คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครองต่อเนื่อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย้งครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความฟ้องฐานบุกรุก กรณีผู้ถูกฟ้องแย้งครอบครองปรปักษ์ต่อเนื่อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ ในการทำแผนที่พิพาทเมื่อโจทก์นำชี้เขตที่ดินที่อ้างว่าเป็นของโจทก์นั้น ย. โต้แย้งว่าโจทก์ชี้รุกล้ำเข้าไปในที่ของ ย. ซึ่งที่ดินส่วนนั้นจำเลย.ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย ดังนี้โจทก์จะขอให้เรียก ย. เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้หาได้ไม่
โจทก์หาว่าจำเลยบุกรุกที่ดินมือเปล่าของโจทก์ แล้วโจทก์ไม่กล้าเข้าทำประโยชน์ในที่ส่วนนั้นอีก เพียงแต่ไปร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนและตำรวจเท่านั้น ดังนี้เมื่อเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้วนับแต่ถูกแย่งการครอบครอง โจทก์ย่อมหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองแล้ว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยและฟ้องแย้งขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย คำฟ้องแย้งเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า โจทก์บุกรุกที่ของจำเลยเมื่อใด ตรงไหน โจทก์ก็เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว และคำฟ้องแย้งของจำเลยเช่นนี้ ไม่ใช่การฟ้องเรียกคืนการครอบครอง จึงไม่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คู่ความได้ว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นแต่เพียงว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองไปจากโจทก์เกิน 1 ปี อันเป็นเหตุให้โจทก์หมดสิทธิเรียกคืนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 แล้วหรือไม่เท่านั้น ถ้าโจทก์เพิ่งกล่าวอ้างในชั้นฎีกาว่า ต้องใช้อายุความทางอาญาแทนอายุความทางแพ่ง ดังนี้ ย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185-195/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม แม้จำเลยอ้างการครอบครองต่อเนื่อง ศาลไม่ต้องฟ้องขับไล่ใหม่
คดีที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษปรับและให้จำเลยออกจากป่าที่แผ้วถาง. เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา.กล่าวคือ ยังคงครอบครองป่าที่ศาลสั่งให้ออกอยู่ โจทก์จึงมีคำขอต่อศาลให้บังคับคดี. ศาลย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาขั้นบังคับคดีแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15. โดยไม่จำเป็นจะต้องให้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในทางแพ่งขึ้นมาใหม่. จำเลยจะอ้างว่าตนได้ครอบครองที่ป่ามาช้านานจนกลายเป็นที่นา.ดังนี้ถือว่า เป็นการอ้างข้อเท็จจริงมาใหม่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติในทางพิจารณา. หากจะฟังข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างมา ก็เท่ากับให้ดำเนินคดีกับจำเลยใหม่ ซึ่งจะมีผลเป็นการแก้ไขคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วย่อมเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 190.โดยห้ามมิให้แก้ไขคำพิพากษาหรือคำสั่งซึ่งอ่านแล้ว.นอกจากถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าสิ้นอายุ การครอบครองต่อเนื่อง และสิทธิการบอกเลิกสัญญา
เช่าที่ดินปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัยโดยมีหนังสือสัญญาเช่าเป็นหลักฐานสัญญาเช่าสิ้นอายุแล้ว โจทก์ยังคงเก็บค่าเช่า จำเลยครอบครองที่ดินที่เช่าตลอดมา ต้องถือว่าเป็นการเช่ากันต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา แม้คณะอนุกรรมการควบคุมการเช่าจะได้ลงมติให้โจทก์เข้าอยู่เองในที่ดินรายนี้ ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องบอกกล่าวบอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลยก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 โจทก์จึงจะมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1393/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินมือเปล่า: เงื่อนไขการสละสิทธิและผลของการครอบครองต่อเนื่อง
การที่บิดาจำเลยไปทำบันทึกไว้ที่อำเภอว่าถ้าที่นาหนองสระพังเป็นที่สาธารณะก็ยอมสละการครอบครองเฉพาะส่วนของตน ต่อมาโจทก์ซึ่งมีส่วนในนาหนองสระพังได้ไปหาหลักฐานมายันจนอำเภอสั่งว่าที่นาหนองสระพังไม่ใช่ที่สาธารณะ เช่นนี้ ถือว่าบิดาจำเลยได้ให้บันทึกโดยมีเงื่อนไข เมื่อที่ไม่เป็นสาธารณะก็ย่อมไม่ผูกพัน
เมื่อเจ้าของที่มือเปล่ายกที่ให้ผู้ใด ต้องพิเคราะห์ดูว่าผู้ได้รับยกให้เข้าปกครองตลอดมาหรือไม่ ปรากฏจากหลักฐานพยานเชื่อได้ว่า บิดาจำเลยได้รับยกให้ได้เข้าครอบครองเมื่อได้รับยกให้ตลอดมา และเมื่อบิดาจำเลยตายจำเลยก็เข้าครอบครองที่นั้นตลอดมา เช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าที่พิพาทยังเป็นของจำเลยครอบครอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1393/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินมือเปล่าและการครอบครองต่อเนื่องของทายาท
การที่บิดาจำเลยไปทำบันทึกไว้ที่อำเภอว่าถ้าที่นาหนองสระพังเป็นที่สาธารณะก็ยอมสละการครอบครองเฉพาะส่วนของตน ต่อมาโจทก์ซึ่งมีส่วนในนาหนองสระพังได้ไปหาหลักฐานมายันจนอำเภอสั่งว่าที่นาหนองสระพังไม่ใช่ที่สาธารณะ เช่นนี้ ถือว่าบิดาจำเลยได้ให้บันทึกโดยมีเงื่อนไข เมื่อที่ไม่เป็นสาธารณะก็ย่อมไม่ผูกพัน
เมื่อเจ้าของที่มือเปล่ายกที่ให้ผู้ใด ต้องพิเคราะห์ดูว่าผู้ได้รับยกให้เข้าปกครองตลอดมาหรือไม่ ปรากฏจากหลักฐานพยานเชื่อได้ว่า บิดาจำเลยที่ได้รับยกให้ได้เข้าครอบครองเมื่อได้รับยกให้ตลอดมา และเมื่อบิดาจำเลยตายจำเลยก็เข้าครอบครองที่นั้นตลอดมา เช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าที่พิพาทยังเป็นของจำเลยครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการรับมรดกต่อเนื่อง: กรรมสิทธิที่ดินไม่ต้องโอนโฉนด
บิดาได้ครอบครองถืออำนาจเป็นเจ้าของที่ดินมาช้านานถึง 30 ปี แล้วถึงแก่กรรมลงบุตรได้รับมรดกคงปกครองที่ดินนั้นต่อมาอีก 5,6 ปี โดยมิได้โอนโฉนดทางทะเบียนก็ถือได้ว่า บุตรได้รับช่วงการครอบครองที่ดินสืบต่อบิดา หาจำต้องโอนโฉนดทางทะเบียนก็ได้กรรมสิทธิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองที่ดิน: ผู้รับอนุญาตจับจองต้องทำประโยชน์ หากละเลยและมีผู้อื่นครอบครองต่อเนื่อง ย่อมเสียสิทธิการครอบครอง
ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จับจองที่ดิน ผู้รับจะต้องทำประโยชน์ในที่นั้นถ้าไม่ได้ทำ และมีผู้อื่นเข้าทำอยู่ในที่นั้นจนได้รับใบเหยียบย่ำและได้จดทะเบียนสิทธิไว้ที่อำเภอหลายปีแล้ว ดังนี้ ผู้ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จับจอง จะฟ้องขับไล่ผู้นั้นไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบที่ดินชำระหนี้และการสละสิทธิ์ครอบครอง เมื่อจำเลยครอบครองต่อเนื่อง ศาลไม่อนุญาตให้เรียกคืน
มอบที่ดินตีใช้หนี้ไป แม้ที่ดินนั้นจะเป็นที่บ้านที่สวนและจำเลยครอบครองต่อจากโจทก์ยังไม่ถึง 9-10 ปีก็ตาม โจทก์ฟ้องเรียกคืนไม่ได้(อ้างฎีกาที่784/2486)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11843/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดิน: การเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน, การครอบครองต่อเนื่อง, และการสละเงื่อนไขสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินของวัด ก. จากกรมการศาสนามีกำหนด 3 ปี เพื่อปรับปรุงและปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้าง ทำถนนและคูน้ำ โดยยกกรรมสิทธิ์ให้แก่กรมการศาสนา มิฉะนั้นกรมการศาสนามีสิทธิปรับเป็นรายวัน เมื่อทำการปรับปรุงและปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว กรมการศาสนาให้จำเลยมีสิทธิทำสัญญาเช่ามีกำหนด 30 ปี นับแต่กรมการศาสนาตรวจรับสิ่งปลูกสร้าง แต่จำเลยไม่ดำเนินการปรับปรุงและปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา และภายหลังครบกำหนดระยะเวลาการเช่าตามสัญญาเช่า โจทก์ซึ่งรับโอนกิจการบริหารจากกรมการศาสนาหาได้บอกเลิกสัญญาแก่จำเลยไม่ ส่วนจำเลยยังคงครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทเรื่อยมา ทั้งจำเลยยังชำระค่าเช่าที่ดินตลอดมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ซึ่งทั้งกรมการศาสนาและโจทก์ต่างก็มีส่วนรับชำระค่าเช่าที่ดินในระหว่างนี้จากจำเลยด้วยโดยมิได้มีการเร่งรัดบอกกล่าวให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาแต่อย่างใด การที่จำเลยยังคงครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทหลังจากครบกำหนดระยะเวลาการเช่าแล้ว ถือเป็นการทำสัญญาเช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา แสดงว่ากรมการศาสนาและโจทก์มิได้ถือเอาเงื่อนไขในสัญญาเช่าที่ดินเป็นสาระสำคัญอีกต่อไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยชำระค่าเสียหายที่ไม่ได้ปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างและชำระค่าปรับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2270/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ ต้องครอบครองสงบเปิดเผย ต่อเนื่อง 10 ปี นับจากโฉนดออก
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้อื่นโดยการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 จะต้องเป็นการครอบครองที่ดินที่ผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์และครอบครองโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ผู้ร้องจะนับระยะเวลาการครอบครองในระหว่างเป็นที่ดินมือเปล่าก่อนที่ดินพิพาทออกโฉนดรวมเข้ากับระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์ภายหลังที่ดินมีโฉนดแล้วหาได้ไม่ ขณะที่มีการออกโฉนดที่ดินในที่ดินพิพาทปี 2529 ผู้ร้องไม่ได้คัดค้านอย่างใด ต่อมาปี 2533 ผู้ร้องเข้าไปตักดินในที่ดินพิพาท ผู้คัดค้านห้ามแล้วไม่หยุด ผู้คัดค้านจึงนำโฉนดที่ดินไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าผู้ร้องบุกรุก ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าผู้ร้องเข้าครอบครองที่ดินพิพาทและแสดงออกว่ามีเจตนาเป็นเจ้าของเมื่อปี 2533 เมื่อนับระยะเวลาจนถึงผู้ร้องยื่นคำร้องขอคดีนี้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 ยังไม่ครบ 10 ปี ผู้ร้องจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง
of 3