คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การแจ้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4036/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดโดยไม่แจ้งเจ้าของทรัพย์ การปิดประกาศไม่ชอบ และการบังคับคดีที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
พนักงานเดินหมายปิดประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทยังบ้านที่จำเลยแจ้งย้ายออกไปแล้ว ไม่ใช่เป็นการปิด ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักงานทำการงานของจำเลยและเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีการประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายนัดโดยวิธีธรรมดา ทั้ง ๆที่การส่งโดยวิธีธรรมดายังทำได้อยู่ ย่อมเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคแรก ถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทไม่ทราบประกาศขายทอดตลาด การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไปโดยไม่แจ้งให้ทราบซึ่งคำสั่งศาลและวันขายทอดตลาดแก่จำเลย ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงเป็นการดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อ ป.วิ.พ. มาตรา296 วรรคสอง และมาตรา 306

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3885/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการขายทอดตลาดโดยผู้เยาว์ทำให้การแจ้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการขายทอดตลาดเป็นโมฆะ
การส่งประกาศขายทอดตลาดโดยทางไปรษณีย์ตอบรับหากผู้รับประกาศขายทอดตลาดมีอายุ 17-18 ปี การส่งเอกสาร ดังกล่าวก็ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 73 ทวิ,76

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โดยการปิดหมายที่ภูมิลำเนาถือเป็นการส่งคำบังคับโดยชอบ และมีผลบังคับตามกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 6 คำว่า "พิพากษา" หมายความตลอดถึงการที่ศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีโดยทำเป็นคำสั่ง และมาตรา 19 ว่า"คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ให้ถือเสมือนว่า เป็นหมายของศาลให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ายึดดวงตราสมุดบัญชีและเอกสารของลูกหนี้และบรรดาทรัพย์สิน ซึ่งอยู่ในความครอบครองของลูกหนี้หรือของผู้อื่นอันอาจแบ่งได้ในคดีล้มละลาย... ฯลฯ" ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหมายเรียกให้จำเลยไปให้การเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินโดยแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดของศาลให้จำเลยทราบด้วยและได้ปิดหมายเรียกดังกล่าวที่ภูมิลำเนาของจำเลยถือว่าเป็นการส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลยโดยชอบ จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208ต้องยื่นคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับนั้นให้แก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6047/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้แทนเฉพาะคดี: การแจ้งและการคัดค้าน การพิจารณาคำร้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
การร้องขอให้ตั้งผู้แทนเฉพาะคดี ผู้ร้องอาจยื่นคำร้องได้แต่ฝ่ายเดียว การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โฆษณาประกาศวันนัดไต่สวนทางหนังสือพิมพ์ก็เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบโดยทั่วไปหากผู้ที่เกี่ยวข้องจะคัดค้านประการใดให้ยื่นคำคัดค้านได้ตามวันเวลาที่กำหนดนัด ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของการไต่สวนคำร้องว่ามีความจำเป็นต้องตั้งผู้แทนเฉพาะคดีหรือไม่ จึงไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องและกำหนดวันนัดไต่สวนให้ผู้ใดทราบเป็นการเฉพาะตัว และการที่ศาลจะตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้แทนเฉพาะคดีก็โดยคำนึงถึงประโยชน์เฉพาะตัวของผู้เสียหายเท่านั้น เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนเฉพาะคดีแล้ว ผู้หนึ่งผู้ใดจะร้องขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งวันนัดสืบพยานเมื่อจำเลยทราบวันชี้สองสถานแล้ว ศาลไม่จำเป็นต้องแจ้งวันนัดสืบพยานซ้ำ
จำเลยทราบวันนัดชี้สองสถานโดยชอบแล้ว แต่ถึงวันนัดจำเลยไม่มาและศาลได้ชี้สองสถานไปโดยกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ด้วยการกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 วรรคสองแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2527บัญญัติไว้ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายที่ไม่มาศาลในวันชี้สองสถานทราบแล้วจึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ เมื่อจำเลยไม่มาในวันนัดสืบพยาน ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งการปฏิเสธการจ่ายเช็คและการนับอายุความคดีเช็ค การแจ้งตามความเป็นจริงเป็นสำคัญ
โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ส. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่3,4 และ 8 เมษายน 2529 ทั้งสามครั้ง และธนาคารตามเช็คแจ้งให้ธนาคาร ส.ทราบเมื่อวันที่8เมษายน2529ธนาคารส. แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คให้ด้วย แม้ด้านหลังเช็คพิพาทมีข้อความระบุชัดว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คยังคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ 9 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3เมษายน 2529 และนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยาน และการแจ้งการประเมินเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนโดยชอบ
แม้โจทก์จะมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเอกสารที่อ้างและมิได้ส่งสำเนาเอกสารให้จำเลยภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวเพราะเห็นว่า เป็นพยานหลักฐานอันสำคัญเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีจำเป็น จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลชั้นต้นรับฟังพยานหลักฐานนั้นได้
โจทก์ได้แจ้งการประเมินเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์การประเมินดังกล่าวต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบ จำเลยก็ต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดที่ดิน - การแจ้งเจ้าพนักงานที่ดิน - ผลของการไม่แจ้ง
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินมีโฉนด แต่มิได้แจ้งการยึดแก่เจ้าพนักงานที่ดิน ไม่ทำให้การยึดและขายทอดตลาดที่ดินนั้นเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งคำสั่งปรับนายประกันที่ถึงแก่กรรมก่อนการแจ้งมีผล การเพิกถอนคำสั่งปรับ และอำนาจลดค่าปรับของศาล
นายประกันทำสัญญาประกันตัวจำเลยต่อศาล ต่อมาศาลออกหมายนัดให้ส่งตัวจำเลย เจ้าหน้าที่ผู้ส่งหมายรายงานว่านายประกันไม่มีตัวอยู่ในท้องที่นั้น ไม่สามารถส่งหมายให้ได้ ศาลสั่งให้ส่งโดยวิธีประกาศแจ้งวันนัดที่ศาล ถึงกำหนดแล้วนายประกันมิได้ส่งตัวจำเลย ศาลจึงสั่งปรับนายประกันเต็มตามสัญญา และส่งหมายให้นายประกันทราบคำสั่งโดยวิธีปิดคำสั่งไว้ที่ศาล แต่นายประกันได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่การส่งหมายดังกล่าวมีผลตามกฎหมาย กรณีเช่นนี้จะถือว่านายประกันได้ทราบคำสั่งให้ปรับนายประกันแล้วยังไม่ได้ ระยะเวลาอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวจึงยังไม่เริ่มนับ และคำสั่งปรับนายประกันยังไม่ถึงที่สุดผู้จัดการมรดกของนายประกันจึงชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งศาลที่สั่งให้ปรับนายประกันได้ เมื่อศาลไต่สวนคำร้องแล้ว ได้ความว่า การที่นายประกันไม่มีตัวอยู่ที่ภูมิลำเนาในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไปส่งหมายนัดเป็นเพราะเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงแก่กรรม ทั้งจำเลยเองก็ได้มามอบตัวต่อศาลแล้ว ดังนี้ ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะลดค่าปรับนายประกันลงตามที่เห็นสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งคำสั่งศาลและการขาดนัด พิจารณาจากเจตนาและการสื่อสารคำสั่งอย่างถูกต้อง
ในคดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไปจนกว่าจะจับตัวจำเลยได้ และในท้ายคำร้อง ทนายโจทก์ได้เซ็นที่หมายเหตุว่า"ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว" ศาลได้มีคำสั่งในวันรุ่งขึ้นว่าให้เลื่อนคดีไปโดยโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งศาล ดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166,181 หาชอบไม่
of 3