คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครบกำหนด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกันหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน: ความรับผิดดอกเบี้ยของผู้ค้ำประกันนับแต่วันครบกำหนดตั๋ว
หนี้ของจำเลยเป็นหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งถึงกำหนดใช้เงินเมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้นับแต่วันที่ลงในตั๋ว เป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาแน่นอนตามวันแห่งปฏิทินคือในวันที่ครบกำหนดในตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระหนี้ตามตั๋วเงินดังกล่าว จึงตกเป็นผู้ผิดนัดทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรคสอง และต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ครบกำหนดตามตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อลูกหนี้ผิดนัดเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 686 สัญญาค้ำประกันมีใจความว่า ผู้ค้ำประกันยอมรับค้ำประกันในวงเงิน 500,000 บาท และหากมีความเสียหายแก่โจทก์อย่างใดผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 18ซึ่งหมายความว่า ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดในเงินต้นในวงเงิน500,000 บาท แทนลูกหนี้พร้อมทั้งดอกเบี้ย เมื่อลูกหนี้ต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่วันครบกำหนดตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยตั้งแต่วันเดียวกันด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษทางอาญาเมื่อพ้นโทษไม่ครบ 3 ปี: การรอการลงโทษไม่ถือเป็นการพ้นโทษ
คำว่าพ้นโทษตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472ก็คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนเมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกโดยศาลรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1ปีจึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้และการที่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ ก็ไม่ใช่โทษซึ่งเมื่อครบ 1 ปีตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวทั้งมาตรา 58 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายอาญาก็บัญญัติไว้ด้วยว่าถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรกของ มาตรา 58 นั้น ก็ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกลงโทษในคดีนั้นซึ่งก็แสดงอยู่ชัดแจ้งว่าผู้นั้นหรือจำเลยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อนนั่นเองกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนี้อีกจึงเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างครบกำหนด ห้ามลดค่าจ้างโดยไม่ตกลงกัน ยอดขายตกเป็นเรื่องว่ากล่าว
จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจำเลยไม่เลิกจ้างโจทก์ แต่ลดค่าจ้างโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ทำให้ยอดการขายตก ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ตกลงด้วยจำเลยก็หาอาจลดค่าจ้างโจทก์ได้ไม่ เพราะการที่โจทก์ทำให้ยอดการขายตกลงนั้นเป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องว่ากล่าวกับโจทก์อีกส่วนหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนในการปลูกสร้างบ้าน: โจทก์ฟ้องขับไล่ก่อนครบกำหนดไม่ได้
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ได้ตกลงให้ฝ่ายจำเลยและผู้ร้องสอดปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของโจทก์เป็นเวลา 30 ปี โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อเป็นการตอบแทนในการที่ฝ่ายจำเลยและผู้ร้องสอดได้ปลูกบ้านให้โจทก์อยู่อาศัยหนึ่งหลัง ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยก่อนครบกำหนดตามสัญญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1880/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสองฉบับ ข้อพิพาทเมื่อครบกำหนดสัญญาฉบับแรก
ทำสัญญาเช่าตึกแถววันเดียวกัน 2 ฉบับ ฉบับละ 3 ปีสัญญาเช่าฉบับหลังลงวันหลังจากฉบับแรก 3 ปี โดยผู้ให้เช่ารับเงินกินเปล่า 90,000 บาท แต่ไม่จดทะเบียน ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งไปกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เมื่อครบ 3 ปีตามสัญญาฉบับแรก ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าแล้ว ผู้เช่าไม่มีสิทธิอยู่ในห้องเช่าต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าครบกำหนด สัญญาต่างตอบแทนไม่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพสัญญาเช่าเดิมได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท และเรียกค่าเสียหายมาด้วยทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท จำเลยมิได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์หรือยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า เป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมา ก็ถือว่าไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลอุทธรณ์โดยชอบ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคดีมีทุนทรัพย์ 12,500 บาท ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ฎีกาในข้อเท็จจริง
จำเลยเช่าอาคารพิพาทจากเจ้าของเดิม มีกำหนดเวลาแน่นอนเมื่อโจทก์ได้กรรมสิทธิ์อาคารพิพาทแล้ว จำเลยก็คงเช่าต่อมาตามกำหนดเวลาเดิม ครบกำหนดสัญญาเช่าแล้ว โจทก์มาฟ้องขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ยอมให้จำเลยเช่าต่ออีก 5 ปี โดยให้จำเลยทาสีอาคารถมปรับพื้นดินอาคารให้สูงขึ้น ทำห้องน้ำห้องส้วมใหม่ก่อนครบกำหนดด้วยทุนทรัพย์ของจำเลย จำเลยได้จัดการทำตามที่ตกลงสิ้นเงิน 12,500 บาท จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนโจทก์ขับไล่จำเลยไม่ได้และต้องจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยต่อไปอีก 5 ปี ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวแล้วไม่มีลักษณะที่จะทำให้การเช่าอาคารพิพาทกลายเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เพราะอาคารพิพาทมีมาแต่เดิม จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อสร้างขึ้นใหม่ในฐานะที่จำเลยเป็นผู้เช่า จำเลยยังมีหน้าที่ต้องบำรุงรักษาและซ่อมแซมอาคารพิพาทอยู่แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 553 แม้จำเลยจะได้ทาสีอาคาร ถมปรับพื้นดินอาคารให้สูงขึ้นทำห้องน้ำห้องส้วมใหม่จริง ก็เพื่อความสวยงามและเพื่อความสะดวกสบายในการอยู่ของจำเลยเอง เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในอาคารพิพาทได้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมในสัญญาเช่า ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ผู้ให้เช่าเมื่อครบกำหนด
สัญญาที่ผู้เช่าได้ทำไว้ต่อผู้ให้เช่าว่าทรัพย์ที่เช่าที่ได้สร้างขึ้นก่อนและต่อเติมปลูกใหม่ ต้องตกเป็นสิทธิแก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้นนั้น เมื่อครบกำหนดการเช่าแล้ว สถานที่ซึ่งผู้เช่าสร้างเพิ่มเติมติดต่อเชื่อมเป็นอันเดียวกับทรัพย์ที่เช่าจึงย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ให้เช่าไปในตัวโดยมิพักต้องทำพิธีโอนหรือให้ผู้เช่ายินยอมยกให้แก่ผู้ให้เช่าอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปราณีประนอมยอมความมีผลผูกพันบังคับได้ เมื่อครบกำหนดสัญญา อีกฝ่ายมีสิทธิขอให้บังคับได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่และจำเลยอ้างว่าได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ที่สุดศาลได้พิพากษาให้เป็นไปตามยอมนั้นข้อตกลงที่โจทก์ยอมให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทต่อไปอีก 3 ปีโดยจำเลยยอมเสียค่าเช่าแก่โจทก์เดือนละ 70 บาทนั้น เป็นสาระสำคัญข้อหนึ่งแห่งสัญญาปราณีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ยอมออก โจทก์ก็ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยได้เพราะ+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา เมื่อครบกำหนด สัญญาเลิกโดยไม่ต้องบอกกล่าว
การเช่าที่มีกำหนดระยะเวลาไว้นั้น เมื่อครบกำหนดตามสัญญาแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับโดยมิต้องบอกกล่าว./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนผันการเช่าและการฟ้องขับไล่เมื่อครบกำหนดผัด การชำระค่าเช่าเพิ่มเป็นค่าทดแทน
ผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าๆให้เข้าอยู่ในห้องเช่าเองได้จึงบอกเลิกการเช่าแก่ผู้เช่า ผู้เช่าขอผัดกำหนดออกจากห้องเช่าต่อไป แม้ในระหว่างเวลาขอผัด ผู้เช่าจะตกลงให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากอัตราธรรมดา และผู้ให้เช่าตกลงก็ตามก็ไม่ถือว่าเป็นการเช่ากันโดยคิดอัตราค่าเช่าใหม่ แต่คงถือได้ว่าเป็นการผ่อนผันชั่วคราวเท่านั้นและค่าเช่าที่ชำระเพิ่มก็ถือได้ว่าเป็นเงินค่าทดแทนให้แก่ผู้ให้เช่า ที่ผ่อนผันแก่ผู้เช่า ฉะนั้นเมื่อครบกำหนดผัดแล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ผู้เช่า โดยอาศัยมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ที่อนุญาตไว้นั้นได้
of 3