พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2764/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยต้องเป็นไปตามฟ้อง หากรายละเอียดการกระทำไม่ชัดเจน ศาลไม่สามารถลงโทษเกินกว่าที่ฟ้องได้
แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าความผิดที่จำเลยนำใบสำคัญปลอมไปเบิกเงิน มีการกระทำหลายครั้ง เป็นเวลาหลายเดือน แต่ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายรายละเอียดการกระทำของจำเลยให้ปรากฏพอที่จะให้เห็นว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษทุกกรรมดังที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงลงโทษจำเลยแต่ละกรรมนอกเหนือจากฟ้องหาได้ไม่
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ด้วย พนักงานอัยการก็มีสิทธิเรียกร้องทรัพย์คืนแทนผู้เสียหายได้
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ด้วย พนักงานอัยการก็มีสิทธิเรียกร้องทรัพย์คืนแทนผู้เสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการฆ่าผู้อื่น หลักฐานจากการกระทำและคำพูดสนับสนุน
จำเลยกับพวกเดินมาด้วยกันและเข้าไปพูดกับผู้ตาย แล้วพวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย 1 นัด ส่วนจำเลยยืนถือปืนอยู่ด้วย เมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกเดินหนีไปด้วยกัน ก่อนจะหนี จำเลยพูดดังๆ 2 ครั้งว่า คนอื่นไม่เกี่ยว ดังนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บจากการกีดขวางการออกจากพื้นที่
ล่ามโซ่ใส่กุญแจประตูใหญ่ ทำให้โจทก์ออกจากบริเวณบ้านไม่ได้ โจทก์ต้องปีนกำแพงรั้วกระโดดลงมาได้รับบาดเจ็บ เป็นความผิดตาม ประมวกฎหมายอาญา มาตรา 310วรรคแรก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามวิ่งราวทรัพย์: การกระทำยังไม่บรรลุผล แต่มีเจตนาและร่วมวางแผน
ผู้เสียหายจับสร้อยที่สวมคอไว้ ม. กระชากสร้อยขาดแต่ยังติดมือผู้เสียหายอยู่ ยังเป็นแต่จะทำให้สร้อยขาดหลุดจากคอเท่านั้น การเอาไปยังไม่บรรลุผล ผู้เสียหายร้องขึ้น ม. วิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยติดเครื่องคอยอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามขับหนีไปตามแผนการณ์ที่ร่วมกันวางไว้เป็นการพยายามวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ จำเลยเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 13 ด้วย
คดีที่ ม. เป็นจำเลย ศาลลงโทษตามคำรับสารภาพฐานวิ่งราวทรัพย์เป็นความผิดสำเร็จ คดีที่ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยนี้ได้ความว่าการกระทำเป็นเพียงพยายาม ศาลลงโทษคดีนี้ฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์
คดีที่ ม. เป็นจำเลย ศาลลงโทษตามคำรับสารภาพฐานวิ่งราวทรัพย์เป็นความผิดสำเร็จ คดีที่ศาลสั่งให้แยกฟ้องจำเลยนี้ได้ความว่าการกระทำเป็นเพียงพยายาม ศาลลงโทษคดีนี้ฐานพยายามวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะ: การป้องกันตัวจากผู้ถูกข่มเหง
ผู้ตายเข้าผลักอกและเตะจำเลยก่อน จำเลยเตะตอบไปหนึ่งทีครั้นจำเลยถอยออกไป ผู้ตายก็ยังคงเดินตามเข้าไปยังจำเลยอีกด้วยท่าทางอย่างคนจะชกต่อย ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงได้ยิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการกระทำเกินคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
จ่านายสิบตำรวจ ส. สั่งให้พลตำรวจ ย. ขึ้นไปจับ ป. บนเรือนและสั่งให้พลตำรวจ ท. และ น. ซุ่มอยู่รอบเรือน พลตำรวจ ย. ขึ้นไปบนเรือนยิง ป. ตาย ดังนี้ พลตำรวจ ย. กระทำเกินคำสั่งจึงต้องรับผิดในผลของการที่ตนกระทำลงนั้นแต่ผู้เดียวจ่านายสิบตำรวจ ส. และพลตำรวจ ท. และ น. มิได้ร่วมกระทำด้วยจึงไม่ต้องรับผิดในผลที่เกิดขึ้นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าทารก: การกระทำรุนแรงต่อมารดาและทารกที่อยู่ในความดูแล ชี้ถึงเจตนาฆ่า
จำเลยเตะภรรยาซึ่งอุ้มบุตรอายุเพียงเดือนเศษจนภรรยาล้มลงและบุตรกระเด็นหลุดตกลงไปยังพื้นดินถึง 2 ครั้ง
ขณะที่ภรรยาล้มนอนหงายอยู่กับพื้นดินจำเลยจับบุตรที่กระเด็นหลุดจากมือภรรยาไปนั้น ยกขึ้นกระแทกลงไปที่อกภรรยาโดยแรง จนบุตรเกิดอาการบวมที่หน้าและศีรษะ หายใจขัด และถึงแก่ความตายในวันที่จำเลยกระทำร้ายนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288
ขณะที่ภรรยาล้มนอนหงายอยู่กับพื้นดินจำเลยจับบุตรที่กระเด็นหลุดจากมือภรรยาไปนั้น ยกขึ้นกระแทกลงไปที่อกภรรยาโดยแรง จนบุตรเกิดอาการบวมที่หน้าและศีรษะ หายใจขัด และถึงแก่ความตายในวันที่จำเลยกระทำร้ายนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความพยายามฆ่า แม้ไม่สำเร็จผล หากมีเจตนาและกระทำไปในทิศทางนั้นแล้ว
การที่จำเลยใช้ปืนที่ขึ้นนกแล้วจ้องจะยิง ห่างจากอกผู้เสียหายเพียง 1 ศอก และยิงปืนขึ้นแต่มีผู้อื่นจับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้เบนไป แม้กระสุนปืนจะไม่ถูกผู้เสียหายก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า แม้ไม่สำเร็จผล หากมีเจตนาและกระทำไปในลักษณะที่น่าจะสำเร็จ
การที่จำเลยใช้ปืนที่ขึ้นนกแล้วจ้องจะยิง ห่างจากอกผู้เสียหายเพียง 1 ศอก และยิงปืนขึ้น แต่มีผู้อื่นจับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้เบนไป แม้กระสุนปืนจะไม่ถูกผู้เสียหายก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำพยานหลักฐานเท็จต้องก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถูกกล่าวหา จึงจะถือเป็นความผิด
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยให้โอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา จำเลยสมคบกับพวกกระทำพยานหลักฐานเท็จโดยจำเลยทำสัญญากู้เงินผู้อื่นแล้วให้ผู้อื่นมาฟ้องเรียกเงินกู้ต่อศาล และจำเลยยอมความยอมใช้เงินตามสัญญากู้ ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้เป็นหนี้สินตามสัญญากู้นั้นเลย ดังนี้ เพียงเท่านี้โจทก์ยังไม่ได้รับความเสียหายอย่างใด ย่อมไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานกระทำพยานหลักฐานเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 157 ได้./