พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4903/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพและพยานหลักฐานแวดล้อมใช้พิสูจน์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ได้ หากปรากฏข้อเท็จจริงสนับสนุนความสมัครใจและเป็นความจริง
การที่จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนกับนำชี้สถานที่ต่าง ๆ ที่ระบุในคำให้การโดยความสมัครใจ ทั้งมีพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีว่า จำเลยที่ 3นำเจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจค้นยึดเหรียญหลวงปู่แหวนของผู้เสียหายที่ถูกจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกปล้นไปคืนได้จากบ้านจำเลยที่ 3 เช่นนี้ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายตามฟ้อง แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย คงมีแต่คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 3 และพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีแต่คำให้การรับสารภาพดังกล่าวของจำเลยที่ 3 ก็อาจใช้ยันจำเลยที่3 ในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานพอรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3435/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองความประพฤติที่ไม่เป็นเหตุให้เกิดละเมิด การกระทำตามความสมัครใจ
การที่จำเลยทั้งหกได้พูดจารับรองความประพฤติของจำเลยที่ 1เพื่อให้โจทก์ที่ 1 ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้เกี่ยวกับการค้าขายและผลิตทองรูปพรรณและอัญมณีให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อจำเลยที่ 1จะได้ทำการค้าขายทองรูปพรรณร่วมกับโจทก์ที่ 2 หลังจากสมรสกับโจทก์ที่ 2 นั้น ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งหกจงใจกระทำผิดกฎหมายเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง พฤติกรรมของจำเลยทั้งหกเพียงพูดความเท็จให้โจทก์เชื่อถือในความประพฤติของจำเลยที่ 1เท่านั้น การที่โจทก์ที่ 1 ประสิทธิ์ประสาทวิชาช่างทองให้จำเลยที่ 1และโจทก์ที่ 2 สมรสกับจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องเกิดจากความสมัครใจของโจทก์ทั้งสองเอง การกระทำของจำเลยทั้งหกจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ทั้งสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่สมัครใจและพยานบอกเล่าไม่มีน้ำหนักพิสูจน์ความผิด
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความว่าเห็นจำเลยเป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย คงมีเพียงพนักงานสอบสวนมาเบิกความว่าได้สอบสวนพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ คือ ล. บ. และ ช. ทราบว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนจำเลยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง ลำพังบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนที่ไม่มีพยาน-หลักฐานอื่นมาสนับสนุนจะนำมารับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดทางอาญาจากพยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอ พยานบอกเล่าและคำรับสารภาพที่ไม่สมัครใจ
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความว่าเห็นจำเลยเป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย คงมีเพียงพนักงานสอบสวนมาเบิกความว่าได้สอบสวนพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ คือ ล.บ. และ ช. ทราบว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนจำเลยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักในการรับฟัง ลำพังบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนที่ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนจะนำมารับฟังเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2989/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งสัญชาติและการโต้แย้งสิทธิ: การที่บิดามารดาแจ้งสัญชาติด้วยความสมัครใจ และการที่โจทก์ไม่เคยโต้แย้งสิทธิ ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
บิดามารดาโจทก์ทั้งหกแจ้งการเกิดของโจทก์ทั้งหกต่อสำนักงานกิจการญวนอพยพด้วยความสมัครใจมิได้ถูกผู้ใดบังคับให้ไปแจ้ง และ ง. บิดาโจทก์ทั้งหกพาโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ไปทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ ก็โดยเข้าใจเอาเองว่าโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3เป็นคนญวนอพยพโดยมิได้มีผู้ใดบังคับเช่นกัน การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีประกาศให้คนญวนอพยพไปแจ้งต่อสำนักงานกิจการญวนอพยพนั้นก็น่าจะเป็นประกาศที่มีลักษณะเป็นการประกาศทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่คำสั่งเฉพาะเจาะจงบังคับให้โจทก์ทั้งหกไปทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพ เหตุที่มีชื่อโจทก์ทั้งหกในทะเบียนบ้านญวนอพยพ ก็เนื่องจากบิดาของโจทก์ทั้งหกไปแจ้งต่อจำเลยที่ 3 ว่า โจทก์ทั้งหกเป็นคนญวนอพยพ โดยเข้าใจเอาเองว่าโจทก์ทั้งหกเป็นคนญวนอพยพ มิใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 2และที่ 3 ที่เพิ่มชื่อโจทก์ทั้งหกในทะเบียนบ้านญวนอพยพโดยพลการทั้งโจทก์ทั้งหกก็ไม่เคยโต้แย้งต่อจำเลยที่ 2 และที่ 3 ว่าโจทก์ทั้งหกมิใช่คนญวนอพยพ คดียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3โต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งหก โจทก์ทั้งหกจึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกชำระหนี้แทนลูกหนี้: สัญญาผูกพันใช้บังคับได้หากทำด้วยความสมัครใจ
ข. ขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย เจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับ ข. และทำบันทึกตกลงทางแพ่งไว้ว่า จำเลยขอรับชดใช้ในมูลละเมิดทั้งหมดและรับชดใช้ซ่อมรถยนต์โจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิม ถือว่าในขณะทำบันทึก ข. มีหนี้ต้องชำระแก่โจทก์การที่จำเลยยอมทำบันทึกดังกล่าว เป็นกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทน ข. ลูกหนี้ แม้บันทึกดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ แต่เป็นสัญญาประเภทหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ และมีผลผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกชำระหนี้แทนลูกหนี้: สัญญาที่ทำด้วยความสมัครใจมีผลผูกพัน
ข. ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย จึงมีหนี้ที่ ข. ต้องชำระต่อโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทน ข. และโจทก์ก็ตกลงด้วยโดยทำเป็นบันทึกกันไว้แม้เอกสารดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้แต่ก็เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งคู่ความกระทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่เป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ จึงมีผลตามกฎหมายผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ได้จากการถูกข่มขู่ ไม่เป็นประโยชน์ในการลดโทษ
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าได้ฆ่าผู้ตาย แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบว่าคำให้การรับสารภาพดังกล่าวเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจข่มขู่ ซึ่งหมายความว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจหรือตามความเป็นจริง กรณีจึงถือว่าไม่มีคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษเพื่อยกขึ้นเป็นข้ออ้างสำหรับลดโทษให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำสารภาพและพยานหลักฐานประกอบในคดีอาญา แม้พยานมีส่วนเกี่ยวข้อง
แม้ ส. จะมีพฤติการณ์ที่ส่อแสดงว่าได้รู้เห็นเป็นใจด้วยกับจำเลยในการกระทำผิดมาแต่ต้น แต่เมื่อ ส. ไม่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ คำเบิกความของ ส. มิใช่จะรับฟังไม่ได้เสียเลย ถ้าโจทก์มีพยานอื่นประกอบก็รับฟังลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำซัดทอดประกอบพยานหลักฐานอื่นฟังได้ ความสมัครใจในการให้การสำคัญกว่าประโยชน์ที่ได้รับ
คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 แม้เป็นคำซัดทอดก็รับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ให้มีน้ำหนักได้ แต่ถ้าคำซัดทอดนั้นกระทำเพื่อให้ผู้ซัดทอดพ้นผิดหรือได้รับประโยชน์ คำซัดทอดนั้นย่อมไม่มีน้ำหนัก เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับประโยชน์จากการซัดทอดถึงจำเลยที่ 2 ทั้งมีเหตุผลอยู่ในตัวว่าหากจำเลยที่ 2มิได้ร่วมกระทำผิดก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ให้การพาดพิงถึงจนกระทั่งเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจวางแผนการให้จำเลยที่ 1นัดหมายให้จำเลยที่ 2 ออกจากบ้านมาเพื่อพบตนและถูกจับได้แสดงให้เห็นว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 ในส่วนที่พาดพิงถึงจำเลยที่ 2 มีความจริง