พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการคืนที่ดินให้เจ้าของเดิม
จำเลยเป็นบุตรและเป็นผู้จัดการดูแลเก็บผลประโยชน์จากอาคารตลาดซึ่งเป็นทรัพย์สินของเจ้ามรดก จึงอยู่ในฐานะเป็นทายาทผู้รับมรดกของเจ้ามรดกและเป็นผู้ได้เข้าไปจัดการมรดกด้วย จำเลยต้องรับทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดในกองมรดกของเจ้ามรดกนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1600 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทที่ให้เจ้ามรดกอาศัยปลูกสร้างอาคารตลาดประสงค์จะเอาที่พิพาทของตนคืน ได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตาม โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
กรณีดังกล่าวจะนำอายุความมรดก 1 ปีตามมาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่เพราะมิใช่เรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินที่ถูกจำกัดสิทธิ การโอนเป็นโมฆะ ผู้รับโอนต้องคืนที่ดิน
ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งห้ามโอนภายใน 10 ปีตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ นั้นการโอนต้องห้ามชัดแจ้ง จึงเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ผู้รับโอนครอบครองที่ดินต่างดอกเบี้ยไม่มีสิทธิรับโอนเป็นของตนต้องคืนที่ดินและรับเงินค่าที่ดินคืนจากเจ้าของเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1862/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนที่ดินและค่าดัดแปลง - จำเลยต้องชดใช้ราคาที่ดินเพิ่ม แม้โจทก์ไม่สุจริต
กรณีคืนที่ดินที่ครอบครองตามคำพิพากษาให้คืน จำเลยรับคืนตามสภาพที่เป็นอยู่ และไม่ปรากฏว่าพ้นวิสัยที่จะทำให้คืนสภาพเดิมได้จำเลยไม่โต้แย้งค่าที่โจทก์ดัดแปลงที่ดินให้ดีขึ้น ไม่ว่าโจทก์สุจริตหรือทุจริต จำเลยก็ต้องใช้ค่าที่ทำให้ที่ดินดีขึ้นนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การขายที่ดินโดยไม่แจ้งตามสัญญา ไม่ถึงขั้นต้องคืนที่ดิน
สัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 ทำไว้ต่อศาลมีว่า โจทก์ให้ที่พิพาทแก่จำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 จะนำไปขายโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบก่อนไม่ได้ ดังนี้ แม้ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 โดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ ก็ไม่มีข้อสัญญาว่าจะต้องคืนที่ดินให้โจทก์ตามเดิม โจทก์จึงฟ้องเรียกคืนที่พิพาทกลับมาเป็นของตนอันเป็นข้อนอกเหนือไปจากสัญญาประนีประนอมยอมความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองทางพิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการคืนที่ดินที่ใช้เป็นประกัน
กู้เงินทำหนังสือกู้กันเองตกลงให้ผู้ให้กู้ครอบครองที่นาไว้เป็นประกัน และทำต่างดอกเบี้ย การที่ผู้ให้กู้เอาที่นานั้นแจ้งการครอบครองแบบ ส.ค.1 ว่าเป็นของตนเสียนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
ผู้ให้กู้รับมอบนาพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นประกันหนี้และทำต่างดอกเบี้ยโดยตกลงกันเองมิได้ทำให้ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประกันด้วยทรัพย์ ย่อมไม่มีผลทำให้เกิดทรัพย์สิทธิเหนือนาพิพาทอันจะทำให้มีอำนาจยึดหน่วงนาพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 วรรคสอง ผู้ให้กู้ต้องคืนนาพิพาทให้ผู้กู้
ผู้กู้เป็นโจทก์ฟ้องผู้ให้กู้ขอให้รับชำระหนี้ 280 บาทและคืนที่นาที่มอบไว้เป็นประกันและทำต่างดอกเบี้ยตามสัญญาที่ทำกันเอง ผู้ให้กู้ให้การว่า หนี้มีจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ได้ฟ้องแย้งเข้ามา ศาลคงบังคับให้ผู้กู้ชำระหนี้เท่าที่กล่าวในฟ้อง ส่วนจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เป็นเรื่องที่ผู้ให้กู้จะต้องไปว่ากล่าวเอากับผู้กู้เพื่อให้ชำระจนสิ้นเชิงในฐานะเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 เป็นอีกเรื่องต่างหาก
ผู้ให้กู้รับมอบนาพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นประกันหนี้และทำต่างดอกเบี้ยโดยตกลงกันเองมิได้ทำให้ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประกันด้วยทรัพย์ ย่อมไม่มีผลทำให้เกิดทรัพย์สิทธิเหนือนาพิพาทอันจะทำให้มีอำนาจยึดหน่วงนาพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 วรรคสอง ผู้ให้กู้ต้องคืนนาพิพาทให้ผู้กู้
ผู้กู้เป็นโจทก์ฟ้องผู้ให้กู้ขอให้รับชำระหนี้ 280 บาทและคืนที่นาที่มอบไว้เป็นประกันและทำต่างดอกเบี้ยตามสัญญาที่ทำกันเอง ผู้ให้กู้ให้การว่า หนี้มีจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ได้ฟ้องแย้งเข้ามา ศาลคงบังคับให้ผู้กู้ชำระหนี้เท่าที่กล่าวในฟ้อง ส่วนจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เป็นเรื่องที่ผู้ให้กู้จะต้องไปว่ากล่าวเอากับผู้กู้เพื่อให้ชำระจนสิ้นเชิงในฐานะเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 เป็นอีกเรื่องต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าที่ดินเพิ่มขึ้นหลังคืนที่ดินตามคำพิพากษาเดิม ไม่ขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงเดิม ศาลรับวินิจฉัยได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาท ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไร ศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นหลังคืนที่ดินตามคำพิพากษาเดิม ศาลไม่ถือว่าฟ้องขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาทดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไรศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้เทศบาลสร้างตลาดโดยไม่มีเงื่อนไขผูกพันการคืนที่ดินภายหลัง
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้เทศบาลเพื่อเทศบาลจะได้จัดสร้างตลาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขว่าเทศบาลจะต้องทำเป็นตลาดนานเท่าใด และหากเมื่อใดเทศบาลไม่ใช้เป็นตลาดแล้ว จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ เช่นนี้แล้ว ต่อมาเทศบาลก็ได้สร้างตลาดตรงที่พิพาทสิ้นเงินไปถึง 40,000 บาท นับว่าเทศบาลได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขที่โจทก์ประสงค์แล้ว แม้ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนายกเทศมนตรีใหม่ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลาดนี้เป็นโรงมหรสพไป โจทก์ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างเพื่อขอคืนที่ดินนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างสิทธิทำต่างดอกเบี้ยโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจใช้โต้แย้งการเรียกคืนที่ดินได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่นา ขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง จำเลยต่อสู้โดยมิได้กล่าวอ้างถึงสิทธิทางทะเบียน คงอ้างสิทธิโดยข้อสัญญาประการเดียวว่าโจทก์กู้เงินจำเลยไป 5,000 บาท และยอมให้นาพิพาททำต่างดอกเบี้ย
แม้จะฟังว่าข้อสัญญา(กู้)นี้มีอยู่จริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจะยืนยันให้ศาลบังคับคดีให้แก่จำเลยตามกฎหมายอันเกี่ยวด้วยเรื่องเอกเทศสัญญาใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น ดังนี้ จึงไม่มีเหตุพิเศษอันใดตามกฎหมายที่จำเลยจะโต้แย้งไม่ยอมคืนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์
แม้จะฟังว่าข้อสัญญา(กู้)นี้มีอยู่จริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจะยืนยันให้ศาลบังคับคดีให้แก่จำเลยตามกฎหมายอันเกี่ยวด้วยเรื่องเอกเทศสัญญาใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น ดังนี้ จึงไม่มีเหตุพิเศษอันใดตามกฎหมายที่จำเลยจะโต้แย้งไม่ยอมคืนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการคืนที่ดินตามคำฟ้อง: การคืนทั้งแปลงเมื่อเขตที่ดินตรงกัน แม้ระบุเนื้อที่ประมาณ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยส่งที่พิพาทคืน ในฟ้องกล่าวว่าที่พิพาทเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ 3 งาน เมื่อคู่ความต่างได้รับรองต้องกันว่าที่พิพาทกันนี้ทั้งแปลงและเขตติดต่อทั้ง 4 ด้านก็ตรงกัน การที่โจทก์ระบุจำนวนเนื้อที่ของที่พิพาทก็เป็นแต่เพียงประมาณเมื่อจำเลยแพ้คดี จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ก็ต้องคืนทั้งแปลง ซึ่งมีเนื้อที่ 9 ไร่ 1 งาน ไม่เป็นการเกินคำขอของโจทก์