พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967-969/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของฎีกาที่ยื่นโดยทนายร่วม และขอบเขตการบังคับใช้คำพิพากษาฎีกาต่อจำเลยร่วมที่ไม่ฎีกา
ในกรณีที่จำเลยและจำเลยร่วมอีก 2 สำนวนแต่งตั้งทนายคนเดียวกัน. และทนายได้ยื่นฎีกาเฉพาะในนามของจำเลยร่วม 2สำนวน โดยทนายเป็นผู้เซ็นชื่อในฐานะผู้ฎีกา. เมื่อปรากฏว่าฎีกาฉบับนี้เสียค่าธรรมเนียมชั้นฎีกามา 3 สำนวนและในฎีกามีข้อความว่า 'จำเลยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย'. ดังนี้ ก็ย่อมถือได้ว่าฎีกาที่ทนายยื่นนั้นเป็นฎีกาของจำเลยด้วย.
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทฟังไม่ได้ว่าเป็นของโจทก์. โจทก์ก็ไม่อาจขับไล่จำเลยได้. ดังนั้น แม้จำเลยร่วมคนหนึ่งจะไม่ได้ฎีกาก็ตาม. แต่เมื่อจำเลยฎีกา และจำเลยร่วมนั้นเป็นผู้รับโอนสิทธิการเช่าที่พิพาทจากจำเลย.จำเลยร่วมนั้นก็ไม่จำต้องถูกขับไล่ด้วย. เพราะมูลคดีเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้.
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทฟังไม่ได้ว่าเป็นของโจทก์. โจทก์ก็ไม่อาจขับไล่จำเลยได้. ดังนั้น แม้จำเลยร่วมคนหนึ่งจะไม่ได้ฎีกาก็ตาม. แต่เมื่อจำเลยฎีกา และจำเลยร่วมนั้นเป็นผู้รับโอนสิทธิการเช่าที่พิพาทจากจำเลย.จำเลยร่วมนั้นก็ไม่จำต้องถูกขับไล่ด้วย. เพราะมูลคดีเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ค้าของเก่า: ไม่ครอบคลุมผู้ค้าเร่
พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 มุ่งประสงค์ควบคุมการค้าของเก่าอันมีที่ทำการค้า มิได้มุ่งหมายถึงหาบเร่ซื้อของเก่าไปขายแก่ร้านค้าของเก่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน กับ พ.ร.บ.บัตรประจำตัวข้าราชการฯ และพนักงานรัฐ
ผู้ที่ถูกบังคับให้ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ต้องมีบัตรติดตัวหรือเก็บไว้ในลักษณะที่จะแสดงได้เสมอตามความในมาตรา 10 และ ถ้าฝ่าฝืนก็ถูกลงโทษแต่ไม่บังคับแก่ผู้ที่มีบัตรประจำตัวข้าราชการฯลฯ และพนักงานองค์การแห่งรัฐ เพราะความเช่นนั้น ไม่มีบัญญัติไว้ พระราชบัญญัติ 2 ฉบับข้างบน แยกต่างหากจากกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดเทศบาลกับตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดสาธารณะ vs. ตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.ก.คนเข้าเมือง พ.ศ.2493 กับผู้เข้ามาอยู่ก่อนวันมีผลบังคับใช้
บทบัญญัติมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493ซึ่งบัญญัติว่า 'คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรด้วยการเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 21หรือโดยฝ่าฝืนหลีกเลี่ยงไม่กลับออกไปตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิดฯลฯ' นั้นมุ่งหมายให้ใช้สำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาภายหลังวันใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 ถ้าเข้ามาอยู่ก่อนวันใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 ย่อมไม่มีความผิดตามมาตราที่กล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และการตีความเอกสารรับเงินค่าเซ้งเป็นสัญญาเช่า
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มีอำนาจแต่เฉพาะการเช่าที่อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ฉะนั้นก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่ใช่เรื่องของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในเคหะที่เช่าเองได้นั้นย่อมไม่มีผลแก่ผู้ให้เช่า
เอกสารรับเงินค่าเซ้งบ้าน มีข้อความเริ่มต้นระบุว่าผู้รับเป็นเจ้าของบ้านได้รับเงินค่าเซ้งบ้านจำนวนหนึ่งไว้แล้วและมีข้อความว่า ให้สัญญาว่าบ้านหลังนั้นจะให้ผู้ชำระเงินเช่า คิดค่าเช่าเดือนละ 40 บาท ไปจนกว่าจะหมดความต้องการแล้วลงชื่อเจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ลงชื่อผู้เช่าและพยาน ดังนี้ ถือว่าเอกสารนี้เป็นสัญญาเช่าแล้ว
เอกสารรับเงินค่าเซ้งบ้าน มีข้อความเริ่มต้นระบุว่าผู้รับเป็นเจ้าของบ้านได้รับเงินค่าเซ้งบ้านจำนวนหนึ่งไว้แล้วและมีข้อความว่า ให้สัญญาว่าบ้านหลังนั้นจะให้ผู้ชำระเงินเช่า คิดค่าเช่าเดือนละ 40 บาท ไปจนกว่าจะหมดความต้องการแล้วลงชื่อเจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ลงชื่อผู้เช่าและพยาน ดังนี้ ถือว่าเอกสารนี้เป็นสัญญาเช่าแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ไม่มีผลย้อนหลัง แม้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2490 มุ่งหมายแก้ไขวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "เคหะ" ใน พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 เท่านั้น แม้ในมาตรา 4 จะมีความว่าให้ใช้บังคับแก่บรรดาคดีแพ่งที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลก็ดี ก็ต้องหมายความว่า ใช้บังคับแก่คดีซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 อันค้างพิจารณาอยู่ในศาลเท่านั้นเอง ถ้าคดีที่โจทก์ฟ้องและค้างพิจารณาอยู่ ไม่ตกอยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.ปี พ.ศ. 2489 ก็จะนำเอา พ.ร.บ. ปี พ.ศ. 2490 ย้อนหลังไปบังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวออกนอกเขตจังหวัด: การพิสูจน์เจตนาและขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยย้ายข้าวออกนอกเขตในทางทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยพยายามจะขนออกมานอกเขตคดีก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 มาตรา 10,13 เพราะสองมาตรานี้เอาผิดแก่ผู้ขนย้ายข้าวออกนอกเขตซึ่งคณะกรรมการกำหนด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จฯ กับ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร: เงินรางวัลยังคงใช้ได้
พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 หาได้มีความทับในเรื่องเงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 ไม่ เพราะไม่ได้กล่าวถึงเงินรางวัลไว้ คงบัญญัติแต่ในเรื่องเงินสินบลอย่างเดียว เงินรางวัลตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดฯ จึงยังคงใช้ได้อยู่ และถือตามอัตราเดิม เพราะการบอกแก้ไขราชกิจจาฯ (ประกาศเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) นั้นใช้ไม่ได้ (อ้างฎีกา 1073/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492)