผ่านขั้นตระเตรียมเข้าสู่พยายาม
ความผิดฐานพยายามที่ได้บัญญัติไว้ในภาค 1 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา ย่อมนำมาใช้ในพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าวได้
ปรากฏตามคำพยานโจทก์ว่า จำเลยซื้อข้าวในอำเภอบางเลนเพียงเกวียนเดียว อีก 25 เกวียนจำเลยแสดงไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ใด แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานจับข้าวทั้ง 26 เกวียนได้ในอำเภอบางเลน กำลังจะเอาออกนอกเขตอำเภอบางเลน การที่ศาลพิพากษาว่า จำเลยนำข้าว 26 เกวียนออกนอกเขต จึงไม่ใช่การวินิจฉัยคำพยานหลักฐานนอกสำนวน
จำเลยนำข้าวออกนอกเขตอีก 8 เส้นจะพ้นเขตอำเภอบางเลนถ้าหากเจ้าพนักงานไม่จับจำเลยได้เสียก่อน จำเลยก็นำข้าวออกไปได้สำเร็จการกระทำของจำเลยผ่านขั้นตระเตรียมการเข้าขั้นพยายามแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 40 ในคดี พ.ร.บ.การพะนัน: ศาลมีอำนาจยกเว้นโทษจำคุกได้
ศาลพิพากษาจำคุกจำเลยตาม พ.ร.บ.การพะนัน (ฉะบับที่ 3) มาตรา 3 ศาลมีอำนาจยกกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 มาใช้บังคับได้.
(อ้างฎีกา 170/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษจำคุกจาก พ.ร.บ.การพนัน โดยอาศัยหลักกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40
ศาลพิพากษาจำคุกจำเลยตาม พ.ร.บ.การพนัน 2485(ฉบับที่ 3)มาตรา 3 ศาลมีอำนาจยกกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 มาใช้บังคับได้ (อ้างฎีกา 170/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 ใช้กับ พ.ร.บ.การพนันได้
จำเลยต้องรับโทษจำคุก ตาม พ.ร.บ.การพนัน มาตรา 14 ทวิ (2) นั้น ศาลมีอำนาจยกกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40มาใช้ได้ มิได้เป็นการขัดแย้งกับ พ.ร.บ.การพนัน
(อ้างฎีกา 170/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลดโทษโดยอ้างอิงกฎหมายลักษณะอาญา แม้มีกฎหมายเฉพาะอื่นอยู่
จำเลยต้องรับโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติการพนันมาตรา14 ทวิ (2) นั้น ศาลมีอำนาจยกกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 มาใช้ได้ มิได้เป็นการขัดแย้งกับพระราชบัญญัติการพนัน (อ้างฎีกา 170/2489)
of 3