คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข่มเหง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6988/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการข่มเหง: ภริยาฆ่าสามีที่นอกใจและจะแต่งงานใหม่ ศาลยืนตามคำพิพากษา
จำเลยเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย มีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่ผู้ตายคงประพฤติตนเป็นคนเจ้าชู้ มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงอื่นอีกหลายคน และกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ ท. ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกับผู้ตาย โดยจะออกบัตรเชิญแขกไปร่วมพิธีแต่งงานด้วย โรงงานที่ผู้ตายและ ท. ทำงานอยู่ห่างจากที่พักของจำเลยประมาณ 500 เมตร คนงานในโรงงานย่อมทราบดีว่าจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายการกระทำดังกล่าวของผู้ตายย่อมทำให้จำเลยได้รับความอับอายมาก ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไม่กลับบ้านหลายวันเพราะไปพักอยู่กับ ท. จำเลยตามผู้ตายให้กลับบ้านผู้ตายยอมกลับบ้าน แต่เมื่อจำเลยขอร้องผู้ตายว่าผู้ตายจะมีความสัมพันธ์กับ ท. ต่อไป จำเลยไม่ว่า แต่ขอร้องไม่ให้ผู้ตายแต่งงานกับ ท. ผู้ตายปฏิเสธการกระทำดังกล่าวของผู้ตายจึงเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมต่อจำเลยซึ่งเป็นภริยา การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในทันทีเพียง 1 นัด จึงเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะต่อผู้ตายซึ่งเป็นผู้ข่มเหงจำเลยในขณะที่ถูกข่มเหงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
จำเลยเคยพูดขู่จะฆ่าผู้ตายมาแล้วหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุจำเลยก็พูดกับ ท. และ ว. ว่าจะฆ่าผู้ตาย เมื่อจำเลยและผู้ตายกลับถึงห้องพักจำเลยก็เป็นฝ่ายด่าผู้ตายอยู่ข้างเดียวจึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุบันดาลโทสะต้องเกิดจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง การผัดชำระหนี้ค่าจ้างไม่ถือเป็นการข่มเหง
พฤติการณ์ที่จำเลยมาทวงเงินค่าจ้างที่ค้างจากผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างแล้วถูกผัดชำระอยู่หลายครั้ง โดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้กระทำการอื่นใดต่อจำเลยอีก เพียงเท่านั้นถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจะอ้างเหตุบันดาลโทสะเป็นประโยชน์แก่คดีของตนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2040/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุให้จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งเมาสุรามากเดินตาม ส. ขึ้นไปชั้นบนของบ้านและได้พบกับจำเลย ผู้ตายมองหน้าจำเลยพร้อมกับพูดว่า ใครซ่า โดยจำเลยมิได้สมัครใจทะเลาะกับผู้ตาย ส. พาผู้ตายลงไปชั้นล่างแล้วผู้ตายเดินกลับขึ้นไปชั้นบนอีกและไปเตะประตูห้องพักที่จำเลยกับภริยาและบุตรซึ่งยังเล็กนอนอยู่ เป็นเหตุให้บุตรจำเลยร้องไห้ ดังนี้แม้ผู้ตายไม่มีอาวุธ และจำเลยซึ่งไม่พอใจการกระทำของผู้ตายดังกล่าวได้ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายฝ่ายเดียวก็ตาม แต่ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียวในลักษณะคุกคามรบกวนการพักผ่อนในห้องพักอาศัยของจำเลยกับภริยาและบุตรในเวลาดึกดื่นเช่นนั้น ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจากผู้ตาย การที่จำเลยใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2540 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อำนาจเจ้าพนักงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการกระทำโดยบันดาลโทสะ
ผู้เสียหายเป็นนายอำเภอท้องที่ที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายมีคำสั่งให้สถานบริการอาหารและเครื่องดื่มที่มีดนตรีบรรเลงและสถานที่เล่นสนุกเกอร์ของจำเลยหยุดบริการ เพราะเปิดเกินเวลาและให้พนักงานของจำเลยไปตามจำเลยมาเพื่อรับทราบคำสั่ง ซึ่งทางราชการได้สั่งให้สถานบริการในท้องที่ที่เกิดเหตุต้องหยุดให้บริการในเวลา 1 นาฬิกา โดยขณะที่ผู้เสียหายออกคำสั่งดังกล่าวก่อนเวลา1 นาฬิกาที่จำเลยจะต้องปิดสถานบริการตามคำสั่งของทางราชการเป็นอันมากคำสั่งของผู้เสียหายที่ให้จำเลยปิดสถานบริการจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยคำสั่งทางราชการ ดังนี้ การใช้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับผู้อื่นซึ่งไม่ใช่ผู้อยู่ในความปกครองหรือสั่งการย่อมเป็นการผิดวิสัย เว้นแต่จะขอร้องกันเป็นการส่วนตัว วิธีปฏิบัติที่ผู้เสียหายทำไปบ่งชัดว่าไม่ใช่การสั่งการในฐานะเจ้าพนักงาน การกระทำของผู้เสียหายดังกล่าวมาทั้งหมดจึงมิใช่การกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ.มาตรา 289 (2)
การที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งนายอำเภอผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบได้ออกคำสั่งให้จำเลยผู้เป็นราษฎรในเขตท้องที่ที่ตนดูแลอยู่ให้ปิดสถานบริการก่อนเวลาที่ทางราชการกำหนดอันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และปฏิเสธการขอร้องของจำเลยที่จะอนุญาตให้เปิดสถานบริการต่อตามกำหนดเวลาของทางราชการ ตลอดจนการที่ผู้เสียหายผลักจำเลยให้พ้นทางของตนโดยไม่ยอมรับฟังจำเลยต่อไปนั้น เป็นการข่มเหงจำเลยราษฎรในความปกครองของตนอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายผู้ข่มเหงตนในขณะนั้น จึงถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดไปโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากคำสั่งไม่ชอบด้วยหน้าที่ของนายอำเภอ และการข่มเหงราษฎร
ผู้เสียหายเป็นนายอำเภอท้องที่ที่เกิดเหตุผู้เสียหายมีคำสั่งให้สถานบริการอาหารและเครื่องดื่มที่มีดนตรีบรรเลงและสถานที่เล่นสนุกเกอร์ของจำเลยหยุดบริการเพราะเปิดเกินเวลาและให้พนักงานของจำเลยไปตามจำเลยมาเพื่อรับทราบคำสั่งซึ่งทางราชการได้สั่งให้สถานบริการในท้องที่ที่เกิดเหตุต้องหยุดให้บริการในเวลา1นาฬิกาโดยขณะที่ผู้เสียหายออกคำสั่งดังกล่าวก่อนเวลา1นาฬิกาที่จำเลยจะต้องปิดสถานบริการตามคำสั่งของทางราชการเป็นอันมากคำสั่งของผู้เสียหายที่ให้จำเลยปิดสถานบริการจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยคำสั่งทางราชการดังนี้การใช้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับผู้อื่นซึ่งไม่ใช่ผู้อยู่ในความปกครองหรือสั่งการย่อมเป็นการผิดวิสัยเว้นแต่จะขอร้องกันเป็นการส่วนตัววิธีปฏิบัติที่ผู้เสียหายทำไปบ่งชัดว่าไม่ใช่การสั่งการในฐานะเจ้าพนักงานการกระทำของผู้เสียหายดังกล่าวมาทั้งหมดจึงมิใช่การกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา289(2) การที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งนายอำเภอผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบได้ออกคำสั่งให้จำเลยผู้เป็นราษฎรในเขตท้องที่ที่ตนดูแลอยู่ให้ปิดสถานบริการก่อนเวลาที่ทางราชการกำหนดอันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่และปฏิเสธการขอร้องของจำเลยที่จะอนุญาตให้เปิดสถานบริการต่อตามกำหนดเวลาของทางราชการตลอดจนการที่ผู้เสียหายผลักจำเลยให้พ้นทางของตนโดยไม่ยอมรับฟังจำเลยต่อไปนั้นเป็นการข่มเหงจำเลยราษฎรในความปกครองของตนอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายผู้ข่มเหงตนในขณะนั้นจึงถือได้ว่าจำเลยกระทำความผิดไปโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5736/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการกระทำโดยบันดาลโทสะ กรณีถูกข่มเหง
ผู้ตายทั้งสองมีเรื่องไม่พอใจน้องชายจำเลยแต่กลับไปหาเรื่องกับจำเลยและชี้หน้าด่าแม่จำเลยการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสองด้วยสาเหตุเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 การที่ผู้ตายทั้งสองไปหาเรื่องกับจำเลยและชี้หน้าด่าแม่จำเลยถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5736/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการกระทำโดยบันดาลโทสะในคดีฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายทั้งสองมีเรื่องไม่พอใจน้องชายจำเลยแต่กลับไปหาเรื่องกับจำเลยและชี้หน้าด่าแม่จำเลยเห็นว่าการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสองด้วยสาเหตุเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา68แต่การที่ผู้ตายทั้งสองไปหาเรื่องกับจำเลยและชี้หน้าด่าแม่จำเลยนั้นถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสองในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การกระทำความผิดต่อเนื่องจากถูกข่มเหง
ตาม ป.อ. มาตรา 72 ที่ว่า "กระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น" มิได้หมายความว่าจะต้องเป็นขณะเดียวกัน พร้อมกับการข่มเหงและบันดาลโทสะ หากแต่หมายความว่ากระทำความผิดในขณะที่บันดาลโทสะอยู่
ผู้ตายโกรธและทะเลาะกับน้องภริยาจำเลยซึ่งไม่ยอมไปล่ามวัวที่ทำให้วัวของผู้ตายตื่น ผู้ตายร้องด่าไปตลอดทางที่เดินไปบ้านน้องภริยาจำเลยซึ่งเป็นบ้านที่จำเลยพักอาศัยอยู่ด้วย แล้วผู้ตายใช้ไม้ฝาบ้านตีน้องภริยาจำเลย 2 ถึง3 ครั้ง จำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่ยอมหยุด กลับใช้ไม้ตีฝาบ้านอีก พฤติการณ์ของผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ทำให้จำเลยโกรธผู้ตาย การที่จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำโดยบังดาลโทสะ และแม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยลุกขึ้นเดินตามผู้ตายไปและร้องห้ามปรามแล้วจำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายที่หน้าบ้านจำเลยซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ 15 เมตร การกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำความผิดต่อผู้ตายที่ข่มเหงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดอันถือได้ว่ากระทำต่อผู้ตายที่ข่มเหงในขณะนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การกระทำความผิดต่อเนื่องจากถูกข่มเหง แม้มีระยะห่างและช่วงเวลาห้ามปราม
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา72ที่ว่า"กระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น"มิได้หมายความว่าจะต้องเป็นขณะเดียวกันพร้อมกับการข่มเหงและบันดาลโทสะหากแต่หมายความว่ากระทำความผิดในขณะที่บันดาลโทสะอยู่ ผู้ตายโกรธและทะเลาะกับน้องภริยาจำเลยซึ่งไม่ยอมไปล่ามวัวที่ทำให้วัวของผู้ตายตื่นผู้ตายร้องด่าไปตลอดทางที่เดินไปบ้านน้องภริยาจำเลยซึ่งเป็นบ้านที่จำเลยพักอาศัยอยู่ด้วยแล้วผู้ตายใช้ไม้ตีฝาบ้านน้องภริยาจำเลย2ถึง3ครั้งจำเลยห้ามปรามผู้ตายไม่ยอมหยุดกลับใช้ไม้ตีฝาบ้านอีกพฤติการณ์ของผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมทำให้จำเลยโกรธผู้ตายการที่จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะและแม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยลุกขึ้นเดินตามผู้ตายไปและร้องห้ามปรามแล้วจำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายที่หน้าบ้านจำเลยซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ15เมตรการกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำความผิดต่อผู้ตายที่ข่มเหงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดอันถือได้ว่ากระทำต่อผู้ตายที่ข่มเหงในขณะนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4053/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การกระทำความผิดต่อเนื่องจากเหตุข่มเหง แม้มีระยะห่างเวลาและสถานที่
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา72ที่ว่า"การทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น"มิได้หมายความว่าจะต้องเป็นขณะเดียวกันพร้อมกันพร้อมกับการข่มเหงและบันดาลโทสะหากแต่หมายความว่ากระทำความผิดในขณะที่บันดาลโทสะอยู่ ผู้ตายโกรธและทะเลาะกับน้องภริยาจำเลยซึ่งไม่ยอมไปล่ามวัวที่ทำให้ของผู้ตายตื่นผู้ตายร้องด่าไปตลอดทางที่เดินไปบ้านน้องภริยาจำเลยซึ่งเป็นบ้านที่จำเลยพักอาศัยอยู่ด้วยแล้วผู้ตายใช้ไม้ตีฝาบ้านน้องภริยาจำเลย2ถึง3ครั้งจำเลยห้ามปรามผู้ตายไม่ยอมหยุดกลับใช้ไม้ตีฝาบ้านอีกพฤติการณ์ของผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมทำให้จำเลยโกรธผู้ตายการที่จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะและแม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยลุกขึ้นเดินตามผู้ตายไปแล้วร้องห้ามปรามแล้วจำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายที่หน้าบ้านจำเลยซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ15เมตรการกระทำของจำเลยก็เป็นการกระทำความผิดต่อผู้ตายที่ข่มเหงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดอันถือได้ว่ากระทำต่อผู้ตายที่ข่มเหงในขณะนั้น
of 12