คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขับรถชน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายเจ้าพนักงานด้วยการขับรถชน ศาลมีอำนาจริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยขับรถยนต์ของกลางชนท้ายรถจิ๊ปที่ร้อยตำรวจตรี ส. ขับขี่โดยมีเจตนาทำร้ายเพราะโกรธเคืองที่จับจำเลยมาสถานีตำรวจและไม่ยอมปล่อยจำเลยตามคำขอร้องของจำเลย จนร้อยตำรวจตรี ส.ได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 รถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิด ศาลมีอำนาจริบเสียได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายเจ้าพนักงานด้วยการขับรถชนและการริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยขับรถยนต์ของกลางชนท้ายรถจิ๊ปที่ร้อยตำรวจตรีส.ขับขี่โดยมีเจตนาทำร้ายเพราะโกรธเคืองที่จับจำเลยมาสถานีตำรวจและไม่ยอมปล่อยจำเลยตามคำขอร้องของจำเลยจนร้อยตำรวจตรี ส.ได้รับบาดเจ็บจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 รถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิดศาลมีอำนาจริบเสียได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการขับรถชนตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่สำเร็จโทษยังคง
ผู้เสียหายเป็นตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจพบจำเลยขับรถยนต์โดยสารโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และป้ายแสดงการเสียภาษีรถยนต์ จึงสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ จำเลยกลับขับรถไปทางอื่น ผู้เสียหายนั่งรถติดตามไปทัน สั่งให้จำเลยไปสถานีตำรวจอีก จำเลยกลับขับรถยนต์ต่อไป ผู้เสียหายนั่งรถแซงรถจำเลยไปจอดข้างหน้า ลงจากรถไปยืนบนถนน โบกมือให้รถจำเลยหยุด จำเลยไม่หยุดรถ แต่กลับขับไปโดยเร็วจะชนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายหลบเสียทัน หากไม่หลบ รถจำเลยก็ต้องชนผู้เสียหาย ฟังได้ว่าจำเลยมีความโกรธแค้นที่ผู้เสียหายติดตามจับจำเลยจึงมีเจตนาฆ่าโดยการขับรถชนในขณะผู้เสียหายปฏิบัติการตามหน้าที่ แต่เพราะผู้เสียหายหลบเสียทันจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289,80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการขับรถชนทำให้พิการถาวร และการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต
โจทก์ถูกจำเลยขับรถชน ร่างกายโจทก์พิการ เดินไม่ได้แขนขวาเป็นอัมพาต ต้องนอนอยู่กับเตียง อันเป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการที่จำเลยทำละเมิดขับรถชนโจทก์ ตามลักษณะเห็นได้ว่าร่างกายโจทก์ต้องพิการและเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต โจทก์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตลอดไป แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในเวลาอนาคตจำเลยก็ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444
โจทก์ขอให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตเป็นเวลา 5 ปีเมื่อปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมหลังจากวันฟ้อง 3 ปี 1 เดือน ศาลก็กำหนดให้จำเลยรับผิดค่าเสียหายในอนาคตนับจากวันฟ้องไปอีกเพียง 3 ปี 1 เดือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการขับรถชนคนตาย แม้ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็ไม่เป็นเหตุโดยตรง
จำเลยขับรถยนต์เบนไปทางขวาคร่อมกึ่งกลางถนน เพื่อจะหลบให้พ้นท้ายรถยนต์โดยสารซึ่งวิ่งสวนทางมาและเลี้ยวขวาตัดหน้ารถจำเลยเพื่อจะเข้าซอยโดยจำเลยเห็นว่าทางหน้าปลอดภัยไม่มีรถสวนมานั้น ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยกระทำได้บังเอิญผู้ตายวิ่งโผล่พ้นท้ายรถยนต์โดยสารออกมาอยู่ห่างรถจำเลยในระยะ 1 วานั้น เป็นระยะกระชั้นชิด รถจำเลยจึงชนผู้ตายถึงแก่ความตายแม้ว่าจุดที่ผู้ตายถูกรถยนต์จำเลยชนจะอยู่พ้นกึ่งกลางถนนไปเล็กน้อย ซึ่งปกติถือว่ามิใช่ทางวิ่งของรถจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าการที่จำเลยขับรถชนผู้ตายเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อาจป้องกันได้
แม้จำเลยจะขับรถเร็วอันเป็นการฝ่าฝืนกฎจราจรก็ตาม ก็เป็นคนละเรื่องมิใช่เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถูกรถจำเลยชน ย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานขับรถยนต์ชนผู้ตายโดยประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยในการขับรถชนคนตาย แม้ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่ใช่สาเหตุโดยตรง
จำเลยขับรถยนต์เบนไปทางขวาคร่อมกึ่งกลางถนน เพื่อจะหลบให้พ้นท้ายรถยนต์โดยสารซึ่งวิ่งสวนทางมาและเลี้ยวขวาตัดหน้ารถจำเลยเพื่อจะเข้าซอยโดยจำเลยเห็นว่าทางข้างหน้าปลอดภัย ไม่มีรถสวนมานั้นย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยกระทำได้ บังเอิญผู้ตายวิ่งโผล่พ้นท้ายรถยนต์โดยสารออกมาอยู่ห่างรถจำเลยเป็นระยะ 1 วานั้น เป็นระยะกระชั้นชิด รถจำเลยจึงชนผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้ว่าจุดที่ผู้ตายถูกรถยนต์จำเลยชนจะอยู่พ้นกึ่งกลางถนนไปเล็กน้อย ซึ่งปกติถือว่ามิใช่ทางวิ่งของรถจำเลยก็ตามก็ถือได้ว่าการที่จำเลยขับรถชนผู้ตายเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อาจป้องกันได้
แม้จำเลยจะขับรถเร็วอันเป็นการฝ่าฝืนกฎจราจรก็ตาม ก็เป็นคนละเรื่องมิใช่เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้ผู้ตายถูกรถจำเลยชน ย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานขับรถยนต์ชนผู้ตายโดยประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าของรถเมื่อบุตรขับรถชนผู้อื่น และการพิพากษาค่าเสียหายจากความเสียหายทางร่างกายและสมอง
เจ้าของรถยนต์ป่วย บุตรของเจ้าของรถอาสาขับรถไปส่งน้อง ไปโรงเรียนแทนโดยความยินยอมของเจ้าของรถ ดังนี้ ถือ ว่าบุตรเจ้าของรถขับรถไปเพื่อกิจธุระของเจ้าของรถ เมื่อบุตรเจ้าของรถขับรถนั้นไปชนผู้อื่นโดยประมาท ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บดังนี้ เจ้าของรถต้องรับผิดร่วมกับบุตรของตนชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้บาดเจ็บ
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า การที่โจทก์ถูกรถของจำเลยชนนี้ ทำให้ร่างกายโจทก์ทุพลภาพสมองเสื่อม ความทรงจำและการศึกษาของโจทก์เสื่อมมาก แพทย์ลงความเห็นว่าประสาทสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง เป็นเหตุให้โจทก์หย่อนสมรรถภาพในการศึกษาและในการประกอบอาชีพในเวลาต่อไป เป็นการทำลายอาชีพและความก้าวหน้าของโจทก์ตลอดชีวิต ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 แล้ว
ศาลกำหนดค่าเสียหายให้โจทก์ 20,000 บาทโดยกำหนดให้ตามพฤติการณ์ และความร้ายแรงแห่งการละเมิด เพราะโจทก์ถูกรถจำเลยชนขาหัก ต้องรับการผ่าตัดเอาเหล็กยึดกระดูกใส่ไว้ในขา หลังจากนั้นต้องใช้ไม้ยันและมีคนพยุงอยู่ 3 - 4 เดือน โจทก์ต้องเจ็บป่วยรับทุกข์ทรมานอยู่ถึง 1 ปี นอกจากนั้นโจทก์ยัง ได้รับอันตรายเกี่ยวกับสมองอีก เพราะทำให้ปวดศรีษะอยู่เสมอ ความจำก็เสื่อมลง การศึกษาก็เลวลง โจทก์เคยหารายได้พิเศษจากการสอนหนังสือเดือนละ 500 บาท ก็ทำไม่ได้ นับว่าเป็นการสมควรแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทขับรถชนคนตาย-บาดเจ็บ: ศาลฎีกายืนโทษจำคุกไม่รอการลงโทษเนื่องจากความร้ายแรง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือนกับปรับ 1,000บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้แต่ศาลอุทธรณ์แก้เป็นให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ เช่นนี้จำเลยยื่นฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกดังศาลชั้นต้นได้
of 2