พบผลลัพธ์ทั้งหมด 72 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจงใจใช้ชื่อสมาคมที่คล้ายคลึงกับผู้อื่นเพื่อสร้างความสับสนและแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า เป็นการละเมิดสิทธิ
โจทก์และจำเลยที่ 1 มีรายได้จากการจัดทำพระรูปปั้นจำลองออกจำหน่ายเหมือนกัน โจทก์ใช้ชื่อ "จตุรเสนาสมาคม"มาก่อน จำเลยที่ 2 เคยเป็นกรรมการสมาคมของโจทก์มาก่อนโดยเป็นเหรัญญิก แล้วจึงมาเป็นกรรมการของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 มีส่วนรู้เห็นในการตั้งชื่อสมาคมโจทก์มาก่อนและจำเลยที่ 2 ทราบดีว่าโจทก์หารายได้จากไหนมา หลังจากจำเลยที่ 2 ลาออกจากสมาคมโจทก์แล้วจึงมาตั้งสมาคมจำเลยที่ 1ขึ้นมาใหม่ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อจากธรรมโชคเป็นจตุระสมาคม การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายกสมาคมจำเลยที่ 1 รู้ถึงการใช้ชื่อและการดำเนินการของโจทก์อยู่ก่อนนั้นและจำเลยที่ 2 ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อจำเลยที่ 1 จากเดิมมาเป็นจตุระสมาคม และดำเนินการขายพระรูปปั้นจำลองเช่นเดียวกับโจทก์แม้ชื่อโจทก์จะมี 7 พยางค์ และจำเลยที่ 1มี 5 พยางค์ และตัวสระแตกต่างกันแต่คำนำหน้าเหมือนกันและอ่านออกเสียงเหมือนกัน ประชาชนทั่วไปอาจเกิดความสับสนได้การที่จำเลยที่ 1 กระทำเห็นเจตนาได้ว่าจำเลยที่ 1 เปลี่ยนชื่อของตนโดยจงใจเลียนชื่อโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิห้ามมิให้จำเลยที่ 1ใช้ชื่อดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ชื่อสมาคมที่คล้ายคลึงกันจนประชาชนทั่วไปสับสน และการดำเนินธุรกิจซ้ำกัน ถือเป็นการกระทำโดยเจตนาเลียนแบบ
โจทก์และจำเลยที่1มีรายได้จากการจัดทำพระรูปปั้นจำลองออกจำหน่ายเหมือนกันโจทก์ใช้ชื่อ"จตุรเสนาสมาคม"มาก่อนจำเลยที่2เคยเป็นกรรมการสมาคมของโจทก์มาก่อนโดยเป็นเหรัญญิกแล้วจึงมาเป็นกรรมการของจำเลยที่1จำเลยที่2มีส่วนรู้เห็นในการตั้งชื่อสมาคมโจทก์มาก่อนและจำเลยที่2ทราบดีว่าโจทก์หารายได้จากไหนมาหลังจากจำเลยที่2ลาออกจากสมาคมโจทก์แล้วจึงมาตั้งสมาคมจำเลยที่1ขึ้นมาใหม่โดยจำเลยที่2เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อจากธรรมโชคเป็นจตุระสมาคม การที่จำเลยที่2ซึ่งเป็นนายกสมาคมจำเลยที่1รู้ถึงการใช้ชื่อและการดำเนินการของโจทก์อยู่ก่อนนั้นและจำเลยที่2ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อจำเลยที่1จากเดิมมาเป็นจตุระสมาคม และดำเนินการขายพระรูปปั้นจำลองเช่นเดียวกับโจทก์แม้ชื่อโจทก์จะมี7พยางค์และจำเลยที่1มี5พยางค์และตัวสระแตกต่างกันแต่คำนำหน้าเหมือนกันและอ่านออกเสียงเหมือนกันประชาชนทั่วไปอาจเกิดความสับสนได้การที่จำเลยที่1กระทำเห็นเจตนาได้ว่าจำเลยที่1เปลี่ยนชื่อของตนโดยจงใจเลียนชื่อโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิห้ามมิให้จำเลยที่1ใช้ชื่อดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า แม้สินค้าต่างจำพวก หากก่อให้เกิดความสับสนแก่สาธารณชน
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับสินค้าจำพวก 10ซึ่งเป็นสินค้าเกี่ยวกับเครื่องบอกเวลาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2494 เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปมงกุฎห้ายอด บนยอดมงกุฎแต่ละยอดมีจุดกลมสีดำ ใต้มงกุฎมีอักษรโรมันคำว่า ROLEX (โรเล็กซ์) ส่วนจำเลยเพิ่งจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับสินค้าจำพวก 39 รายการดินสอ และสินค้าจำพวก 39 ทั้งจำพวกเมื่อปี2524 และปี 2526 โดยเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นรูปมงกุฎห้ายอดมีจุดกลมสีดำอยู่บนมงกุฎเช่นเดียวกัน ใต้มงกุฎต่างมีอักษรโรมันคำว่า Lolex ซึ่งมีลักษณะตัวอักษรคล้ายคลึงกัน ทั้งยังอ่านออกเสียงคล้ายคำว่า "โรเล็กซ์" ด้วย เมื่อพิจารณารวมทั้งหมดจึงคล้ายคลึงกันมาก แม้จำเลยจะจดทะเบียนในสินค้าต่างจำพวกกับสินค้าของโจทก์ ก็นับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้หลงผิด เพราะผู้ซื้อหรือผู้ใช้สินค้าอาจหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าที่โจทก์ผลิตขึ้น แม้จำเลยจะยังมิได้นำสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวออกจำหน่าย แต่การที่จำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียน ถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์จึงมีสิทธิห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวต่อไปได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ามานานกว่า80 ปี และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย เป็นการอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าจำเลยผู้ได้จดทะเบียนไว้ในประเทศไทย จึงขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 41(1)นอกเหนือจากการที่เคยใช้สิทธิโต้แย้งต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามมาตรา22 ไว้แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ามานานกว่า80 ปี และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย เป็นการอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าจำเลยผู้ได้จดทะเบียนไว้ในประเทศไทย จึงขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 41(1)นอกเหนือจากการที่เคยใช้สิทธิโต้แย้งต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามมาตรา22 ไว้แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกันจนเกิดความสับสน แม้จะจดทะเบียนในประเภทสินค้าต่างกัน ถือเป็นการละเมิดสิทธิ
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับสินค้าจำพวก10ซึ่งเป็นสินค้าเกี่ยวกับเครื่องบอกเวลาในประเทศไทยตั้งแต่ปี2494เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปมงกุฎห้ายอดบนยอดมงกุฎแต่ละยอดมีจุดกลมสีดำใต้มงกุฎมีอักษรโรมันคำว่าROLEX(โรเล็กซ์)ส่วนจำเลยเพิ่งจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับสินค้าจำพวก39รายการดินสอและสินค้าจำพวก39ทั้งจำพวกเมื่อปี2524และปี2526โดยเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นรูปมงกุฎห้ายอดมีจุดกลมสีดำอยู่บนมงกุฎเช่นเดียวกันใต้มงกุฎต่างมีอักษรโรมันคำว่าLolexซึ่งมีลักษณะตัวอักษรคล้ายคลึงกันทั้งยังอ่านออกเสียงคล้ายคำว่า"โรเล็กซ์"ด้วยเมื่อพิจารณารวมทั้งหมดจึงคล้ายคลึงกันมากแม้จำเลยจะจดทะเบียนในสินค้าต่างจำพวกกับสินค้าของโจทก์ก็นับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้หลงผิดเพราะผู้ซื้อหรือผู้ใช้สินค้าอาจหลงผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าที่โจทก์ผลิตขึ้นแม้จำเลยจะยังมิได้นำสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวออกจำหน่ายแต่การที่จำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปจดทะเบียนถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตทำให้โจทก์เสียหายโจทก์จึงมีสิทธิห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวต่อไปได้ โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ามานานกว่า80ปีและได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเป็นการอ้างว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าจำเลยผู้ได้จดทะเบียนไว้ในประเทศไทยจึงขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายการค้าพ.ศ.2474มาตรา41(1)นอกเหนือจากการที่เคยใช้สิทธิโต้แย้งต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามมาตรา22ไว้แล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7123/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ชื่อทางการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนและละเมิดสิทธิ
ชื่อของนิติบุคคลอาคารชุดจำเลยร่วมมีคำว่า "โอเรียนเต็ล"เหมือนกับเครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าของบริษัทโจทก์ที่ 1 จำเลยร่วมมีเจตนาใช้คำว่า "โอเรียนเต็ล" เป็นชื่อทางการค้าของจำเลยร่วมเพราะชื่อดังกล่าวมีอักษรโรมันคำว่า "ORIENTAL" เป็นอักษรประดิษฐ์ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน ในขณะที่อักษรโรมันคำว่า "HILL - RESORT CONDOMINIUM" เป็นอักษรขนาดเล็กเขียนไว้ด้านใต้คำว่า "ORIENTAL" แสดงว่าจำเลยร่วมต้องการให้บุคคลทั่วไปเรียกขานชื่อทางการค้าของจำเลยร่วมว่า "โอเรียนเต็ล" ดังนั้น ชื่อและตราเครื่องหมายของจำเลยร่วมคำว่า "โอเรียลเต็ล" จึงเหมือนกับเครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 ได้ใช้คำว่า "โอเรียนเต็ล"เป็นชื่อทางการค้าในกิจการโรงแรมมานานจนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่สาธารณชนทั่วไปและโจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้สำหรับสินค้าหลายจำพวก ดังนั้นหากมีการนำคำว่า "โอเรียนเต็ล" มาใช้ในธุรกิจโรงแรมหรือธุรกิจอื่นในลักษณะเดียวกัน สาธารณชนย่อมเข้าใจว่ากิจการดังกล่าวเป็นกิจการของโจทก์ที่ 1 เมื่อจำเลยร่วมได้ใช้หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ชื่อทางการค้าส่วนหนึ่งว่า "โอเรียนเต็ล"เพื่อประกอบกิจการอันมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกิจการโรงแรมซึ่งเปิดให้บุคคลภายนอกทั่วไปเข้าพักและใช้บริการได้เช่นเดียวกับโรงแรม การกระทำของจำเลยร่วมดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดความสับสนหลงผิดต่อสาธารณชน การกระทำของจำเลยร่วมเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต และเป็นการละเมิดต่อโจทก์ที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ชื่อบริษัทและเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกันเป็นละเมิดสิทธิ และการใช้เครื่องหมายการค้าที่ทำให้สาธารณชนสับสน
โจทก์เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์ ภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า "UNIX" ทั้งในต่างประเทศและประเทศไทยและสำหรับในประเทศไทยโจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับสินค้าจำพวกที่ 8 ชนิดสินค้าคอมพิวเตอร์ ส่วนและอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในจำพวกนี้รวมทั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งได้โฆษณาเผยแพร่สินค้าคอมพิวเตอร์ ของโจทก์มาก่อนที่จำเลยจะยื่นขอจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดและใช้ชื่อบริษัททั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า"บริษัทยูนิกซ์คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด" และ"UNIXCOMPUTER(THAILAND)COMPANYLIMITED" คำว่า "UNIX"ที่จำเลยนำไปจดทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัทจำเลยและเป็นส่วนหนึ่งของตรา บริษัท จำเลยเหมือนกันกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า "UNIX" ซึ่งใช้กับสินค้าคอมพิวเตอร์ ของโจทก์จำเลยประกอบธุรกิจจำหน่ายรับซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ และจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำเลยอยู่ในวงการธุรกิจคอมพิวเตอร์ ทราบดีว่าคำว่า "UNIX" เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โจทก์ผลิตและจำหน่าย การที่จำเลยนำคำว่า"UNIX" ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์ไปจดทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของชื่อและตราของบริษัทจำเลยและจำเลยรับเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า"ONIX" ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์มากย่อมทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดว่าสินค้าคอมพิวเตอร์หรือการค้าของจำเลยเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์เป็นการแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงและเกียรติคุณในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์โดยมิได้รับอนุญาต การใช้คำว่า "UNIX" เป็นส่วนหนึ่งของชื่อและตรา บริษัท จำเลยจึงเป็นการใช้โดยไม่สุจริตเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 อันเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะโจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิ การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์ โจทก์ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า "UNIX" ย่อมมีสิทธิขัดขวางมิให้จำเลยนำคำดังกล่าวไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อและตรา บริษัท จำเลยและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ การที่จำเลยรู้อยู่แล้วยังจำหน่ายสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีเครื่องหมายการค้าคำว่า "ONIX" ซึ่งเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า "UNIX" ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์ที่ผลิตออกจำหน่ายจนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้สับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าย่อมถือได้ว่าเป็นการใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายดังกล่าวซึ่งติดมากับสินค้านั้นอยู่ในตัว ดังนี้แม้จำเลยจะมิใช่ผู้ผลิตสินค้านั้นและคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าคำว่า "ONIX" การกระทำของจำเลยก็เป็นการใช้เครื่องหมายการค้าโดยละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า "UNIX"ของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 2,000 บาทแทนโจทก์ คดีนี้เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ อัตราค่าทนายความในศาลอุทธรณ์ชั้นสูงตามตาราง 6 ท้าย กำหนดไว้เพียง 1,500 บาทการกำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้จำเลยใช้แก่โจทก์จึงเกินอัตราดังกล่าว เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาชอบที่จะแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันจนอาจทำให้เกิดความสับสนและหลงผิด
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในสินค้าจำพวก 42 ทั้งจำพวกเมื่อ พ.ศ.2520 คือ อักษรโรมันกับอักษรภาษาไทยคำว่าCOOK กับ กุ๊ก โจทก์ได้ผลิตสินค้าน้ำมันพืชที่ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจำหน่ายและโฆษณาสินค้านั้นจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายของสาธารณชน ส่วนเครื่องหมาย-การค้าของจำเลยที่ยื่นขอจดทะเบียนเมื่อ พ.ศ.2532 ในสินค้าจำพวก 42 ทั้งจำพวกก็เป็นอักษรโรมันและอักษรภาษาไทยเช่นเดียวกันคือ คำว่า COOK MATE กับ กุ๊คเมทโดยจำเลยไม่เคยผลิตน้ำมันพืชออกจำหน่ายโดยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าว ดังนี้เครื่องหมายการค้าทั้งสองต่างเป็นเครื่องหมายประเภทคำ มีอักษรโรมันคำว่า COOKซ้ำกันและเขียนด้วยตัวอักษรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่อย่างเดียวกัน แม้เครื่องหมายการค้าของโจทก์จะเขียนด้วยอักษรภาษาไทยว่า กุ๊ก ส่วนของจำเลยเขียนว่า กุ๊ค แต่การ-ออกเสียงในภาษาไทยทั้งสองคำก็ไม่ต่างกัน เครื่องหมายการค้าทั้งสองคำจึงมีสาระสำคัญอยู่ที่การอ่านออกเสียงหรือสำเนียงเรียกขานคำว่า COOK เป็นหลักเพราะเรียกขานและจดจำได้ง่าย การใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนที่พบเห็นสินค้าซึ่งใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยสับสนหรือหลงผิดว่าเป็นสินค้าของโจทก์ได้ เพราะสินค้าของโจทก์และจำเลยเป็นสินค้าจำพวกเดียวกัน เครื่องหมายการค้าคำว่า COOK MATE และ กุ๊คเมท ของจำเลยจึงเหมือนและคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า COOK และ กุ๊ก ของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474มาตรา 16 นายทะเบียนจึงไม่อาจรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของจำเลยได้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยมีเจตนาแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงเกียรติคุณและความแพร่หลายในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ อันเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต โจทก์ชอบที่จะขอให้ห้ามจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนหรือเข้าเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์และเครื่องหมายการค้าคำว่าCOOK MATE และ กุ๊คเมท ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกันจนทำให้เกิดความสับสนและเป็นการลวงสาธารณชน
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในสินค้าจำพวก42ทั้งจำพวกเมื่อพ.ศ.2520คือ อักษรโรมันกับอักษรภาษาไทยคำว่าCOOK กับกุ๊ก โจทก์ได้ผลิตสินค้าน้ำมันพืชที่ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจำหน่ายและโฆษณาสินค้านั้นจนเป็นที่รู้จัดแพ่งหลายของสาธารณชนส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ยื่นขอจดทะเบียนเมื่อพ.ศ.2532ในสินค้าจำพวก42ทั้งจำพวกก็เป็นอักษรโรมันและอักษรภาษาไทยเช่นเดียวกันคือคำว่าCOOKMATE กับกุ๊คเมท โดยจำเลยไม่เคยผลิตน้ำมันพืชออกจำหน่ายโดยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวดังนี้เครื่องหมายการค้าทั้งสองต่างเป็นเครื่องหมายการค้าประเภทคำมีอักษรโรมันคำว่าCOOK ซ้ำกันและเขียนด้วยอักษรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่อย่างเดียวกันแม้เครื่องหมายการค้าของโจทก์จะเขียนด้วยอักษรภาษาไทยว่ากุ๊ก ส่วนของจำเลยเขียนว่ากุ๊คแต่การออกเสียงในภาษาไทยทั้งสองคำก็ไม่ต่างกันเครื่องหมายการค้าทั้งสองคำจึงมีสาระสำคัญอยู่ที่การอ่านออกเสียงหรือสำเนียงเรียกขานคำว่าCOOK เป็นหลักเพราะเรียกขานและจดจำได้ง่ายการใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนที่พบเห็นสินค้าซึ่งใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยสับสนหรือหลงผิดว่าเป็นสินค้าของโจทก์ได้เพราะสินค้าของโจทก์และจำเลยเป็นสินค้าจำพวกเดียวกันเครื่องหมายการค้าคำว่าCOOKMATE และกุ๊คเมท ของจำเลยจึงเหมือนและคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่าCOOK และกุ๊ก ของCOOKที่ได้จดทะเบียนไว้จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ.2474มาตรา16นายทะเบียนจึงไม่อาจรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของจำเลยได้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยมีเจตนาแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงเกียรติคุณและความแพร่หลายในเครื่องหมายการค้าของโจทก์อันเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตโจทก์ชอบที่จะขอให้ห้ามจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนหรือเข้าเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์และเครื่องหมายการค้าคำว่าCOOKMATE และกุ๊คเมท ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7376/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกันจนทำให้สาธารณชนสับสน และการใช้เครื่องหมายการค้าในสินค้าประเภทเดียวกันกับที่จดทะเบียน
เครื่องหมายการค้าของจำเลยซึ่งใช้คำว่า "Sunferrox"นั้น มีอักษรโรมันเหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ใช้คำว่า"BAYFERROX" และ "Bayferrox" อยู่ถึง 6 ตัว คือคำว่า "ferrox" ซึ่งอ่านออกเสียงเหมือนกันว่า "เฟอร์รอกซ์" ต่างกันเพียงอักษร 3 ตัวแรกเท่านั้น โดยคำว่า "ferrox" ตามที่ปรากฏบนกระสอบบรรจุสินค้าของโจทก์และจำเลยพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์เล็กเหมือนกัน ทั้งเครื่องหมายการค้าคำว่า "SUNROX" ของจำเลยก็วางตัวอักษรอยู่ในลักษณะไขว้กันเป็นกากบาทอยู่ภายในวงกลมเช่นเดียวกับเครื่อง-หมายการค้าของโจทก์ซึ่งใช้คำว่า "BAYER" โดยมีการจัดวางตัวอักษรในลักษณะเดียวกันกับของโจทก์ทุกประการ กระสอบบรรจุสินค้าของจำเลยใช้รหัสสินค้าคำว่า"12ON" ควบคู่กันไปเช่นเดียวกับรหัสสินค้าคำว่า "12ON" ซึ่งปรากฏอยู่ที่กระสอบบรรจุสินค้าของโจทก์ จำเลยได้ระบุไว้ที่กระสอบบรรจุสินค้าของจำเลยว่าเป็นไอออนออกไซค์ (Iron Oxide) เช่นเดียวกันกับที่ปรากฏบนกระสอบสินค้าของโจทก์ สินค้าของโจทก์และจำเลยบรรจุอยู่ในกระสอบซึ่งมีสีสันและขนาดใกล้เคียงกัน ทั้งระบุไว้ที่กระสอบบรรจุสินค้าว่า สินค้ามีน้ำหนัก 25 กิโลกรัม เหมือนกัน ซึ่งหากไม่พิจารณาให้รอบคอบหรือได้เห็นต่างเวลากัน ผู้ซื้อก็อาจจะไม่ทันสังเกตถึงข้อแตกต่างได้ ดังนี้เครื่องหมายการค้าของจำเลยตามคำขอจดทะเบียนและที่ใช้กับสินค้าของจำเลยจึงเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วและที่ใช้กับสินค้าของโจทก์จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้สับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้าแล้ว
แม้จำเลยจะยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 1 โดยอ้างว่าเป็นสีและบรรดาสินค้าอื่น ๆ ทั้งมวลซึ่งอยู่ในจำพวกนี้ก็ตามแต่เวลาจำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาใช้กับสินค้าที่จำเลยผลิตออกจำหน่ายกลับปรากฏว่าจำเลยนำเครื่องหมายการค้าของจำเลยมาใช้กับสินค้าไอออนออกไซด์อันเป็นสินค้าชนิดเดียวกันกับสินค้าของโจทก์ซึ่งจัดอยู่ในจำพวกที่ 4 เมื่อโจทก์เป็นเจ้า-ของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนไว้ในสินค้าจำพวกดังกล่าว โจทก์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้านี้สำหรับสินค้าจำพวกดังกล่าว และมีสิทธิห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยยื่นขอจดทะเบียน ให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนดังกล่าว และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
แม้จำเลยจะยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 1 โดยอ้างว่าเป็นสีและบรรดาสินค้าอื่น ๆ ทั้งมวลซึ่งอยู่ในจำพวกนี้ก็ตามแต่เวลาจำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาใช้กับสินค้าที่จำเลยผลิตออกจำหน่ายกลับปรากฏว่าจำเลยนำเครื่องหมายการค้าของจำเลยมาใช้กับสินค้าไอออนออกไซด์อันเป็นสินค้าชนิดเดียวกันกับสินค้าของโจทก์ซึ่งจัดอยู่ในจำพวกที่ 4 เมื่อโจทก์เป็นเจ้า-ของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนไว้ในสินค้าจำพวกดังกล่าว โจทก์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้านี้สำหรับสินค้าจำพวกดังกล่าว และมีสิทธิห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยยื่นขอจดทะเบียน ให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนดังกล่าว และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7376/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกันจนทำให้เกิดความสับสนและความเสียหายต่อเจ้าของเครื่องหมายการค้าเดิม
เครื่องหมายการค้าของจำเลยซึ่งใช้คำว่า "Sunferrox" นั้นมีอักษรโรมันเหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ใช้คำว่า "BAYFERROX" และ "Bayferrox" อยู่ถึง6ตัวคือคำว่า "ferrox" ซึ่งอ่านออกเสียงเหมือนกันว่า "เฟอร์รอกซ์"ต่างกันเพียงอักษร3ตัวแรกเท่านั้นโดยคำว่า "ferrox" ตามที่ปรากฏบนกระสอบบรรจุสินค้าของโจทก์และจำเลยพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์เล็กเหมือนกันทั้งเครื่องหมายการค้าคำว่า "SUNROX" ของจำเลยก็วางตัวอักษรอยู่ในลักษณะไขว้กันเป็นกากบาทอยู่ภายในวงกลมเช่นเดียวกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ซึ่งใช้คำว่า "BAYER" โดยมีการจัดวางตัวอักษรในลักษณะเดียวกันกับของโจทก์ทุกประการกระสอบบรรจุสินค้าของจำเลยใช้รหัสสินค้าคำว่า "120N" ควบคู่กันไปเช่นเดียวกับรหัสสินค้าคำว่า "120N" ซึ่งปรากฎว่าอยู่ที่กระสอบบรรจุสินค้าของโจทก์จำเลยได้ระบุไว้ที่กระสอบบรรจุสินค้าของจำเลยว่าเป็น ไอออนออกไซด์(IronOxide) เช่นเดียวกันกับที่ปรากฎบนกระสอบสินค้าของโจทก์สินค้าของโจทก์และจำเลยบรรจุอยู่ในกระสอบซึ่งมีสีสันและขนาดใกล้เคียงกันทั้งระบุไว้ที่กระสอบบรรจุสินค้าว่าสินค้ามีน้ำหนัก25กิโลกรัมเหมือนกันซึ่งหากไม่พิจารณาให้รอบคอบหรือได้เห็นต่างเวลากันผู้ซื้อก็อาจจะไม่ทันสังเกตถึงข้อแตกต่างได้ดังนี้เครื่องหมายการค้าของจำเลยตามคำขอจดทะเบียนและที่ใช้กับสินค้าของจำเลยจึงเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วและที่ใช้กับสินค้าของโจทก์จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนให้สับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้าแล้ว แม้จำเลยจะยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่1โดยอ้างว่าเป็นสีและบรรดาสินค้าอื่นๆทั้งมวลซึ่งอยู่ในจำพวกนี้ก็ตามแต่เวลาจำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาใช้กับสินค้าที่จำเลยผลิตออกจำหน่ายกลับปรากฏว่าจำเลยนำเครื่องหมายการค้าของจำเลยมาใช้กับสินค้า ไอออนออกไซด์อันเป็นสินค้าชนิดเดียวกันกับสินค้าของโจทก์ซึ่งจัดอยู่ในจำพวกที่4เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนไว้ในสินค้าจำพวกดังกล่าวโจทก์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้านี้สำหรับสินค้าจำพวกดังกล่าวและมีสิทธิห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยยื่นขอจดทะเบียนให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนดังกล่าวและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้