คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความต่อเนื่อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่หลังปล้นทรัพย์ถือเป็นความต่อเนื่องของการกระทำผิด
จำเลยปล้นทรัพย์ได้แล้ว ก่อนจะลงเรือนจำเลยบังคับให้เจ้าทรัพย์ไปส่ง พอลงเรือนก็ให้เจ้าทรัพย์ร้องบอกว่า อย่าให้ออกมา ออกมาจะตาย เจ้าทรัพย์จึงร้องว่า พี่น้องเว้ย อย่าพากันออกมาเน้อ พอไปห่างเรือน 1 เส้น จำเลยสองคนยิงปืนขึ้นฟ้าคนละนัดแล้วร้องว่า ใครอย่าเข้ามา เข้ามาต้องตาย แล้วพากันเดินต่อไป ดังนี้ การยิงปืนของจำเลยกับการปล้นทรัพย์ยังไม่ขาดตอนกัน ถือได้ว่ายิงเพื่อความสะดวกในการที่จะพาทรัพย์ที่ปล้นได้ไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องของการกระทำผิด ลักทรัพย์-ชิงทรัพย์ การรับผิดในความตายจากเหตุชิงทรัพย์
การที่พวกจเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายภายหลังที่จำเลยหยิบทรัพย์แล้ว เป็นการกระทำต่อเนื่องกันกับการลักทรัพย์ เพื่อให้เป็นความสะดวกแก่การที่จำเลยกับพวกจะพาทรัพย์หนีหรือเพื่อปกปิดการกระทำผิด หาใช่การชิงทรัพย์ขาดตอนแล้วไม่ จำเลยต้องร่วมรับผิดในผลที่พวกจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายอันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคท้าย
โจทก์ฟ้องว่า เหตุเกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2507 พยานโจทก์ต่างเบิกความยืนยันว่าเหตุเกิดตามวันดังกล่าวแต่แพทย์ผู้รับตัวผู้เสียหายได้ทำบันทึกการชันสูตรบาดแผลเขียนเลย 27 ติดต่อกัน ทำให้ดูคล้ายเลข 24 จึงทำให้ผู้คัดสำเนาบันทึกคัดเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในการพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง และแม้จำเลยจะได้รับสำเนาบันทึกการชันสูตรบาดแผลซึ่งคัดวันเกิดเหตุผิดพลาด ก็ไม่ทำให้จำเลยผิดหลงเกี่ยวกับวันเกิดเหตุ เพราะจำเลยรับอยู่แล้วว่าในวันเกิดเหตุจำเลยไปบ้านผู้เสียหายจริง ไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่า เกิดเหตุตำบลป่าไผ่ แม้พยานโจทก์บางปากจะเบิกความว่าที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่ที่ 2 ไม่ตรงกับรายงานชันสูตรพลิกศพว่าเหตุเกิดในหมู่ที่ 4 ทางพิจารณาก็ฟังได้ว่าเหตุเกิดที่บ้านผู้ตายซึ่งอยู่ในตำบลป่าไผ่ตรงตามฟ้องนั่นเอง ทั้งจำเลยก็ยอมรับว่าได้ไปที่บ้านที่เกิดเหตุจริง ปัญหาฐานที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่ที่ 2 หรือ หมู่ที่ 4 ของตำบลป่าไผ่จึงไม่ใช่ข้อแตกต่างในสาระสำคัญแห่งคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องของฟ้อง: การระบุเวลาในฟ้องอาญาที่ไม่เคลือบคลุมเมื่อเชื่อมโยงกับข้อความอื่นในฟ้อง
ฟ้องข้อ ค. ระบุวันเดือนปีที่จำเลยทำผิดแม้ไม่ได้ระบุว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนแต่เมื่อข้อความในฟ้อง ข้อ ค. ต่อเนื่องกับฟ้อง ข้อข. ซึ่งระบุวันเดือนปีตรงกับฟ้อง ข้อค. และระบุเวลากลางวันไว้ด้วย ทำให้เข้าใจได้ดีว่าการกระทำของจำเลยตามฟ้อง ข้อ ค. ได้เกิดขึ้นแล้วในฟ้อง ข้อ ข. อันเป็นวันเวลาเดียวกันนั้นเอง เช่นนี้ ฟ้องข้อ ค. ไม่เคลือบคลุมในข้อที่ไม่ระบุเวลาว่า กลางวันหรือกลางคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผูกพันคำพิพากษาเดิม, ใบมอบอำนาจ, และการเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับมอบอำนาจในคดีแพ่ง
ป.วิ.แพ่ง ม.47 หมายถึงกรณีที่ศาลมีเหตุอันควรสงสัยเท่านั้น
ใบมอบอำนาจทำในเมืองต่างประเทศ ลงชื่อผู้มอบและผู้รับมอบกับสามีโจทก์ผู้มอบลงชื่ออนุญาตยินยอมในการนี้และมีพยานลงชื่อรับรอง ทั้งมีกงสุลรักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ไทยเมืองเจดาห์ลงชื่อรับรองว่า ตัวโจทก์ผู้มอบอำนาจได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าตน โดยมีตราตำแหน่งกงสุลประทับ แม้จำเลยต่อสู้เกี่ยวกับใบมอบอำนาจว่าจำเลยไม่รับรองและอาจจะไม่เป็นดังนั้น ดังนี้ และว่าประเทศอาหรับไม่มีกงสุลสยามและไม่มีบุคคลตามที่ ป.วิ.แพ่ง ม.47 บัญญติไว้ลงชื่อเป็นพยานเช่นนี้ศาลเห็นได้เองว่าไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะไม่ใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริง
เมื่อจำเลยคดีนี้ซึ่งเป็นจำเลยในคดีก่อนนั้นด้วยไม่ได้คัดค้านความแท้จริงของคำพิพากษาฎีกาในคดีก่อนซึ่งวินิจฉัยเกี่ยวกับที่พิพาทแปลงเดียวกันกับคดีใหม่นี้และคำพิพากษาฎีกาในคดีก่อนก็ได้อ่านและจำเลยก็ทราบแล้ว จำเลยจะมาอ้างในคดีใหม่นี้ว่าผู้รับอำนาจจากโจทก์ในคดีก่อนได้มรณะและโจทก์ยังไม่ได้มอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินคดีแทนเช่นนี้ หาได้ไม่เพราะเรื่องเช่นว่านั้นเป็นเรื่องของโจทก์ ไม่เกี่ยวกับจำเลยคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวจึงผูกพันจำเลย หาตกเป็นโมฆะไม่
ตัวโจทก์จำเลยในคดีก่อนกับคดีใหม่นี้เป็นคู่ความคู่กัน คดีก่อนถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ คำพิพากษาในคดีก่อนย่อมผูกพันจำเลยในคดีใหม่นี้ในส่วนที่เกี่ยวกับที่พิพาทแปลงเดียวกันนั้นด้วย จำเลยจะมาอ้างเหตุว่าผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ในคดีก่อนกับในคดีใหม่นี้เป็นคนละคนกัน จะเอาคำพิพากษาคดีก่อนมาใช้กับคดีใหม่นี้ ไม่ได้นั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะโจทก์ในคดีก่อนกับคดีใหม่นี้เป็นคนเดียวกัน เป็นแต่ผู้รับมอบอำนาจต่างคนกันเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความอาฆาตต่อเนื่องและการจ้างวานฆ่าผู้อื่น ศาลลงโทษจำเลยทั้งสองฐานพยายามฆ่าและจ้างวาน
จำเลยที่ 1 อาฆาตผู้เสียหายได้พยายามหลายครั้งที่จะทำลายชีวิตผู้เสียหายต่อเนื่องกันมาที่สุดได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ดังนี้ความผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ลงมือกระทำต้องปรับตาม ม.249,60 ส่วนจำเลยที่ 1 ผู้จ้างด้วยความแค้นและพยายามนั้นต้องปรับตาม ม.250(3),60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ช่วงคดีความ: การพยายามเข้าครอบครองต่อเนื่องแม้ถูกขัดขวาง ไม่ถือเป็นการครอบครองโดยสงบและเปิดเผย
โจทก์จำเลยเป็นความกันในศาลแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินกันมาครั้งหนึ่งแล้วในระหว่างพิจารณาคดีก่อนนั้นต่างก็แย่งกันเข้าทำนารายพิพาทถึงกับจะเกิดวิวาทกัน จนทั้ง สอง ฝ่ายต่างขอความคุ้มครอง ขอให้ศาลเรียกมาประมูลทำนารายนี้ แต่ศาลไม่อนุญาต ในที่สุดโจทก์ได้เข้าทำนาพิพาทบางส่วน ดังนี้ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นได้ว่าในระหว่างคดีก่อนนั้น โจทก์ได้พยายามเข้าครอบครองเพื่อเอาที่พิพาทคืนอยู่เสมอมา หากแต่จำเลยไม่ยอมคืนให้ ฉะนั้น จะฟังว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทไว้ โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาโดยนับเวลา ในระหว่างที่เป็นความกันในคดีก่อนดังกล่าวแล้ว เข้าด้วยกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องของการกระทำผิดฉ้อโกง: การส่งมอบทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิดก่อนหน้า
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฎว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพะยานปรากฎว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความต่อเนื่องแห่งการกระทำความผิดฉ้อโกง แม้ส่งมอบทรัพย์ในวันรุ่งขึ้น ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฏว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพยานปรากฏว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์กลายเป็นชิงทรัพย์เนื่องจากทำร้ายเจ้าทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม
จำเลยมีศาสตราวุธเข้าไปลักไก่ของเจ้าทรัพย์. เจ้าทรัพย์ได้ตีจำเลยล้มไปก่อน. ไก่ที่ลักมาหลุดมือหนีไป. จำเลยกลับฟันเจ้าทรัพย์แล้วก็หนีไป. การกระทำของจำเลยที่ทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นการต่อเนื่องกับการลักทรัพย์ยังไม่ขาดตอนกัน. และเมื่อทำร้ายแล้วก็หนีไป เห็นได้ว่าทำร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา. จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์ไม่ใช่ลักทรัพย์ และทำร้ายเจ้าทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308-309/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานปล้นทรัพย์ แม้การทำร้ายเกิดขึ้นต่างสถานที่จากลักทรัพย์
จำเลยทำการลักทรัพย์ที่ตำบลหนึ่ง แต่ทำร้ายเจ้าทรัพย์อีกตำบลหนึ่งในเมื่อเจ้าทรัพย์ตามไปทันแม้ฟ้องของโจทก์ระบุสถานที่เกิดเหตุฉะเพาะตำบลแรกก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นได้
of 3