พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4449-4450/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.แร่ ถือเป็นความผิด แม้จะอ้างเหตุผลเรื่องการนำไปแต่งและฝากเก็บ
จำเลยผู้รับใบอนุญาตซื้อแร่นำแร่ออกจากสถานที่ซื้อแร่ไปแต่งและฝากไว้ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ขนแร่ การขนแร่ออกนอกสถานที่ซื้อแร่จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 108 จำเลยจะอ้างเหตุดังกล่าวมาเป็นข้อพิสูจน์ตามมาตรา 152 ตรีว่าการที่แร่ขาดบัญชีมิใช่ความผิดของจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4449-4450/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ แม้จะอ้างเหตุผลเรื่องการแต่งแร่และฝากเก็บ
จำเลยผู้รับใบอนุญาตซื้อแร่นำแร่ออกจากสถานที่ซื้อแร่ไปแต่งและฝากไว้ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ขนแร่ การขนแร่ออกนอกสถานที่ซื้อแร่จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 108 จำเลยจะอ้างเหตุดังกล่าวมาเป็นข้อพิสูจน์ตามมาตรา 152 ตรีว่าการที่แร่ขาดบัญชีมิใช่ความผิดของจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4141/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์นายจ้าง: การนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปเตรียมขนย้ายถือเป็นการเอาทรัพย์ไปจากครอบครองแล้ว
จำเลยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย เอาบุหรี่ของผู้เสียหายซึ่งเก็บไว้ที่ชั้นเก็บของบนชั้นที่ 2 ของร้าน บรรจุลงไว้ในกล่องกระดาษสำหรับบรรจุข้าวเกรียบกุ้ง ปิดฝากล่องใช้กระดาษกาวปิดทับ แล้วนำไปวางไว้บนชั้นที่ 3 เพื่อเตรียมขนย้ายไปจากร้านผู้เสียหาย เป็นการเอาทรัพย์ไปจากการครอบครองของผู้เสียหายแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายและครอบครองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต การริบของกลาง และการใช้บทกฎหมายที่ถูกต้อง
ใช้รถยนต์ขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาตขนแร่และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีแร่ไว้ในครอบครอง ศาลจึงต้องริบทั้งแร่และรถยนต์ของกลางขณะกระทำผิด พระราชบัญญัติ แร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 ยังมิได้ใช้บังคับ ศาลจะนำ มาตรา 18,21,27แห่ง พระราชบัญญัติ แร่(ฉบับที่ 3)พ.ศ.2522 ซึ่งไม่เป็นคุณแก่จำเลยมาปรับบทลงโทษจำเลยหาได้ไม่ต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายเก่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3773/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีแร่ไว้ในครอบครอง: การขนย้ายและแต่งแร่อยู่คนละกรรม
องค์การเหมืองแร่จ้างจำเลยผลิตแร่ในเขตประทานบัตร ต่อมาจับจำเลยพร้อมแร่ของกลางที่บ้านจำเลยนอกเขตประทานบัตรขององค์การการที่จำเลยมีแร่ไว้ในครอบครองเป็นความผิดสำเร็จลงเมื่อจำเลยขนแร่ลงที่บ้านจำเลย เมื่อจำเลยแต่งแร่หรือล้างแร่ขึ้นอีกจึงเป็นความผิด อีกกรรมหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2656/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้แร่จะมาจากการครอบครองที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 108 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดขนแร่ในที่ใดเว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามอนุมาตรา 1ถึง 10 ย่อมใช้บังคับในกรณีที่มีแร่ไว้ในครอบครองโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่3ครอบครองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตและขนแร่ดังกล่าวโดยฝ่าฝืนมาตรา 108 จึงต้องมีความผิดฐานมีแร่ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง และฐานขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 คนละ 214,844.58 บาทโดยกำหนดว่าหากไม่ชำระค่าปรับให้กักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่มิได้ระบุชัดแจ้งว่าจะกักขังเกินหนึ่งปีหรือไม่และมีกำหนดเท่าใดเช่นนี้ จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1835/2514)
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 คนละ 214,844.58 บาทโดยกำหนดว่าหากไม่ชำระค่าปรับให้กักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่มิได้ระบุชัดแจ้งว่าจะกักขังเกินหนึ่งปีหรือไม่และมีกำหนดเท่าใดเช่นนี้ จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1835/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2656/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตแม้แร่จะครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 108 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดขนแร่ในที่ใดเว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามอนุมาตรา 1ถึง 10 ย่อมใช้บังคับในกรณีที่มีแร่ไว้ในครอบครองโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่3 ครอบครองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตและขนแร่ดังกล่าวโดยฝ่าฝืนมาตรา 108 จึงต้องมีความผิดฐานมีแร่ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกระทงหนึ่ง และฐานขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3คนละ 214,844.58 บาทโดยกำหนดว่าหากไม่ชำระค่าปรับให้กักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 แต่มิได้ระบุชัดแจ้งว่าจะกักขังเกินหนึ่งปีหรือไม่และมีกำหนดเท่าใดเช่นนี้ จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1835/2514)
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3คนละ 214,844.58 บาทโดยกำหนดว่าหากไม่ชำระค่าปรับให้กักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 แต่มิได้ระบุชัดแจ้งว่าจะกักขังเกินหนึ่งปีหรือไม่และมีกำหนดเท่าใดเช่นนี้ จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1835/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์โดยใช้ผู้อื่นขนย้าย: จำเลยสั่งการให้ขนทรัพย์และรับทรัพย์ที่ได้มาโดยรู้ว่าเป็นของร้าย
จำเลยลักใบยาโดยใช้ ร.และก.ขนไปร. ก.ไม่รู้ไม่ได้ร่วมทำผิด จำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์ ไม่ใช่ใช้ให้ร.ก.ทำผิดคำของร.ก.มีน้ำหนักให้รับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2636/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตเขตห้ามขนย้ายข้าวตามประกาศคณะกรรมการฯ: ชายฝั่งคืออาณาเขตสิ้นสุด
ประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ฉบับที่ 109 พ.ศ.2519 ข้อ 5 มีข้อความว่า "เขตห้ามขนย้ายข้าวแต่ละเขตซึ่งกำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ เขตใดมีอาณาเขตติดต่อกับต่างประเทศหรือทะเล ถ้าด้านใดติดต่อกับต่างประเทศหรือทะเลนั้น ในตอนใดเป็นทางน้ำหรือทะเลให้ถือว่าเขตห้ามขนย้ายข้าวมีกำหนดเพียงชายตลิ่งหรือชายฝั่งแล้วแต่กรณี "จำเลยขนย้ายข้าวของกลางจากอำเภอเมืองสตูลไปทางทะเลเพื่อไปยังเกาะเป็นการขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายเพราะเขตห้ามขนย้ายข้าวของอำเภอเมืองสตูลมีกำหนดเพียงชายฝั่งซึ่งหมายถึงริมฝั่งที่เป็นพื้นดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สนับสนุนการลักทรัพย์: การกระทำที่แสดงเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิด และมีส่วนร่วมในการขนย้ายทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด
จำเลยที่ 3 จ้างให้จำเลยที่ 2 พาไปหารถมาบรรทุกไม้ จำเลยที่ 2 พาจำเลยที่ 3 ไปติดต่อกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขับรถบรรทุกไปจอดรออยู่ที่หลังสถานีรถไฟ จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ให้จำเลยที่ 3 นั่งซ้อนท้ายไปจอดอยู่ใกล้กับรถบรรทุก ขณะนั้นมีไม้กระดานของผู้เสียหายซึ่งได้ฝากเก็บไว้ใต้ถุนบ้านพักคนงานรถไฟถูกลักจากที่เก็บมากองไว้บริเวณนั้นจำนวนหนึ่งแล้ว จำเลยที่ 3 บอกว่าจะเข้าไปขนไม้มาอีก จำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็รู้อยู่แล้วว่า จำเลยที่ 3 กำลังเข้าไปลักไม้ที่เหลือออกมาอีก จำเลยที่ 2 จึงไปรออยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟ ส่วนจำเลยที่ 1 อยู่ที่รถบรรทุก เมื่อได้ไม้ตามจำนวนที่ต้องการแล้วจะได้ขนไม้ทั้งหมดขึ้นบรรทุกรถพาหนีไป แต่ตำรวจมาตรวจพบและจับกุมเสียก่อน การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ดังนี้ ถือได้ว่าได้ส่งเสริมอันเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 3 กระทำการลักทรัพย์ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 3