คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสำคัญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอยืมทรัพย์โดยอ้างเหตุผลที่ไม่เป็นความจริง ไม่ถึงขั้นฉ้อโกง หากไม่มีผลต่อการให้ยืม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกล่าวคำหลอกลวงขอยืมรถจักรยาน2 ล้อ ไปทวงหนี้กับผู้มีชื่อ ดังนี้ ไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง เป็นแต่ผิดคำรับรองที่จำเลยให้ไว้ล่วงหน้าว่าจะไปทำกิจอย่างนั้นแล้วมิได้ไปทำเท่านั้นเพราะความสำคัญอยู่ที่จำเลยจะขอยืมรถเจ้าทรัพย์ ส่วนที่ว่าจะไปทวงหนี้ ก็เป็นแต่คำกล่าวประกอบการขอยืม ฟ้องโจทก์ก็มิได้กล่าวว่า ถ้าจำเลยไม่อ้างว่าจะไปทวงหนี้แล้วเจ้าทรัพย์ก็จะไม่ให้ (อ้างฎีกาที่ 1187/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำคัญของข้อความเบิกความในคดีอาญา: ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย
ไนคดีเบิกความเท็ด ปัญหาที่ว่าข้อความนั้นสำคันหรือไม่ ย่อมเปนปัญหาข้อเท็ดจิง โจทดีกาไม่ได้
แม้สาลล่างฟังว่าคำเบิกความของพยานไม่ไช่ข้อสำคันไนคดีเพราะเปนพยานบอกเล่า ก็คงถือว่าเปนข้อเท็ดจิงดุจกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำคัญของข้อความเบิกความเท็จ: การพิจารณาข้อเท็จจริงโดยศาล
ในคดีเบิกความเท็จ ปัญหาที่ว่าข้อความนั้นสำคัญหรือไม่.ย่อมเป็นปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้. แม้ศาลล่างฟังว่าคำเบิกความของพยานไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีเพราะเป็นพยานบอกเล่า. ก็คงถือว่าเป็นข้อเท็จจริงดุจกัน. ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2485.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาทำผิดในฟ้องอาญา: เวลากระทำผิดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเวลากลางวันพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำผิดเวลากลางคืน ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต้องระบุความสำคัญต่อคดี ฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จแต่มิได้บรรยายฟ้องว่าคำเบิกความนั้น เป็นข้อสำคัญแห่งคดีแล้วศาลยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10338/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีอาญา: ความสำคัญของคำเบิกความต่อการรับฟังพยานหลักฐาน
ในคดีอาญาเดิม พนักงานอัยการโจทก์ไม่สามารถติดตามตัว จ. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความเป็นพยานต่อศาลได้ จึงจำเป็นต้องส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของ จ. บันทึกการชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองและบันทึกการชี้ภาพถ่ายผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งจำเลยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาให้ จ. และพิมพ์ลายนิ้วมือในคำแปลไว้ กับจำเป็นต้องส่งบันทึกการสอบปากคำจำเลยในฐานะผู้ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษาให้ จ. ฟัง เป็นพยานหลักฐานต่อศาล และเพื่อให้พยานดังกล่าวมีคุณค่าในการรับฟังจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำตัวจำเลยมาเบิกความยืนยัน การที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จโดยเบิกความกลับคำให้การในชั้นสอบสวนเป็นว่า จำเลยพิมพ์ลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือลงในเอกสารทุกฉบับโดยที่จำเลยมิได้ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลและมิได้สาบานตัวว่าจะทำหน้าที่เป็นล่ามแปลต่อพนักงานสอบสวน ทั้งเบิกความด้วยว่าจำเลยมิได้ทำหน้าที่เป็นล่ามในการชี้ตัวและชี้ภาพถ่ายผู้ต้องหาทั้งสองเลย ความเท็จที่จำเลยเบิกความจึงเป็นข้อสำคัญในคดี เพราะหากศาลเชื่อตามคำเบิกความของจำเลย พยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ล่ามแปลของจำเลยดังกล่าว ย่อมเป็นพยานหลักฐานชนิดที่เกิดขึ้นโดยมิชอบที่ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้เลย เพราะต้องห้ามมิให้โจทก์อ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของจำเลยทั้งสองในคดีดังกล่าว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226
องค์ประกอบความผิดฐานเบิกความเท็จตาม ป.อ. มาตรา 177 วรรคแรก บัญญัติแต่เพียงว่า "ผู้ใดเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ถ้าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี..." เท่านั้น แสดงว่าเพียงความเท็จที่ผู้กระทำผิดเบิกความเป็นข้อสำคัญในคดีที่จะพิสูจน์ความจริงได้ก็ครบองค์ประกอบความผิดแล้ว ตามองค์ประกอบความผิดดังกล่าวหาได้ระบุว่าต้องเป็นข้อสำคัญในคดีถึงขนาดที่ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่ได้แต่อย่างใด
of 2