พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6596/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลและการถอนฟ้องคดีอาญา – ความผิดต่อส่วนตัว
จำเลยยื่นฎีกาและศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาแล้ว คดีจึงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ของโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจที่จะสั่ง การที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์และจำหน่ายคดีในขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาให้ยกคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39 (2) จึงให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว ศาลอนุญาตได้ก่อนคดีถึงที่สุดเมื่อจำเลยไม่คัดค้าน
คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว โจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ เมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39(2) ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกา และเมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกาแล้ว ย่อมไม่จำต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวโจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้เมื่อจำเลยไม่คัดค้านศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกาและเมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความของศาลฎีกาแล้วย่อมไม่จำต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5762/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อส่วนตัวไม่กระทบอำนาจฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย และเหตุไม่ควรปรานีในการรอการลงโทษ
ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และ 297ที่พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยนั้น มิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว ดังนั้น การที่ ถ.และอ. จะเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายหรือไม่ หามีผลต่ออำนาจฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ไม่ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ พฤติการณ์ที่จำเลยกับพวกกระทำแก่ ถ.และอ. เป็นการกระทำที่รุนแรง มีการใช้ไม้ท่อนและขวดเป็นอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันหลายคนโดยที่ฝ่ายผู้เสียหายทั้งสองมิได้เป็นฝ่ายก่อเหตุก่อนและผลแห่งการถูกทำร้ายร่างกายครั้งนั้น ถ. ได้รับอันตรายสาหัสถึงกับเลือดคั่งใต้กะโหลกศีรษะ สมองช้ำ เดินไม่ได้ตามปกติทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้บรรเทาผลร้ายแห่งคดีแต่อย่างใดเลยจึงไม่มีเหตุอันควรปรานีด้วยการรอการลงโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3597/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความหลังศาลชั้นต้น: ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแม้ศาลอุทธรณ์ไม่หยิบยก
คดีความผิดต่อส่วนตัว หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องพร้อมอุทธรณ์ของจำเลยว่าประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยากับจำเลย ไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยอีกต่อไป ฝ่ายโจทก์ไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาลงโทษจำเลยโดยมิได้หยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญาต่อส่วนตัว ทำให้สิทธิฟ้องระงับ แม้ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัย
คดีความผิดต่อส่วนตัว หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องพร้อมอุทธรณ์ของจำเลยว่าประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยากับจำเลย ไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยอีกต่อไป ฝ่ายโจทก์ไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำเลยโดยมิได้หยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4788/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวหลังฎีกา และผลของการไม่รับฎีกาเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวในชั้นฎีกาแต่คดีสำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่สุดไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยจำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ โจทก์จึง ขอถอนฟ้องคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ศาลอนุญาตได้เมื่อจำเลยไม่คัดค้าน
คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวโจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ เมื่อจำเลยไม่คัดค้านจึงอนุญาต ให้โจทก์ถอนฟ้องได้ และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6097/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายในคดีอาญา ทำให้สิทธิในการฟ้องของโจทก์ระงับ และการพิพากษาชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่ชอบ
คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้เสียหายที่ 8 ที่ 9 ที่ 10 ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์โดยไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองอีกต่อไปสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39(2)การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้เสียหายที่ 8 ที่ 9 ที่ 10 จึงไม่ชอบ ต้องจำหน่ายคดี เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมิได้กระทำผิดตามฟ้องพนักงานอัยการย่อมไม่มีสิทธิเรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 43 การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย จึงไม่ชอบกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยทั้งสองไม่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิถอนคำร้องทุกข์ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวทำให้สิทธิฟ้องระงับ
(คำสั่งศาลฎีกาที่ 2573/2534) คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวและยังไม่ถึงที่สุด ผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)