คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความชัดเจนของฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีกู้ยืมเงิน, ความชัดเจนของฟ้อง, และการแนบหลักฐานสัญญา
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินกู้ จำเลยให้การว่าสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องจะใช้สัญญากู้เงินที่จำเลยลงลายมือชื่อไว้หรือไม่จำเลยไม่อาจให้การได้โดยชัดแจ้ง และฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามคำให้การ ของจำเลยหมายความว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความฟ้องเรียกเงินกู้ตามคำฟ้องของโจทก์นั่นเอง ปัญหาเรื่องอายุความจึงเป็นประเด็นในคดี เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเรื่องอายุความ และได้ยื่นคำแถลงคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องดังกล่าวไว้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นมิได้ตั้งประเด็นเรื่องอายุความ ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยเรื่องอายุความ จึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์บรรยายฟ้องไว้แล้วว่า จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินและรับเงินไปจากโจทก์แต่ละครั้งเมื่อใด ถึงกำหนดชำระคืนเมื่อใด จำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินคืน จึงฟ้องเรียกเงินกู้คืนพร้อมดอกเบี้ยคำฟ้องของโจทก์จึงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง การที่โจทก์ไม่ได้แนบสัญญากู้หรือสำเนาสัญญากู้มาพร้อมกับฟ้อง ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 วรรคแรก บังคับแต่เพียงว่าการกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไปถ้าไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่เท่านั้นมิได้บังคับว่าจะต้องแนบสัญญากู้หรือหลักฐานการกู้เงินมาพร้อมกับคำฟ้องด้วยจึงจะฟ้องร้องได้ ทั้งไม่มีกฎหมายบทใดบังคับไว้เช่นนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2224/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุช่วงเวลาเบียดบังทรัพย์สินไม่ถือว่าฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2528 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันครอบครองถั่วแขกจำนวน 15 กระสอบหนัก 1,776 กิโลกรัม ราคา 10,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2528 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2528 เวลากลางวันและกลางคืน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสองร่วมกันเบียดบังถั่วแขกดังกล่าวเป็นของตน ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันเบียดบังยักยอกถั่วแขกของผู้เสียหายไปในระหว่างเวลาดังกล่าว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2224/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุวันเวลาที่กระทำผิดหลายวันไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2528 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันครอบครองถั่วแขกจำนวน 15 กระสอบ หนัก1,776 กิโลกรัม ราคา 10,000 บาท ของผู้เสียหายไว้ ต่อมาระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2528 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2528 เวลากลางวันและกลางคืน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสองร่วมกันเบียดบังถั่วแขกดังกล่าวเป็นของตน ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันเบียดบังยักยอกถั่วแขกของผู้เสียหายไปในระหว่างเวลาดังกล่าวฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดครองที่สาธารณะและข้อหาทำลายทรัพย์สิน: ศาลพิจารณาความชัดเจนของฟ้องและโทษทางอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามป.อ.มาตรา360ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปีเมื่อจำเลยรับสารภาพศาลก็ย่อมพิพากษาลงโทษไปได้เลยตามป.วิ.อ.มาตรา176โดยไม่จำต้องสอบถามจำเลยเรื่องการมีทนายความก่อนเพราะศาลไม่อาจพิพากษาเกินคำขอได้ตามมาตรา192วรรคแรกไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าความผิดตามป.อ.มาตรา360ย่อมหมายความรวมถึงมาตรา360ทวิด้วยหรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันถมดินลงในลำกระโดงจนเต็มแล้วฝังท่อระบายน้ำคู่ขนานลงในลำกระโดง ย่อมเป็นข้อความที่เข้าใจได้ว่าลำกระโดงส่วนที่ไม่ได้วางท่อระบายน้ำถูกดินถมจนเต็มและท่อระบายน้ำเล็กกว่าลำกระโดงเป็นเหตุให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้น้อยกว่าระบายน้ำทางลำกระโดง ทั้งนี้โดยไม่จำต้องบรรยายว่าเดิมลำกระโดงมีขนาดความกว้างยาวลึกเท่าใดและแสดงให้เห็นว่าลำกระโดงถูกทำให้เสียหายถูกทำลายหรือเสื่อมค่าแล้วส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันเข้าปลูกสร้างบ้านพักคนงานคร่อมลำกระโดงและปลูกสร้างรั้วสังกะสีล้อมอาคารบ้านพักแม้จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนหรือเพื่อผู้อื่นและบ้านที่ปลูกสร้างรวมทั้งรั้วเป็นของจำเลยหรือไม่ก็ถือว่าเป็นการบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่จำเลยเข้ายึดถือครอบครองลำกระโดงอันเป็นที่ดินของรัฐเข้าลักษณะเป็นความผิดตามป.ที่ดินพ.ศ.2497มาตรา9แล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3990/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์, ความชัดเจนของฟ้อง, และอำนาจฟ้องคดีควบคู่กับการใช้สิทธิร้องทุกข์
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2515 มิได้บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิของบุคคลที่จะเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ จึงไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 42 ซึ่งบัญญัติว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ ภายในเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ"
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อปี พ.ศ. 2525 ถึงวันที่ 25 กันยายน 2527 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยกระทำการอันเป็นความผิด ถือว่าฟ้องโจทก์มีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาเกิดเหตุ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วจำเลยจึงให้การรับสารภาพ ฟ้องโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
ไม่มีบทกฎหมายใดที่บัญญัติว่าพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการไม่มีอำนาจสอบสวนและฟ้องคดีด้วยเหตุที่จำเลยยังทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาอยู่ ทั้งจำเลยก็ได้ให้การรับสารภาพตามฟ้องซึ่งรวมตลอดถึงว่าคดีมีการสอบสวนโดยชอบแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของฟ้องในความผิดฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ในความผิดฐานฟ้องเท็จ ฟ้องของโจทก์บรรยายถึงคำฟ้องที่ว่าเป็นฟ้องเท็จความจริงเป็นอย่างไรมิได้กล่าวถึง พิจารณาคำฟ้องโดยตลอดก็ไม่อาจเข้าใจได้ และที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์มิได้กระทำความผิดเพราะศาลพิพากษายกฟ้องในคดีนั้น ก็เป็นเพียงอ้างผลของคำพิพากษาว่าศาลพิพากษาในคดีนั้นอย่างไรเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงความจริงอันแสดงให้เห็นได้ว่าคำฟ้องในคดีนั้นเป็นความเท็จ ยากที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ส่วนฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้น โจทก์บรรยายฟ้องถึงคำเบิกความของจำเลยแต่ละคนมาหลายตอนซึ่งมิใช่ความเท็จทั้งหมดคำเบิกความของจำเลยคนใดตอนไหนเป็นความเท็จและความจริงเป็นอย่างไร โจทก์มิได้กล่าวให้ชัดเจน ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเช่นกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การกล่าวหาทั้งนำเข้าและครอบครองไม้ผิดกฎหมายไม่ขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวโดยสรุปถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดคือ นำไม้สักของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร และระหว่างวันเวลาเดียวกันร่วมกันมีไม้ของกลางจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองเป็นความผิดทั้งนี้การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งสองประการดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างวันเวลาและสถานที่เดียวกันเจ้าพนักงานยึดได้ไม้จำนวนเดียวกันเป็นของกลาง ดังนี้ย่อมเข้าใจได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวนั้น โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นความผิดและมีไว้ในครอบครองเป็นความผิดด้วยไม่ทำให้เข้าใจไปว่าไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมิได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรในคราวเดียวกันอันเป็นการขัดแย้งกันแต่อย่างใดส่วนปัญหาที่ว่าจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษาหาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่หากเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีละเมิดและการระบุอาณาเขตที่ดิน ศาลฎีกาตัดสินว่าการไม่ระบุอาณาเขตที่ดินโดยละเอียดไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลูกบ้านเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางวา ในที่ดินของโจทก์โฉนดหมายเลข 7083 ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ เป็นการละเมิด ขอให้ขับไล่ แม้จะไม่ระบุอาณาเขตที่ดินของโจทก์มาว่า ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จดเขตที่ดินของใคร จำเลยก็อาจเข้าใจข้อหาในฟ้องได้ชัดเจนแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุตัวผู้รับแจ้งความไม่จำเป็นต้องระบุชื่อเฉพาะ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2516 เวลากลางวัน จำเลยได้นำเอาความอันเป็นเท็จไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอดอนเจดีย์ว่า โจทก์เมาสุราอาละวาดและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเป็นการบรรยายฟ้องที่ได้ระบุบุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่ จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แม้จะไม่ได้ระบุชื่อพนักงานสอบสวนว่าเป็นคนใด จำเลยเป็นผู้บังคับกองสถานีตำรวจภูธรอำเภอดอนเจดีย์ ย่อมทราบดีว่า ตามวันเวลาที่โจทก์กล่าวหา พนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับแจ้งความของตนไว้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุตัวผู้รับแจ้งความในฟ้องไม่จำเป็นหากจำเลยทราบได้เอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2516 เวลากลางวัน จำเลยได้นำเอาความอันเป็นเท็จไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอดอนเจดีย์ว่า โจทก์เมาสุราอาละวาดและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เป็นการบรรยายฟ้องที่ได้ระบุบุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แม้จะไม่ได้ระบุชื่อพนักงานสอบสวนว่าเป็นคนใด จำเลยเป็นผู้บังคับกองสถานีตำรวจภูธรอำเภอดอนเจดีย์ย่อมทราบดีว่า ตามวันเวลาที่โจทก์กล่าวหา พนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับแจ้งความของตนไว้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
of 4