คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเข้าใจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจน โดยเฉพาะคดีเด็กและเยาวชนที่ต้องคำนึงถึงความเข้าใจของจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยบังอาจลักเอาธนบัตรของชายผู้มีชื่อไปโดยเจตนาทุจริตโดยจำเลยล้วงกระเป๋าชายผู้มีชื่อเพื่อลักทรัพย์" ดังนี้ เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเห็นได้ว่ายังไม่มีความหมายแน่นอนพอที่จะเข้าใจได้ว่าชายผู้มีชื่อนั้นหมายถึงบุคคลใดโดยเฉพาะ แม้โจทก์ไม่สามารถทราบชื่อ ก็น่าจะกล่าวบรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับชายผู้นั้นให้พอที่จะทำให้ฟ้องของโจทก์มีความแน่นอนขึ้น ไม่เกิดความสับสนหลงผิดแก่จำเลยได้
ในคดีที่จำเลยเป็นเด็กนั้น แม้ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 มาตรา 44 จะให้ศาลพยายามกระทำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาโดยเคร่งครัดก็ตาม แต่แท้ที่จริงมาตรานี้ก็เป็นบทบัญญัติให้ความคุ้มครองและประโยชน์แก่เด็ก มีความมุ่งหมายที่จะให้เด็กเข้าใจการพิจารณาของศาลเป็นสำคัญ ดังจะเห็นได้จากที่มีความบัญญัติไว้ด้วยว่า "ให้ใช้ภาษาง่ายๆ ให้จำเลยเข้าใจ" โจทก์จึงชอบที่จะบรรยายฟ้องให้ละเอียดเพื่อช่วยให้จำเลยซึ่งเป็นเด็กเข้าใจข้อหาโดยชัดแจ้งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาและแจ้งความเท็จ: จำเลยเข้าใจสัญญาถูกต้องตามเจตนา แม้ข้อความไม่ชัดเจน ไม่ถือเป็นแจ้งความเท็จ
โจทก์จำเลยทำสัญญากัน โดยจำเลยยอมให้เอาที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยื่นคำร้อง ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญา ในการนี้โจทก์ตกลงให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน ต่อมาพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อพนักงานโลหกิจว่า จนบัดนี้ โจทก์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทำเหมืองได้ จำเลยจึงขอคัดค้านการอ้างสิทธิของโจทก์โดยจำเลยไม่ยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลย ฯลฯ เช่นนี้ แม้ความจริงโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญากันนั้นไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อข้อความในสัญญามีเหตุทำให้จำเลยเข้าใจได้ดังคำร้องคัดค้านของจำเลยแล้ว โจทก์จะหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาและการแจ้งความเท็จ: จำเลยไม่ได้แจ้งความเท็จ แต่เป็นการเข้าใจสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญากัน โดยจำเลยยอมให้เอาที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญา ในการนี้โจทก์ตกลงให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน ต่อมาพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อพนักงานโลหกิจว่า จนบัดนี้ โจทก์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทำเหมืองได้ จำเลยจึงขอคัดค้านการอ้างสิทธิของโจทก์โดยจำเลยไม่ยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลย ฯลฯ เช่นนี้ แม้ความจริงโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากันนั้นไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อข้อความในสัญญามีเหตุทำให้จำเลยเข้าใจได้ดังคำร้องคัดค้านของจำเลยแล้ว โจทก์จะหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การบรรยายความประมาทที่จำเลยเข้าใจได้เพียงพอต่อการรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยขับรถโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยปกติชนโดยจำเลยขับรถพ้นจากเส้นทางริมขอบถนนลาดยางพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งห่างจากริมขอบถนนแล้วกระดอนเบนหัวกลับไปบนกลางถนนลาดยางชนรถยนต์ทางล้อหน้าของผู้เสียหายขับสวนทางมา การบรรยายฟ้องเช่นนี้จำเลยควรจะเข้าใจได้แล้วว่าความประมาทของจำเลยก็คือขับรถออกนอกทางตกลงไปในหลุมแล้วกระดอนขึ้นตรงเข้าชนรถยนต์ของผู้เสียหายจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ศาลยึดความเข้าใจโดยทั่วไปของคำฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้ยออันเป็นเครื่องมือต้องห้ามตามประกาศ ฯลฯ จับปลาน้ำจืดในฤดูปลามีไข่ ขอ ให้โทษ ดังนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า ายอที่จำเลยใช้จับสัตว์น้ำมีขนาดปากกว้างเกินกว่า 2 เมตร เพราะถ้ายอของจำเลย มีขนาดปากแคบกว่านั้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย โจทก์คงไม่ฟ้องจำเลยก็เข้าใจฟ้องโจทก์ได้ดี และรับสารภาพตลอดข้อหา มิได้ยกข้อต่อสู้ใด ๆ หาจำเป็นต้องบรรยายลงในฟ้องว่า ยอมีขนาดปากกว้างเท่าใดด้วยไม่ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการพิจารณาความเข้าใจข้อหาจากคำฟ้อง
คำว่า เวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)นั้นหมายความถึงวันเดือนปีด้วย ไม่หมายเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้ดีหรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบครองข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จและข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอาญา: การบรรยายฟ้องที่ทำให้เข้าใจถึงความเสียหาย
ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้นเมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายหรือ อาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องทุกๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยเข้าใจผิด: การกระทำเพื่อปกป้องตนเองจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์จึงเป็นการสมควรแก่เหตุ
เจ้าพนักงานเข้าตรวจจับสุราและฝิ่นที่บ้านจำเลยที่ 1 โดยไม่ได้แสดงหมายตั้งและแต่งกายอย่างราษฎรธรรมดา จำเลยที่ 1 หนีออกไปและร้องโวยวายขึ้นจำเลยที่ 3 อยู่คนละบ้านกันได้มาช่วยทำร้ายเจ้าพนักงานโดยเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ร้าย แล้วไปแจ้งเหตุต่อผู้ใหญ่บ้านไว้ เมื่อจำเลยเข้าใจผิดโดยจริงใจว่าเจ้าพนักงานเป็นผู้ร้ายเช่นนี้การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่เป็นผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในความผิดฉุดคร่า: ศาลต้องพิจารณาความเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นสามี แม้ไม่ได้จดทะเบียน
ชายลักพาหญิงอายุ 18 ปีซึ่งมีผู้ปกครองไปอยู่กินด้วยกันอย่างสามีภรรยา มิได้มีการไป+มาและมิได้จดทะเบียนสมรสดังนี้ ไม่เป็นสามีภรรยากันได้ตามกฎหมายแพ่ง จำเลยต้องหาเป็นความอาญาว่าฉุดคร่าอนาจารหญิง จำเลยต่อสู้ว่าหญิงเป็นภรรยาตน การวินิจฉัยว่าเป็นภรรยาจำเลยหรือไม่นี้ต้องถือหลักตามกฎหมายแพ่งฯเพราะในทางอาญาไม่มีบัญญัติไว้
ในความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 นั้น แม้หญิงผู้เสียหายจะมิได้เป็นภรรยาจำเลยตามกำหมาย แต่ถ้าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นสามีหญิงและได้ฉุดคร่าไปเพื่ออยู่กินด้วยกันตามเดิม ดังนี้ เรียกว่าจำเลยไม่มีเจตนาในทางอาญา หรืออีกนัยหนึ่งคือการบังอาจตามมาตรา 276 จำเลยยังไม่มีผิดตามมาตรานี้ ความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 ปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาในทางอาญาหรือได้บังอาจหรือไม่นั้น ตกหน้าที่โจทก์นำสืบ
ฎีกาว่าศาลล่างไม่ตีความตามข้อเท็จจริง ปรับรูปกฎหมายโดยเคร่งครัดและว่าศาลล่างไม่เพ่งเล็งการกระทำของจำเลยว่ามีเจตนาหรือไม่นั้นเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันปริมาณแอลกอฮอล์ในของกลาง จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ไม่เพียงแค่ความเข้าใจของเจ้าพนักงาน
ลักษณพะยาน คดีมีแต่คำตำรวจเบิกความตามความเข้าใจว่าของกลางดื่นกินได้อย่างน้ำสุรานั้น ไม่พอชี้ขาดว่าของกลางมีแอลกอฮอล์ พ.ร.บ.ลักษณอุทธรณ์ ม.3(1) ศาลเดิมลงโทษจำเลยโดยปราศจากคำพะยานซึ่งจะรับฟังเป็นหลักฐานได้นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
of 3