คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คนไร้ความสามารถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5466/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเป็นผู้ดูแลคนไร้ความสามารถ (บุคคลวิกลจริต) และสิทธิในฐานะบุตรบุญธรรม
คำว่าบุคคลวิกลจริตตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 เดิม (มาตรา 28 ใหม่) นั้นมิได้หมายเฉพาะถึงบุคคลผู้มีจิตผิดปกติ หรือตามที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นบ้าเท่านั้นไม่ แต่หมายรวมถึงบุคคลผู้มีกิริยาอาการผิดปกติเพราะสติวิปลาส คือ ขาดความรำลึก ขาดความรู้สึก และขาดความรับผิดชอบด้วย เพราะบุคคลดังกล่าวนี้ไม่สามารถประกอบกิจการของตนหรือประกอบกิจส่วนตัวของตนได้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจ. ซึ่งผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเป็นคนไร้ความสามารถนั้นไม่รู้สึกตัวเอง และพูดจารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ซึ่งแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองฝ่อหรือสมองเสื่อมขั้นรุนแรงไม่สามารถรักษาให้หายได้ตลอดจนไม่อาจปฏิบัติภารกิจส่วนตัวได้ แสดงให้เห็นว่าจ. เป็นคนไม่มีสติสัมปชัญญะ ไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเองได้ พอถือได้ว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว และผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมของ จ. ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน ย่อมมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายและมีสิทธิรับมรดกของ จ. ผู้ร้องจึงสมควรเป็นผู้อนุบาล จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5466/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลวิกลจริตและการเป็นคนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำว่า "บุคคลวิกลจริต" ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 เดิม (มาตรา 28 ใหม่) นั้นมิได้หมายเฉพาะถึงบุคคลผู้มีจิตผิดปกติหรือตามที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นบ้า เท่านั้น แต่หมายรวมถึงบุคคลผู้มีกิริยาอาการผิดปกติเพราะสติวิปลาส คือ ขาดความรำลึก ขาดความรู้สึก และขาดความรับผิดชอบด้วย เพราะบุคคลดังกล่าวนี้ไม่สามารถประกอบกิจการของตนหรือประกอบกิจการส่วนตัวของตนได้ จ. ไม่รู้สึกตัวเองและพูดจารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างซึ่งแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองฝ่อ หรือสมองเสื่อมขั้นรุนแรงไม่สามารถรักษาให้หายได้ ตลอดจนไม่อาจปฏิบัติภารกิจส่วนตัวได้แสดงให้เห็นว่า จ. เป็นคนไม่มีสติสัมปชัญญะไร้ความสามารถที่จะดำเนินกิจการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเองได้ พอถือได้ว่าเป็นบุคคลวิกลจริตตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 29 เดิม(มาตรา 28 ใหม่) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้ดูแล (ผู้อนุบาล) คนไร้ความสามารถ: สามีเป็นผู้ดูแลโดยปกติ แต่ศาลเปิดโอกาสให้คัดค้านและแสดงเหตุผล
ตามปกติสามีย่อมเป็นผู้อนุบาลภริยาซึ่งศาลสั่งว่าเป็นคนไร้ความสามารถต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาลเมื่อผู้มีส่วนได้เสียผู้ใดคัดค้านต่อศาล ผู้คัดค้านชอบที่จะนำสืบแสดงเหตุสำคัญให้เห็นว่าศาลควรตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการทรัพย์สินของคนไร้ความสามารถโดยผู้พิทักษ์ตามคำสั่งศาล การจำนอง/ขายฝากต้องเป็นไปตามคำสั่ง
คนใบ้ที่ไม่สามารถจะทำให้เจ้าพนักงานเข้าใจความประสงค์ที่จะทำนิติกรรมได้นั้น เมื่อผู้พิทักษ์ร้องขอต่อศาล ขอเป็นผู้พิทักษ์ และจัดการจำนองหรือขายที่ดินของคนใบ้เพื่อชำระหนี้คนใบ้ จนได้รับอนุญาตจากศาลแล้ว ผู้พิทักษ์ก็จัดการจำนองหรือขายฝากที่ดินแทนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8804/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการสินสมรสและการถอนฟ้องหลังมีคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ศาลอนุญาตถอนฟ้องได้
บทบัญญัติ ป.วิ.พ. มาตรา 175 ระบุว่า หากโจทก์ถอนฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้ว ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตหรืออนุญาตภายในเงื่อนไขตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่ห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตโดยมิได้ฟังจำเลยก่อนเท่านั้น ไม่มีข้อห้ามว่า หากจำเลยคัดค้าน ศาลจะอนุญาตให้ถอนฟ้องไม่ได้ กรณีเป็นดุลพินิจของศาลที่ต้องพิจารณาถึงผลได้ผลเสียของคู่ความทุกฝ่าย ประเด็นข้อพิพาทในคดีนี้มีว่า จำเลยจัดการสินสมรสเป็นที่เสียหายแก่สินสมรสและสมควรอนุญาตให้โจทก์เป็นผู้จัดการสินสมรสเพียงฝ่ายเดียวหรือไม่ เมื่อศาลชั้นต้นในคดีอื่นมีคำสั่งให้จำเลยเป็นคนไร้ความสามารถและตั้งโจทก์เป็นผู้อนุบาล ย่อมผูกพันโจทก์และจำเลย ทำให้โจทก์มีอำนาจจัดการสินสมรสเพียงฝ่ายเดียวภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย จึงถือไม่ได้ว่าการที่โจทก์ฟ้องและถอนฟ้องเป็นการที่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตแต่ประการใด แม้จำเลยคัดค้านคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจึงชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องขอเพิกถอนอำนาจจัดการสินสมรสของจำเลย ย่อมไม่กระทบสิทธิของผู้ร้องสอดในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์สินที่ผู้ร้องสอดกล่าวอ้าง สิทธิของผู้ร้องสอดจะมีอยู่เพียงใด ก็คงมีอยู่เพียงนั้น ทั้งการที่ผู้ร้องสอดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ได้ก็จำต้องมีโจทก์จำเลยเดิมว่าคดีกันต่อไป แต่เมื่อศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีจากสารบบความเสียแล้ว จึงไม่มีโจทก์จำเลยเดิมว่าคดีกันอีก เป็นเรื่องที่ผู้ร้องสอดจะดำเนินคดีของตนในทางอื่นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3552/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยคนไร้ความสามารถเป็นโมฆะ แม้ต่อมาศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงสถานภาพ
จ. เจ้ามรดกถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2532 ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้เจ้ามรดกเป็นคนไร้ความสามารถแต่ศาลฎีกาพิพากษากลับเป็นให้ยกคำร้อง ซึ่งเป็นผลให้ จ. ยังคงเป็นคนไร้ความสามารถอยู่ตามเดิม แม้ในระหว่างที่คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ จ. เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ คำสั่งที่ให้ จ. เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถดังกล่าวก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงยกเลิก เพิกถอนหรือลบล้างคำสั่งศาลชั้นต้นศาลเดียวกันที่ได้สั่งให้ จ. เป็นคนไร้ความสามารถมาก่อน ทั้งไม่มีผลทำให้สถานภาพการเป็นคนไร้ความสามารถตามคำสั่งศาลต้องขาดช่วงไปหรือสะดุดหยุดชั่วคราวในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด การที่ จ. โดยความยินยอมของผู้พิทักษ์ได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2535 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ จ. ตกเป็นคนไร้ความสามารถพินัยกรรมดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1704

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3727/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนไร้ความสามารถฟ้องคดีเองไม่ได้ ต้องให้ผู้อนุบาลดำเนินการแทน การมอบอำนาจจึงไม่สมบูรณ์
โจทก์เป็นคนไร้ความสามารถอยู่ในความอนุบาลของ ช. ผู้อนุบาลตามคำสั่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมาและคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์ฟ้องคดีนี้ให้จำเลยทั้งสามรับผิดตาม ป.อ. มาตรา 83, 350 โดยทำหนังสือมอบอำนาจให้ ม. เป็นผู้ฟ้องคดีแทนในขณะที่โจทก์ยังเป็นคนไร้ความสามารถและอยู่ในความอนุบาลของ ช. เป็นการกระทำโดยโจทก์ไม่มีอำนาจ ต้องให้ ช. ผู้อนุบาลเป็นผู้กระทำการแทน กรณีหาใช่เป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถของโจทก์และจำต้องแก้ไขข้อบกพร่องนั้นเสียให้บริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาอันสมควรตาม ป.วิ.พ. มาตรา 56 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ดังที่โจทก์อ้าง เพราะเป็นกรณีที่โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องมาแต่ต้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2566

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทำนิติกรรมแทนคนไร้ความสามารถ: ต้องรอคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาลก่อน
ที่ผู้ร้องอ้างว่าจะต้องใช้สิทธิทางศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ประกอบ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 เพื่อจัดการทรัพย์สินของคนไร้ความสามารถนั้นที่จะยื่นคำร้องขอได้ เมื่อปรากฏว่าในขณะผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ศาลยังไม่มีคำสั่งว่า ม. เป็นคนไร้ความสามารถ และมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลของ ม. ผู้ร้องซึ่งยังไม่อยู่ในฐานะผู้อนุบาล จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทน ม. ได้
of 2