คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อต่อสู้ใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4707/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของบริษัทประกันภัยที่รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัย กรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต และการยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา
จำเลยขับรถชนรถของ พ.ซึ่งได้เอาประกันภัยไว้กับโจทก์ได้รับความเสียหาย และ พ. ได้นำรถไปซ่อมและชำระค่าซ่อมเรียบร้อยแล้ว เมื่อโจทก์ขอต่อรองและชดใช้ค่าเสียหายเป็น ค่าสินไหมทดแทนที่น้อยกว่าความเป็นจริงให้แก่ พ.ไปแล้วโจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของพ. เรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยได้ จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะผู้ขับรถที่เอาประกันภัย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ สัญญาประกันภัย ไม่คุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 3.9.2. ย่อมไม่เกิดสิทธิที่โจทก์จะรับช่วงสิทธิได้ ตามกฎหมาย โดยจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้น ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4293/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การพิสูจน์การชำระหนี้บางส่วน, อายุความ, และการยกข้อต่อสู้ใหม่
เช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินจำนวน 180,000 บาท จำเลยอ้างว่าได้ชำระเงินแล้ว 80,000 บาท จำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ เช็คพิพาทลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 4 มกราคม 2530 ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2530 โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 3 ในฐานะผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเมื่อวันที่ 6มีนาคม 2530 จึงเป็นการฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความ 1 ปี แล้ว จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 ไม่ได้สลักหลังเช็คพิพาทเพื่อค้ำประกันจำเลยที่ 1 ดังนั้น การที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่าจำเลยที่ 3 มีวัตถุประสงค์ในการสลักหลังเช็คพิพาทเป็นประกันจำเลยที่ 1 กู้เงินบริษัทธ.เท่านั้น จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกาที่ไม่เคยกล่าวอ้างในศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ข้อที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์ยังไม่ได้บอกกล่าวทวงถามจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น จำเลยที่ 1 มิได้ยกข้อนี้ขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และปัญหาดังกล่าวมิใช่เรื่องที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม-ข้อต่อสู้ใหม่: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากมิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลล่าง
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยในปัญหานี้ก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาถือว่าไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3134/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีซื้อขายหลักทรัพย์, ดอกเบี้ยทบต้น, และข้อจำกัดการยกข้อต่อสู้ใหม่ในศาลฎีกา
กรณีที่จะอยู่ในบังคับของบทบัญญัติมาตรา165(1)ซึ่งมีอายุความ2ปีต้องเป็นกรณีที่พ่อค้าผู้ประกอบหัตถกรรมผู้เป็นช่างฝีมือหรือบุคคลจำพวกประกอบศิลปอุตสาหกรรมฟ้องเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของทำของหรือค่าดูแลกิจการของผู้อื่นอันเป็นกรณีที่เจ้าหนี้ได้ส่งมอบของหรือผลงานให้ลูกหนี้แล้วเรียกร้องเอาค่าสิ่งของหรือราคาของผลงานที่ได้ส่งมอบ โจทก์จำเลยตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดและมอบให้โจทก์ซื้อหลักทรัพย์แทนเป็นเรื่องที่โจทก์รับเป็นตัวแทนของจำเลยโดยได้ค่าธรรมเนียมตอบแทนหาได้มีการส่งมอบสิ่งของหรือผลงานให้จำเลยแต่อย่างใดกรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา165(1) โจทก์ฟ้องเรียกดอกเบี้ยทบต้นโดยอ้างว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามบัญชีเดินสะพัดซึ่งมีประเพณีการค้าขายให้คำนวณดอกเบี้ยทบต้นได้ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา655วรรค2เมื่อข้อเท็จจริงรับกันว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดซึ่งมีข้อความว่าจำเลยยอมรับว่ามีประเพณีการค้าให้โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้นในกรณีนี้ได้โจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยทบต้นได้โดยไม่ต้องนำสืบถึงประเพณีการค้าดังกล่าวอีก ฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์ หากมิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้น และไม่ใช่เรื่องความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ไม่ต้องวินิจฉัย
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้คดีในเรื่องโจทก์บอกเลิกสัญญาไม่ชอบ หรือไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาทันทีไว้ชัดแจ้ง และเมื่อศาลชั้นต้น กำหนดประเด็นเพียง 3 ข้อ ซึ่งไม่มีข้อพิพาทในเรื่องดังกล่าว จำเลย ก็ไม่ได้โต้แย้งต้องถือว่าปัญหาเรื่องโจทก์ยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือบอกเลิกสัญญาไม่ชอบเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น และปัญหาดังกล่าวไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การเพื่อยกข้อต่อสู้ใหม่ก่อนวันชี้สองสถาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันชี้สองสถานโดยยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่อีกว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือที่พิพาทแล้ว จำเลยทำได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(3),180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นฎีกา และข้อจำกัดการวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่เคยยกขึ้นในศาลชั้นต้น
จำเลยยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเพียงว่าหนังสือสัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นหนังสือสัญญาระงับข้อพิพาทคดีอาญาเป็นโมฆะไม่ได้ต่อสู้ว่าคดีที่โจทก์ถอนคำร้องทุกข์เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ในชั้นฎีกาจำเลยจะฎีกาว่าความผิดคดีอาญาดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้หาได้ไม่ เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ใหม่ในฎีกา และการไม่ยกประเด็นในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัย
จำเลยฎีกาว่า ตามพินัยกรรมมีชื่อสามีของโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมลงชื่อเป็นพยานด้วย. โดยจำเลยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงข้อนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้น และจำเลยฎีกาว่าที่พิพาทต้องตกเป็นของจำเลยตามข้อตกลงแบ่งทรัพย์ระหว่างจำเลยกับเจ้ามรดก ซึ่งเจ้ามรดกมิได้บอกล้าง โดยจำเลยมิได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์คงกล่าวแก้อุทธรณ์โจทก์เพียงข้อเดียวว่า พินัยกรรมตามฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาทั้งสองข้อนี้ให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์ฎีกา ศาลไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายฝากที่ดินพิพาทกับ ล. ครบกำหนดไม่ไถ่ จำเลยเช่าที่พิพาทจาก ล. ล. ขายที่พิพาทให้โจทก์ ครบอายุสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ออกขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การเพียงว่า ไม่เคยขายฝากที่ดินแก่ใคร ไม่ได้ทำสัญญาเช่า และไม่ได้ลงชื่อไว้ ไม่ได้ต่อสู้โดยแจ้งชัดว่าจำเลยเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา ฉะนั้นการที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา เมื่อโจทก์ไม่ได้บอกเลิกการเช่าก่อน ก็ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเป็นการอุทธรณ์ในข้อที่จำเลยมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยข้อนี้มา ก็เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 3