คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขึ้นทะเบียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเข้ายาที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ไม่ต้องขึ้นทะเบียนซ้ำ
เมื่อปรากฎว่ายาที่จำเลยนำเข้า ได้มีบริษัทหนึ่งขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว จำเลยก็ไม่จำต้องขึ้นทะเบียนตำรับยานั้นซ้ำอีก ไม่ว่าจะนำเข้าเป็นครั้งแรกหรือครั้งหลังก็ตาม
พ.ร.บ.การขายยา พ.ศ. 2493 มาตรา 14 ประสงค์จะให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาครั้งเดียวเป็นหลักฐานไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบอาวุธปืนต้องพิสูจน์ว่าไม่เคยขึ้นทะเบียน
จำเลยถูกศาลลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่คดีไม่ได้ความว่าปืนของกลางนั้นยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเลย เช่นนี้ ย่อมถือว่าไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องริบปืนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบอาวุธปืนต้องพิสูจน์ได้ว่าไม่เคยขึ้นทะเบียน
จำเลยถูกศาลลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่คดีไม่ได้ความว่าปืนของกลางนั้นยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเลย เช่นนี้ย่อมถือว่าไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องริบปืนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบอาวุธปืนต้องพิสูจน์ว่าไม่เคยขึ้นทะเบียน
จำเลยถูกศาลลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่คดีไม่ได้ความว่าปืนของกลางนั้นยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเลย เช่นนี้ย่อมถือว่าไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องริบปืนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แพทย์ประจำตำบลต้องขึ้นทะเบียนประกอบโรคศิลป์ แม้เคยเป็นพนักงานสาธารณสุข
แพทย์ประจำตำบล แม้จะเคยเป็นพนักงานสาธารณะสุขมาแล้ว เมื่อจะประกอบโรคศิลป์ก็ต้องขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลป์ะจากคณะกรรมการก่อน มิฉะนั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลป์ 2479 มาตรา 11,21

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แพทย์ประจำตำบลต้องขึ้นทะเบียนประกอบโรคศิลป์ แม้เคยเป็นพนักงานสาธารณสุข
แพทย์ประจำตำบล แม้จะเคยเป็นพนักงานสาธารณสุขมาแล้วเมื่อจะประกอบโรคศิลป์ก็ต้องขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลป์จากคณะกรรมการก่อน มิฉะนั้นมีความผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลป์ 2479 มาตรา 11,21

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1377/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขึ้นทะเบียนโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน 2482: กรณีโรงงานที่ขึ้นทะเบียนแล้วยังต้องขออนุญาตใหม่หรือไม่
โรงงานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้วตามกำหนดในมาตรา 23 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน 2482 นั้น เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีนับแต่วันใช้พระราชกฤษฎีกาแล้ว ยังคงดำเนินงานต่อไปโดยไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตั้งโรงงานอีกนั้นยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน 2482 เพราะความในมาตรานี้บังคับเอาผิดแก่เจ้าของโรงงานที่มิได้มารายงานขึ้นทะเบียนตามกำหนดในวรรค 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน พ.ศ. 2486 ไม่ทำให้ที่ดินกลายเป็นป่า แม้ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน
พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 มาตรา13เพียงแต่บอกระเบียบให้จัดการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดินตามกฎหมายแต่บุคคลอาจได้ที่ดินมาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนพ.ศ.2486 เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านว่า การให้ที่ดินไม่เป็นการได้มาตามกฎหมายที่ดินที่ใช้อยู่ก่อนนั้นแล้วก็ไม่พอฟังว่าที่ดินซึ่งจำเลยตัดต้นไม้ชนิดหวงห้ามนั้นตกเป็นป่าตามวิเคราะห์ศัพท์ใน พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา4(1) คดีจึงไม่พอลงโทษจำเลยฐานตัดต้นไม้หวงห้ามในที่ป่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะและความคุ้มครองของศาลจ้าวที่ขึ้นทะเบียนก่อนมีกฎกระทรวง และอำนาจการแต่งตั้งผู้ดูแล
ที่ศาลจ้าวซึ่งมีผู้อุทิศให้บ้างเรี่ยไรเงินซื้อบ้างและได้ขึ้นทะเบียนก่อนออกกฎกระทรวงนั้นอยู่ในความคุ้มครองของรัฐบาล ข้าหลวงประจำจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดูแลศาลจ้าวนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีต่อศาลแรงงานและการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน โดยการขึ้นทะเบียนสำนักจัดหางาน
พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 87 วรรคสาม กำหนดให้ผู้อุทธรณ์ที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น กำหนดเวลาสามสิบวันดังกล่าวเป็นเพียงระยะเวลาที่กำหนดให้ฟ้องคดีต่อศาลแรงงานเพื่อโต้แย้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ซึ่งเป็นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26 ที่ศาลแรงงานมีอำนาจย่นหรือขยายได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่พอใจคำวินิจฉัยอุทธรณ์จึงนำคดีไปสู่ศาลแรงงานภาค 3 โดยฟ้องสำนักงานประกันสังคมจังหวัดซึ่งเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคของจำเลยตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน พ.ศ.2545 เป็นจำเลยภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัย จึงเป็นการใช้สิทธิในการโต้แย้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์และได้ดำเนินการนำคดีไปสู่ศาลภายในสามสิบวันตามกฎหมายแล้ว ต่อมาโจทก์ทราบว่าจำเลยมิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคล โจทก์จึงแถลงต่อศาลแรงงานภาค 3 ขอถอนฟ้องเพื่อจะได้ฟ้องจำเลยคดีนี้ให้ถูกต้องต่อไป และศาลแรงงานภาค 3อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีเพื่อฟ้องเป็นคดีนี้ใหม่ และโจทก์ก็ได้นำคดีกลับมาฟ้องจำเลยใหม่ภายในสิบวันนับแต่วันที่ถอนฟ้องคดีเดิมโดยศาลแรงงานภาค 3 ได้รับคดีนี้ไว้พิจารณาพิพากษาต่อมา จึงเป็นกรณีที่โจทก์ได้นำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 87 วรรคสาม หาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ถอนฟ้องแล้วโจทก์จะต้องฟ้องจำเลยคดีนี้ภายในอายุความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 176 ไม่
ตามบทบัญญัติของพ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 79 และข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนการว่างงานเพราะเหตุลาออกจากงานในอัตราร้อยละสามสิบของค่าจ้างรายวันให้ได้รับครั้งละไม่เกินกว่าเก้าสิบวัน โดยลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนนั้น หากได้ขึ้นทะเบียนไว้ที่สำนักจัดหางานของรัฐภายในสามสิบวันนับแต่วันว่างงานจะได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานตั้งแต่วันที่แปดนับแต่วันว่างงานจากการทำงานกับนายจ้างรายสุดท้าย แต่หากลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ที่สำนักจัดหางานของรัฐภายในสามสิบวันนับแต่วันว่างงานจะได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานนับแต่วันที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ที่สำนักงานจัดหางานของรัฐเท่านั้น เมื่อโจทก์ขึ้นทะเบียนที่สำนักจัดหางานจังหวัดในวันที่ 14 ตุลาคม 2547 โจทก์จึงมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเป็นเงินทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละสามสิบของค่าจ้างรายวันไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันขึ้นทะเบียนตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน พ.ศ.2547 ข้อ 1 (2) และข้อ 2
of 2