พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ขอบเขตและผลผูกพัน
โจทก์จำเลยได้ เจรจากันเรื่องทรัพย์มรดกของบิดามารดา ฝ่ายจำเลยเสนอให้โคแก่โจทก์ 3 ตัว เท่านั้น ฝ่ายโจทก์ยืนยันจะขอแบ่งที่นาด้วยและโจทก์จำเลยลงชื่อไว้ในบันทึกเช่นนี้ ถือว่าบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องทรัพย์สินอื่นที่มิใช่ที่ดิน เมื่อโจทก์ได้รับโคไป 3 ตัว ตาม ข้อตกลงดังกล่าวแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอแบ่งทรัพย์สินอื่นจากจำเลยได้ เว้นแต่ที่ดินซึ่ง เดิม เป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา และบ้านซึ่ง เป็นส่วนควบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสัญญาจำนอง: ครอบคลุมหนี้ค้ำประกันหรือไม่ แม้สัญญาจำนองระบุเป็นประกันหนี้สินทั้งหมด
ก. ผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์จำเลยได้กู้เงินจำเลยโดยโจทก์ผู้เป็นสมาชิกอีกผู้หนึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาโจทก์กู้เงินจำเลยโดยจำนองที่ดินไว้แก่จำเลยสัญญาจำนองมีข้อความว่า เพื่อประกันเงินซึ่งโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ในขณะทำสัญญาหรือในเวลาหนึ่งเวลาใดต่อไปภายหน้า กับทั้งหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดไม่ว่าในฐานะใด ๆ ต่อจำเลย ดังนี้ สัญญาจำนองย่อมครอบคลุมถึงหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวด้วย แม้โจทก์จะชำระหนี้ที่โจทก์กู้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองก็ยังไม่ระงับสิ้นไป จำเลยมีสิทธิที่จะไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ค้ำประกันหรือไม่ แม้สัญญาระบุถึงหนี้สินต่าง ๆ ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้
ก. ผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์จำเลยได้กู้เงินจำเลยโดยโจทก์ผู้เป็นสมาชิกอีกผู้หนึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาโจทก์กู้เงินจำเลยโดยจำนองที่ดินไว้แก่จำเลยสัญญาจำนองมีข้อความว่า เพื่อประกันเงินซึ่งโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ในขณะทำสัญญาหรือในเวลาหนึ่งเวลาใดต่อไปภายหน้า กับทั้งหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดไม่ว่าในฐานะใด ๆ ต่อจำเลย ดังนี้ สัญญาจำนองย่อมครอบคลุมถึงหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวด้วย แม้โจทก์จะชำระหนี้ที่โจทก์กู้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองก็ยังไม่ระงับสิ้นไป จำเลยมีสิทธิที่จะไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3756/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างต่างประเทศและขอบเขตสิทธิ: ลูกจ้างโพ้นทะเลไม่สามารถเรียกร้องสิทธิจากคู่มือพนักงานไทยได้
สัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยทำในประเทศอังกฤษ โดยให้โจทก์ทำงานในประเทศมาเลเซีย ได้กำหนดเงื่อนไขในการจ้างและสิทธิของลูกจ้างไว้โดยชัดแจ้งแม้ต่อมาจำเลยจะส่งโจทก์เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งมีระเบียบข้อบังคับคู่มือพนักงานใช้บังคับเฉพาะลูกจ้างของจำเลยซึ่งกระทำกันในประเทศไทยเท่านั้นโจทก์จะเรียกร้องเงินค่าชดเชยที่มีจำนวนมากกว่าสัญญาจ้างจากจำเลยโดยอาศัยสิทธิตามคู่มือพนักงานฉบับดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และขอบเขตการสืบพยานตามสัญญา
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาชื่อสัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินสดขาดบัญชีระหว่างที่จำเลย เป็นผู้จัดการร้านโจทก์ความว่าข้อ 1.จำเลยยอมรับผิดชดใช้เงินสด ขาดบัญชีที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็น ผู้จัดการร้านโจทก์เป็นเงิน 36,667.75 บาท และยอดเงินสดคงเหลือ เมื่อวันจำเลยออกจากตำแหน่งผู้จัดการร้านโจทก์มีเงินขาดบัญชีอีก 15,738.21 บาทข้อ 2. จำเลยขอเวลาทำการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชี ตามที่ผู้สอบบัญชีอ้างว่ามีเงินสดขาดบัญชีเพื่อความแน่นอนเป็นเวลา 3 เดือน นับแต่วันทำสัญญา หากพบหลักฐานการเงินที่สามารถนำมา หักกลบลบเงินขาดบัญชีโดยผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการ ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วย จำเลยยินยอมชดใช้ส่วนที่ยังขาดอยู่ ให้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยได้ตรวจสอบบัญชีตามสัญญาข้อ 2. และแจ้ง ให้โจทก์ทราบแต่ผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการของร้านโจทก์ ไม่เห็นชอบด้วย ดังนี้ สัญญาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายตกลงระงับข้อพิพาททั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้นโดยตกลงผ่อนผันให้แก่กันในจำนวนเงินที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็นผู้จัดการร้านโจทก์และ ส่งมอบเงินสดขาดบัญชีขณะจำเลยพ้นจากตำแหน่งโดยจำเลยยอมรับผิด ชดใช้เงินดังกล่าวทั้งสองสำนวนและโจทก์ไม่ดำเนินคดีแก่จำเลยทางแพ่ง และทางอาญาสัญญาฉบับนี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 อันมีผลทำให้การเรียกร้อง ของโจทก์จำเลยซึ่งมีอยู่ขณะนั้นระงับสิ้นไปคงได้สิทธิตามที่แสดงไว้ใน สัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เท่านั้นดังนั้นการที่จำเลย จะขอนำสืบพยานตามเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความและ รับสภาพหนี้ ข้อ 2 ได้ก็ต้องให้ผู้ตรวจบัญชีและคณะกรรมการดำเนินงาน ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วยซึ่งจำเลยก็ยอมรับแล้วว่าบุคคลดังกล่าว มิได้ยินยอมเห็นชอบด้วยกับหลักฐานที่จำเลยนำมาแสดงดังนั้นโดย สัญญาข้อ 2 จำเลยจึงไม่มีสิทธิสืบพยานต่อไปที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ให้งดสืบพยานของคู่ความจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสัญญาค้ำประกัน: การเปลี่ยนแปลงหน้าที่ลูกจ้างไม่กระทบความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเดิม
โจทก์ทำสัญญาจ้างจำเลยที่ 1 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการและหน้าที่อื่น ๆตามที่คณะกรรมการดำเนินการจะมอบหมายโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ทำสัญญาค้ำประกัน ดังนั้นการที่คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ปรับปรุงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการเป็นตำแหน่งผู้จัดการ และมอบหมายให้จำเลยที่ 1ทำงานในตำแหน่งที่ปรับปรุง จึงเป็นการกระทำตามที่จำเลยที่ 1 ได้ให้ไว้ตามสัญญา ซึ่งจำเลยที่ 2 ยอมตนเข้าทำสัญญาค้ำประกันไว้นั่นเอง กรณีจึงไม่จำต้องแจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบ หรือขอให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันงานในหน้าที่ใหม่ ของจำเลยที่ 1 เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายเสาเข็ม: การเพิ่มจำนวนเสาเข็มและขอบเขตของสัญญาเดิม
สัญญาซื้อเสาเข็มระบุว่าจำนวนเสาเข็มคอนกรีตอันแท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด ให้ถือเอาจำนวนที่วิศวกรของผู้ซื้อจะกำหนดเมื่อทำการก่อสร้าง หมายถึงอาจเพิ่มหรือลดจำนวนที่ตกลงกัน 600 ต้น ได้ในงานคราวเดียวกัน จำเลยสั่งซื้ออีก 500 ต้น หลังเวลานานถึง 1 ปี มิใช่เสาเข็มที่ระบุในสัญญา แต่เป็นการสั่งซื้อใหม่ ผู้ขายไม่ส่งเสาเข็มจำนวนนี้ ไม่เป็นผิดสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การตีความข้อตกลงการขายที่ดิน และขอบเขตการฟ้องเรียกคืน
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 ทำไว้ต่อศาลมีว่า โจทก์ให้ที่พิพาทแก่จำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 จะนำไปขายโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบก่อนไม่ได้ดังนี้ แม้ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ ก็ไม่มีข้อสัญญาว่าจะต้องคืนที่ดินให้โจทก์ตามเดิม โจทก์จึงฟ้องเรียกคืนที่พิพาทกลับมาเป็นของตนอันเป็นข้อนอกเหนือไปจากสัญญาประนีประนอมยอมความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแทน, การบอกเลิกสัญญาเช่า, และขอบเขตของข้อตกลงในสัญญาเช่า (การเช่าทรัพย์สิน)
หนังสือมอบอำนาจระบุให้อำนาจตัวแทนทำกิจการแทนตัวการไว้หลายอย่างและให้ยื่นฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับทรัพย์สินของตัวการได้ด้วย ดังนี้ ตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจนั้นย่อมมีอำนาจฟ้องคดีแทนตัวการได้หาจำต้องมีการมอบอำนาจกันเฉพาะเรื่องเฉพาะรายไม่
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 801 บัญญัติว่า ตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไปไม่อาจยื่นฟ้องต่อศาลได้นั้น มีความหมายแต่เพียงว่า หากการมอบอำนาจมิได้ระบุไว้ว่าให้ตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลแทนตัวการ ตัวแทนก็ไม่อาจยื่นฟ้องได้
หนังสือบอกกล่าวของผู้ให้เช่าถึงผู้เช่า มีข้อความว่า'ขอรับตึกแถวดังกล่าวคืนจากการเช่าจากท่าน เพื่อมาทำการปรับปรุง' ถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแม้จะมีข้อความต่อไปว่า หากผู้เช่าขัดข้องอย่างไรก็ขอได้กรุณาแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบด้วย ก็เป็นแต่เพียงการแสดงความสุภาพในการใช้ถ้อยคำเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงความประสงค์ของผู้ให้เช่าอันเป็นสาระสำคัญที่จะเลิกการเช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีกำหนดเวลา 1 ปี และมีข้อสัญญาข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้เช่าชำระค่าเช่าให้ตามกำหนดและปฏิบัติตามข้อสัญญาครบถ้วน ผู้เช่าจะอยู่ในสถานที่เช่าได้โดยสบายตลอดระยะเวลาที่เช่าซึ่งกล่าวแล้ว เว้นเสียต่อทางการหรือรัฐบาลต้องการเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ แล้ว แม้แต่ยังไม่ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าผู้เช่าจำต้องส่งสถานที่เช่าคืนภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ให้เช่าบอกกล่าวข้อสัญญานี้ย่อมมีผลใช้บังคับเฉพาะภายในกำหนดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเท่านั้น เมื่อสัญญาเช่าระงับเมื่อครบ 1 ปี ข้อสัญญาดังกล่าวย่อมระงับไปด้วย. ไม่มีผลใช้บังคับถึงการเช่าต่อมาโดยไม่มีกำหนดเวลา
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 801 บัญญัติว่า ตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไปไม่อาจยื่นฟ้องต่อศาลได้นั้น มีความหมายแต่เพียงว่า หากการมอบอำนาจมิได้ระบุไว้ว่าให้ตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลแทนตัวการ ตัวแทนก็ไม่อาจยื่นฟ้องได้
หนังสือบอกกล่าวของผู้ให้เช่าถึงผู้เช่า มีข้อความว่า'ขอรับตึกแถวดังกล่าวคืนจากการเช่าจากท่าน เพื่อมาทำการปรับปรุง' ถือได้ว่าเป็นการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแม้จะมีข้อความต่อไปว่า หากผู้เช่าขัดข้องอย่างไรก็ขอได้กรุณาแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบด้วย ก็เป็นแต่เพียงการแสดงความสุภาพในการใช้ถ้อยคำเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงความประสงค์ของผู้ให้เช่าอันเป็นสาระสำคัญที่จะเลิกการเช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีกำหนดเวลา 1 ปี และมีข้อสัญญาข้อหนึ่งว่า เมื่อผู้เช่าชำระค่าเช่าให้ตามกำหนดและปฏิบัติตามข้อสัญญาครบถ้วน ผู้เช่าจะอยู่ในสถานที่เช่าได้โดยสบายตลอดระยะเวลาที่เช่าซึ่งกล่าวแล้ว เว้นเสียต่อทางการหรือรัฐบาลต้องการเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ แล้ว แม้แต่ยังไม่ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าผู้เช่าจำต้องส่งสถานที่เช่าคืนภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้ให้เช่าบอกกล่าวข้อสัญญานี้ย่อมมีผลใช้บังคับเฉพาะภายในกำหนดอายุสัญญาเช่า 1 ปีเท่านั้น เมื่อสัญญาเช่าระงับเมื่อครบ 1 ปี ข้อสัญญาดังกล่าวย่อมระงับไปด้วย. ไม่มีผลใช้บังคับถึงการเช่าต่อมาโดยไม่มีกำหนดเวลา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบในการรังวัดที่ดินตามสัญญาประนีประนอม การปักหลักเขตเกินขอบเขตสัญญา
ข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวนแล้วว่าโจทก์ฝ่ายเดียวเป็นผู้นำเจ้าพนักงานแผนที่ไปทำการรังวัด เพื่อกำหนดเขตที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลยจึงเห็นได้ว่าการกระทำของเจ้าพนักงานก็ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์ทั้งสิ้น และเมื่อปรากฏว่าได้มีการปักหลักลงในคูพิพาทอันเป็นการนอกเหนือเกินกว่าที่ปรากฏในสัญญายอม แม้โจทก์จะอ้างว่าเจ้าพนักงานแผนที่เป็นผู้สั่งให้ปักก็ตาม ก็ถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์ ข้อเท็จจริงในสำนวนจึงพอที่ศาลจะสั่งได้ ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวน