คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขนแร่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตต้องรับผิดชอบ
แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาต รับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ ผู้รับใบอนุญาตจะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นในในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ และต้องริบทั้งหมด แม้เจ้าของใบอนุญาตจะไม่มีส่วนรู้เห็น
แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. จะได้รับใบอนุญาตขนแร่ของกลาง 100 กระสอบ แต่ยังมีแร่ที่ขนปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตอีก 20 กระสอบ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าร้อยละห้าของแร่ที่ได้รับใบอนุญาตให้ขน ตามพระราชบัญญัติแร่ มาตรา 110 ให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และต้องริบตามมาตรา 154
พระราชบัญญัติแร่ มาตรา 10 ระบุว่า ในกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ได้กระทำโดยตัวแทนหรือลูกจ้าง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของผู้อื่นที่กฎหมายประสงค์จะให้ผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนหรือลูกจ้างของตน โดยมิต้องอาศัยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้น แม้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จ. เจ้าของแร่ผู้รับใบอนุญาต จะมิได้ร่วมรู้เห็นกับลูกจ้างในการขนแร่เกินกว่าที่ได้รับใบอนุญาต ก็ต้องถือว่าเป็นตัวการในการกระทำผิดฐานขนแร่โดยไม่ได้รับใบอนุญาต หาใช่เป็นผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดตามความหมายของมาตรา 154 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3676/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถบรรทุกที่ใช้ขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ครอบครองต้องพิสูจน์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็น
ตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 154 วรรคสาม บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านต้องนำสืบพิสูจน์ให้ศาลเชื่อว่าตนไม่มีโอกาสทราบหรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการนำรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงของกลางไปใช้ในการกระทำความผิด เมื่อผู้คัดค้านนำสืบแต่เพียงว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงของกลาง ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ ส. ขณะเกิดเหตุได้ให้ อ. เช่าช่วงรถไปโดยมีสำเนาหนังสือสัญญาเช่าช่วงซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่อาจทำขึ้นภายหลังเกิดเหตุได้โดยง่ายมาแสดง ทั้งไม่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบ ทำให้มีน้ำหนักน้อย ผู้คัดค้านจึงยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติดังกล่าวมาแล้วข้างต้น นอกจากนี้ข้อเท็จจริงปรากฏตามพยานหลักฐานของผู้ร้องว่า ในชั้นตรวจยึดรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงจำนวน 22 คัน ส. ให้การเกี่ยวกับรถบรรทุกขนหินว่า มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ซึ่งประกอบด้วยบุคคล 6 คน หนึ่งในนั้นมีผู้คัดค้านรวมอยู่ด้วยเป็นเจ้าของรถเป็นผู้ว่าจ้าง ส. ขับรถขนหิน สอดคล้องกับสำเนารายการจดทะเบียนรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงของกลาง ที่ระบุว่า รถทั้งสองคันมีห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. เป็นผู้ประกอบการขนส่งประเภทรถบรรทุกไม่ประจำทาง พฤติการณ์แห่งคดีจึงเชื่อว่า ผู้คัดค้านเป็นหนึ่งในผู้ครอบครองรถและเป็นผู้ว่าจ้าง ส. ขับรถบรรทุกขนแร่หินทรายของกลาง ผู้คัดค้านจึงมีโอกาสทราบหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า ส. จะกระทำความผิดและมีการนำรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงของกลางไปใช้ในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 154 วรรคสาม จึงไม่มีเหตุที่จะคืนรถบรรทุกลากจูงและรถพ่วงของกลางให้แก่ผู้คัดค้าน
of 2