พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214-1219/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมสำนวนคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกัน และการพิจารณาโทษบรรเทาตามมาตรา 78
โจทก์ฟ้องจำเลยว่าได้ กระทำผิดในเรื่องเดียวกันหกสำนวน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกันและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้รวมการพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน การฟังพยานหลักฐานก็ต้องฟังรวมเป็นคดีเดียว กันเมื่อศาลฎีกาได้ ยกปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ร่วมสำนวนที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 ขึ้นวินิจฉัยแม้ฎีกา ของจำเลยในข้ออื่นจะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงในสำนวนของโจทก์ร่วมดังกล่าวได้ และย่อมมีอำนาจพิจารณาไปถึงข้อเท็จจริงในสำนวนที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ซึ่งต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ด้วย หากการกระทำของจำเลยในสำนวนใดไม่เป็นความผิดศาลฎีกาก็ย่อมยกฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: การรับเอาทรัพย์ที่ลักมาโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น และการพิจารณาโทษ
จำเลยหาบข้าวของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปไปกองไว้ด้วยตนเอง เมื่อปรากฏว่าลักษณะของฟ่อนข้าวของผู้เสียหายกับของจำเลยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากวัสดุที่ใช้มัดข้าวของผู้เสียหายเป็นไม้ไผ่ของจำเลยเป็นหญ้าแฝก ข้าวก็เป็นคนละพันธุ์ ข้าวของผู้เสียหายที่อยู่ในลานข้าวของจำเลยก็มิได้วางไว้พื้นนาแต่มีกองข้าวของจำเลยปิดทับอยู่ ต้องรื้อกองข้าวของจำเลยออกจึกพบข้าวของผู้เสียหาย พฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าจำเลยรับเอาข้าวของผู้เสียหายไว้ โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ลักมาจำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำคุกเพื่อการฎีกา: โทษแต่ละกระทงมิใช่โทษรวม
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 นั้น หมายถึงโทษแต่ละกระทง มิใช่หมายถึงเอาโทษของแต่ละกระทงมารวมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องลดจากโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลวางไว้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76พึงวางโทษภายในอัตราที่ได้ลดมาตราส่วนจากโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ แล้ว ไม่ใช่วางโทษตามบทความผิดเสียก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วจึงลดจากโทษที่ศาลวางไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำคุกในคดีฆ่าผู้อื่น โดยพิจารณาจากเจตนาและพฤติการณ์แห่งการกระทำ
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์ฎีกาขอให้วางโทษจำเลยให้หนักขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบกับมาตรา 225 แล้ว ที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92 นั้น ศาลได้วางโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตแล้ว จึงเพิ่มโทษอีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 51 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2508)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษและการล้างมลทินโทษ: การพิจารณาโทษสะสมหลังได้รับการล้างมลทินโทษในคดีก่อน
จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุก 2 คดี ศาลให้นับโทษต่อกัน ระหว่างจำเลยต้องคุมขังในคดีหลัง ได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินโทษ ให้ล้างมลทิน แก่ผู้ต้องคำพิพากษาในกรณีความผิดคดีต่าง ๆ ซึ่งเกิดก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2499 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการอภัยโทษ เนื่องในโอกาศครบ 25 พุทธศตวรรษ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้ ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดในคดีนั้น ๆ ดังนี้ การต้องคุมขังของจำเลยในคดีก่อน ย่อมเป็นพับไปแก่จำเลยเอง จะยกการต้องคุมขังในคดีก่อนไปใช้แทนโทษในคดีหลังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: การพิจารณาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 แทนกฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยเป็นเสมียนแผนกตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดพังงา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ผู้เป็นหัวหน้าได้มอบหมายการงานซึ่งอยู่ในแผนกให้แก่จำเลยปฏิบัติ จำเลยได้ยักยอกเงินและสิ่งของที่ได้รับมอบหมายไว้ตามหน้าที่ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอก
อัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ย่อมเบากว่าตามกฎหมาย ลักษณะอาญา มาตรา 131
อัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ย่อมเบากว่าตามกฎหมาย ลักษณะอาญา มาตรา 131
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลสาหัสจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาโทษฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต
ได้ความว่าผู้เสียหายถูกทำร้ายถึง 2 แห่งคือที่แขนและที่น่าอก บาดแผลทั้ง 2 แห่งนี้ปรากฏว่าระยะการรักษาเพียง 15 วันแผลตกนะเก็ดลุกขึ้นลงเรือนได้ แต่ได้ความว่าบาดแผลนี้รักษาอยู่ 23 วันยังไม่หายดี ระหว่างรักษาตัวทำการงานอะไรไม่ได้ เมื่อเบิกความเป็นพยานครั้งหลังจากเกิดเหตุ 2 เดือน 4 วัน หายใจรู้สึกเสียวที่น่าอกยังทำการงานอะไรไม่ได้ เช่นนี้ถือว่าเป็นบาดแผลสาหัสต้องตาม ม.256 ก.ม.อาญา ไม่ใช่บาดเจ็บธรรมดาตาม ม.254 ก.ม.อาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลถึงสาหัสและฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าก็ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายบาดเจ็บสาหัสตาม ม.256 ได้.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยพยายามฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.254 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ดังนี้เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าบาดแผลถึงสาหัสและฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าก็ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายบาดเจ็บสาหัสตาม ม.256 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษคดีอาญา แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยพฤติการณ์ที่เป็นคุณได้
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพมิได้นำพยานเข้าสืบต่อสู้แต่ประการใดก็ตามแต่ถ้าปรากฏต่อศาลว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นคุณแก่จำเลยอยู่ ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลดโทษโดยอ้างอิงกฎหมายลักษณะอาญา แม้มีกฎหมายเฉพาะอื่นอยู่
จำเลยต้องรับโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติการพนันมาตรา14 ทวิ (2) นั้น ศาลมีอำนาจยกกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 มาใช้ได้ มิได้เป็นการขัดแย้งกับพระราชบัญญัติการพนัน (อ้างฎีกา 170/2489)