คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คัดค้านคำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 216 เพราะไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยการริบของกลางตามมาตรา 70 พ.ร.บ.ประมง
ฎีกาของจำเลยเพียงแต่ ยก มาตรา 69 พ.ร.บ. ประมงฯขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลใช้ ดุลพินิจ ไม่ริบของกลาง แต่ ไม่ได้กล่าวในฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์ให้ริบของกลางตาม มาตรา 70 พ.ร.บ. ประมงฯนั้น ไม่ถูกต้องในข้อใด อย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 216.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษาอย่างชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่อ้างเหตุว่า ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเนื่องจากทนายจำเลยต้องเดินทางไปงานศพของปู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำเลยไม่ได้ดัดแปลงต่อเติมอาคารที่เช่าและไม่ได้ให้ใครเช่าช่วง เพียงแต่ให้พี่สาวเป็นผู้ดูแลกิจการแทน จำเลยคืนหนังสือสัญญาเช่าแก่โจทก์เพราะถูกโจทก์หลอกลวงว่าจะต่อสัญญาเช่าให้ส่วนต่าช่าจำเลยชำระให้โจทก์ทุกเดือน นอกจากเดือนสุดท้ายโจทก์ไม่ยอมรับอ้างว่าให้ต่อสัญญาเสร็จเสียก่อน คำพิพากษาที่ให้จำเลยแพ้คดียังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าหากศาลได้เห็นพยานหลักฐานของจำเลยแล้วคงไม่มีคำพิพากษาเช่นนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าคำร้องดังกล่าวของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านตัดสินของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 แล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องมีข้อคัดค้านคำพิพากษาที่ชัดเจนตามมาตรา 208 วรรคสอง
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่อ้างเหตุว่า ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องจากทนายจำเลยต้องเดินทางไปงานศพของปู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำเลยไม่ได้ดัดแปลงต่อเติมอาคารที่เช่าและไม่ได้ให้ใครเช่าช่วง เพียงแต่ให้พี่สาวเป็นผู้ดูแลกิจการแทน จำเลยคืนหนังสือสัญญาเช่าแก่โจทก์เพราะถูกโจทก์หลอกลวงว่าจะต่อสัญญาเช่าให้ ส่วนค่าเช่าจำเลยชำระให้โจทก์ทุกเดือนนอกจากเดือนสุดท้ายโจทก์ไม่ยอมรับอ้างว่าให้ต่อสัญญาเสร็จเสียก่อนคำพิพากษาที่ให้จำเลยแพ้คดียังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าหากศาลได้เห็นพยานหลักฐานของจำเลยแล้วคงไม่มีคำพิพากษาเช่นนั้นดังนี้ ถือได้ว่าคำร้องดังกล่าวของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จำเลยต้องระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาของจำเลยที่กล่าวแต่เพียงว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังคลาดเคลื่อนทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนในข้อใด เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำแถลงการณ์ประกอบฎีกาที่จำเลยยื่นต่อศาลฎีกา มิใช่ส่วนหนึ่งของฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยไม่ได้ให้เหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยยื่นฎีกาไว้พร้อมคำร้องขออนุญาตยื่นฎีกาฉบับสมบูรณ์ภายหลังแต่ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาอีกตามฎีกาย่อกล่าวเพียงว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ดังนี้เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดแจ้ง - การไม่ให้เหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยยื่นฎีกาไว้พร้อมคำร้องขออนุญาตยื่นฎีกาฉบับสมบูรณ์ภายหลังแต่ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาอีกตามฎีกาย่อกล่าวเพียงว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ให้เหตุผลและข้ออ้างว่าทำไมจึงไม่ผิดเพื่อเป็นการคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ดังนี้เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5104/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ต้องระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษา มิใช่แค่อ้างเหตุขาดนัด
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าจำเลยไม่ทราบถึงการนัดสืบพยานโจทก์ของศาลเลยเนื่องจากจำเลยต้องออกไปทำธุรกิจนอกบ้านเป็นประจำ มาทราบว่าศาลมีคำพิพากษาเมื่อได้รับคำบังคับของศาลแล้วเท่านั้น ดังนี้ เป็นการกล่าวแต่เพียงเหตุที่ตนได้ขาดนัด ไม่มีข้อความตอนใดที่กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น จึงเป็นคำร้องขอที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิคัดค้านคำพิพากษาชั้นต้นด้วยการอุทธรณ์ขอให้ลดโทษ ย่อมไม่สามารถฎีกาว่าไม่ได้กระทำผิดได้อีก
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมิได้กระทำผิด แต่กลับอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลดโทษแก่จำเลยให้น้อยลง ปัญหาที่ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่จึงยุติไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำเลยจะกลับมาฎีกาว่าจำเลยมิได้กระทำผิดอีกหาได้ไม่ ตามใบแต่งทนายความ จำเลยมอบอำนาจให้ทนายความของจำเลยยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้ ทนายความของจำเลยย่อมมีสิทธิทำอุทธรณ์ยื่นแทนจำเลยได้ตามกฎหมาย หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์นั้น ก็ชอบที่จะยื่นเองได้ตามความประสงค์ภายในอายุอุทธรณ์ เมื่อจำเลยละเลยสิทธิของตนดังกล่าว จะมาปฏิเสธไม่ยอมรับรู้การกระทำของทนายความหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299-302/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยฎีกาคัดค้านเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
การที่จำเลยกล่าวในฎีกาว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นคลาดเคลื่อนต่อกฎหมายหลายประการ จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น และตอนท้ายฎีกาขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยาน และพิพากษาใหม่ ดังนี้ เป็นการคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่มีข้อความใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยฎีกาคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยกล่าวในฎีกาเพียงว่า 'จำเลยขอให้การกลับคำให้การในชั้นสอบสวน และในชั้นศาลทุกประการและทุกถ้อยกระทงความโดยจำเลยขอให้การว่ามิได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหาของพนักงานสอบสวนและคำฟ้องของโจทก์' โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยประสงค์จะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาแต่ประการใด ทั้งมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างไร ฎีกาเช่นนี้ไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรค 2 ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216
of 3