พบผลลัพธ์ทั้งหมด 76 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเบิกความเท็จต้องระบุรายละเอียดคดี ความผิด และเหตุผลที่คำเบิกความเป็นข้อสำคัญ
คำฟ้องของโจทก์ฐานเบิกความเท็จได้บรรยายแต่เพียงรายละเอียดข้อความที่จำเลยเบิกความ กับความจริงเป็นอย่างไร และว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดี แต่มิได้บรรยายว่าคดีที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จนั้นมีข้อหาหรือฐานความผิดอะไร ประเด็นสำคัญของคดีมีว่าอย่างไรและคำเบิกความของจำเลยเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร เป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3160/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับเช็ค: ข้อสำคัญในคดีคือวัตถุประสงค์ของการออกเช็ค ไม่ใช่การแลกเงินสดหรือเช็คอื่น
จำเลยฟ้องโจทก์ในคดีเดิมขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 และเบิกความในคดีดังกล่าวว่า โจทก์ออกเช็คพิพาทนำไปแลกเงินสดจากจำเลย ความจริงโจทก์ออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเช็คฉบับอื่นที่มี ส. เป็นผู้สั่งจ่ายโดย พ. น้องชายโจทก์นำไปแลกเงินสดจากจำเลย โจทก์จึงฟ้องจำเลยคดีนี้ว่าเบิกความเท็จ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้ออกเช็คพิพาทแล้วนำไปให้จำเลยเพื่อแลกเช็คของ ส. คืนมาเพราะต้องการชำระหนี้แทน พ. เช่นนี้ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่โจทก์ออกเพื่อชำระหนี้แก่จำเลย ข้อที่ว่าโจทก์นำเช็คไปแลกเงินสดหรือแลกเช็คอื่นจากจำเลย จึงมิใช่ข้อสำคัญในคดีดังกล่าว ดังนั้น แม้จำเลยจะเบิกความแตกต่างไปบ้างก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเบิกความเท็จต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่าข้อความเท็จนั้นมีผลสำคัญต่อคดีอย่างไร
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเบิกความเท็จ แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าคดีที่จำเลยเบิกความมีข้อหาและข้อความที่เบิกความเป็นเท็จเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร จึงเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แม้โจทก์จะบรรยายเลขสำนวนคดีที่จำเลยเบิกความมาในฟ้อง ต่อมาในชั้นพิจารณาโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างคำเบิกความของจำเลยกับสำนวนคดีนั้นเป็นพยานหลักฐานและศาลชั้นต้นได้นำสำนวนคดีนั้นทั้งสำนวนมาผูกติดกับสำนวนคดีนี้ไว้แล้วก็ตามแต่ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่ปรากฏในสำนวนคดีนั้นก็หาใช่ส่วนหนึ่งของคำฟ้องของโจทก์ไม่ จะนำมาประกอบคำฟ้องของโจทก์คดีนี้ให้สมบูรณ์ขึ้นมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเบิกความเท็จที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย จำเป็นต้องระบุรายละเอียดคดีเดิมและข้อความเท็จที่สำคัญ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีข้อหาใด และข้อความที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร อีกทั้งความจริงเป็นอย่างไรแน่ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5).(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4745/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีแพ่ง: ข้อสำคัญในคดีคือการยืนยันการกู้ยืมเงิน และจำนวนเงินที่กู้จริง
ในคดีก่อน ฉ. ฟ้องโจทก์เรียกเงินตามสัญญากู้ จำเลยเบิกความเป็นพยานให้ ฉ.ว่า รู้เห็นการกู้ยืมเงิน การรับเงินและลงชื่อเป็นพยานด้วยเมื่อโจทก์เบิกความยอมรับว่าได้กู้เงินไปตามสัญญากู้ในคดีก่อนจริงเพียงแต่อ้างว่าได้ชำระหนี้ไปบางส่วนแล้ว คำเบิกความของจำเลยหากจะเป็นเท็จก็ไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี และแม้โจทก์จะมิได้กู้เงินถึงจำนวนตามฟ้อง แต่คำเบิกความของจำเลยในคดีก่อนก็มิได้ยืนยันว่าโจทก์กู้เงิน ฉ.ไปจำนวนเท่าใดเพราะไม่ได้ร่วมนับเงินที่โจทก์กู้ไปด้วย คำเบิกความของจำเลยในส่วนนี้จึงมิใช่ข้อสำคัญในคดีเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4784/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเบิกความเท็จ: การเบิกความตามหลักฐานการครอบครองไม่ผิด แต่เบิกความเท็จในข้อสำคัญเป็นความผิด
การที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จนั้น ผู้กระทำจะต้องกระทำโดยมีเจตนา คือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นความเท็จ
โจทก์ซึ่งเป็นกำนันท้องที่ใช้รถแทรกเตอร์ขุดดินเพื่อบูรณะหนองน้ำสาธารณะที่ ก.แจ้ง ส.ค.1 ไว้ว่าเป็นของตน การที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกที่ดินของ ก. เป็นการเบิกความไปตามหลักฐานการแจ้งการครอบครอง จึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จในความผิดฐานบุกรุก ส่วนที่จำเลยเบิกความว่า โจทก์ตัดฟันต้นจากสาคูของ ก. โดยที่โจทก์มิได้ตัดฟันนั้น ย่อมเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
โจทก์ซึ่งเป็นกำนันท้องที่ใช้รถแทรกเตอร์ขุดดินเพื่อบูรณะหนองน้ำสาธารณะที่ ก.แจ้ง ส.ค.1 ไว้ว่าเป็นของตน การที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์บุกรุกที่ดินของ ก. เป็นการเบิกความไปตามหลักฐานการแจ้งการครอบครอง จึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จในความผิดฐานบุกรุก ส่วนที่จำเลยเบิกความว่า โจทก์ตัดฟันต้นจากสาคูของ ก. โดยที่โจทก์มิได้ตัดฟันนั้น ย่อมเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญ อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะได้ จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น จะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วย ศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วย ศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องมีผลถึงการแพ้ชนะคดี จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น จะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี หากศาลไม่ได้เชื่อถือคำเบิกความนั้น คู่ความจึงไม่ผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177นั้นจะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382แล้วโดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวดังนี้แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3439/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเบิกความเท็จที่ไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีเช็ค การชำระหนี้บางส่วนไม่กระทบความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต
คำเบิกความที่เป็นข้อสำคัญในการพิจารณาคดีว่าโจทก์กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คหรือไม่อยู่ที่ว่าโจทก์ออกเช็คโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือไม่มิได้อยู่ที่ว่าเช็คที่จำเลยฟ้องเป็นคดีอาญานั้นมีการชำระหนี้กันบางส่วนตามเช็คนั้นหรือไม่ แม้คำเบิกความของจำเลยที่ว่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์1 คัน ราคา210,000 บาท และได้ชำระด้วยเงินสดให้โจทก์จะเป็นความเท็จความจริง เมื่อจำเลยนำเช็คที่โจทก์ออกให้ไปขึ้นเงินไม่ได้โจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์เอารถแทรกเตอร์ของโจทก์ตีใช้หนี้ให้จำเลยบางส่วนเป็นเงิน 210,000บาท ดังฟ้อง ก็มิใช่คำเบิกความอันเป็นเท็จที่เป็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177