คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฆ่าคนตาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 177 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายด้วยอาวุธมีคม โดยมีเจตนาฆ่า ถือเป็นความผิดฐานฆ่าคนตาย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันในเวลากลางคืนหน้าปั๊มน้ำมันซึ่งมีแสงไฟส่องสว่าง ผู้ตายไม่มีอาวุธ แล้วจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่สำคัญที่ทรวงอกทะลุปอด 2 แผล และที่หน้าท้อง 1 แผล ทะลุเข้าช่องท้องถูกกระเพาะอาหารและถูกตับอ่อนเส้นเลือดขาด ผู้ตายถึงแก่ความตายใน 3 ชั่วโมงต่อมา เช่นนี้จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชอบด้วยกฎหมายของฟ้องอาญาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือประมาท และการรับสารภาพความผิดฐานประมาท
ฟ้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือมิฉะนั้นก็กระทำผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทโดยชัดแจ้ง แสดงว่าฟ้องมีความประสงค์จะให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือมิฉะนั้นก็ขอให้ลงโทษฐานทำให้คนตายโดยประมาท ประกอบกับฟ้องได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงที่อ้างว่าจำเลยกระทำเป็นท้องเรื่องมาครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคลือบคลุม ไม่ขัดแย้งกัน หรือเอาเปรียบจำเลย จำเลยเข้าใจฟ้องได้ดี เมื่อจำเลยรับสารภาพฐานทำให้คนตายโดยประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 1780/2497 และฎีกาที่ 86/2503) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในเหตุวิวาททำร้ายร่างกาย และเจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย
เมื่อจำเลยกับฝ่ายผู้ตายต่างวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันจำเลยไม่อาจอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตัว
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายขณะชุลมุนกันและในเวลาค่ำมืดซึ่งฝ่ายผู้ตายมีมีดและเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าจำเลยแม้จำเลยจะแทงผู้ตายหลายที แต่ก็ไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะชุลมุนและค่ำมืด ทั้งยังต้องสู้กับพวกผู้ตายอีก เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าไม่ได้ จำเลยคงผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนา
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวมาในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา: การแทงในขณะตระหนกตกใจและขาดเจตนาฆ่า
ตามพฤติการณ์ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยเห็นผู้ตายเป็นผีตาโต แต่น่าเชื่อว่าจำเลยแทงผู้ตายในเวลาที่จำเลยตระหนกตกใจ จำเลยไม่ได้จงใจแทงให้ถูกที่สำคัญ จำเลยแทงเพียงทีเดียว จำเลยกับผู้ตายต่างรักใคร่กันดี จึงเชื่อได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา: พิจารณาจากเหตุการณ์ตระหนก ความรักใคร่ และการแทงเพียงครั้งเดียว
ตามพฤติการณ์ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยเห็นผู้ตายเป็นผีตาโตแต่น่าเชื่อว่าจำเลยแทงผู้ตายในเวลาที่จำเลยตระหนกตกใจจำเลยไม่ได้จงใจแทงให้ถูกที่สำคัญ จำเลยแทงเพียงทีเดียว จำเลยกับผู้ตายต่างรักใคร่กันดี จึงเชื่อได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานชุลมุนต่อสู้และการฆ่าคนตาย ศาลวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ขัดแย้งกัน
ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 - 2 ฝ่ายหนึ่ง กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่ง ร่วมชุลมุนต่อสู้ทำร้ายกันและกัน ในการต่อสู้กันนี้ จำเลยที่ 1 ใช้มีดฟันผู้ตายถูกที่บริเวณศีรษะโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย (ุ้ตายถึงแก่ความตายด้วยบาดแผลนั้น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 288,294 ไม่เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกัน
ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 294 ถ้าปรากฏว่าในพวกที่ชุลมุนกันนั้น บุคคลใดเป็นผู้กระทำให้ตาย อาจมีความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่งต่างหาก เพราะมาตรา 294 ไม่ลบล้างความผิดฐานฆ่าคนตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมชุลมุนต่อสู้และการฆ่าคนตาย: ฟ้องไม่ขัดแย้งหากระบุการกระทำของแต่ละจำเลย
ฟ้องว่า จำเลยที่ 1-2 ฝ่ายหนึ่ง กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งร่วมชุลมุนต่อสู้ทำร้ายกันและกันในการต่อสู้กันนี้ จำเลยที่ 1 ใช้มีดฟันผู้ตายถูกที่บริเวณศีรษะโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยบาดแผลนั้นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,294ไม่เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกัน
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 ผู้ที่ชุลมุนต่อสู้กันนั้นต้องมีความผิดทุกคนเว้นแต่แสดงได้ว่าได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้ หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 ถ้าปรากฏว่าในพวกที่ชุลมุนกันนั้นบุคคลใดเป็นผู้กระทำให้ตาย อาจมีความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่งต่างหากเพราะมาตรา 294 ไม่ลบล้างความผิดฐานฆ่าคนตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: ลดโทษอาญาฐานฆ่าคนตาย
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่าได้เตะพ่อจำเลยแล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า "กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน" นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ๆ ค่านายเที่ยวและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใด ผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยงจำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลย จำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้วิวาทและการป้องกันตัวที่ไม่สมเหตุสมผล การแทงจนถึงแก่ความตายเข้าข่ายฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยและผู้ตายต่างสมัครใจต่อสู้วิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยจะอ้างว่าถูกผู้ตายเตะและต่อยกับบีบคออย่างแรง จำเลยจึงใช้มีดแทงเพื่อเป็นการป้องกันตัวนั้นหาได้ไม่
ขณะที่จำเลยและผู้ตายกอดปล้ำต่อสู้กันนั้นเป็นเวลามืดค่ำมองไม่เห็นกัน จำเลยดึงมีดพกซึ่งเหน็บที่เอวแทงไปข้างหน้า 2 ที แทงไปโดยไม่รู้ว่าถูกตรงไหน จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่ได้ตั้งใจแทงในที่สำคัญแต่ผลไปปรากฏว่าผู้ตายถูกแทงที่ใต้รักแร้ขวาและชายโครงซ้าย โลหิตตกในถึงแก่ความตาย เช่นนี้ เชื่อได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าเพียงแต่มุ่งทำร้าย แต่ทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้และเจตนาฆ่า: การพิเคราะห์การป้องกันตัวและการใช้กำลังเกินเหตุในคดีฆ่าคนตาย
ก. การที่จำเลยโดดลงจากเรือพูดว่าแน่รึ แล้วต่างก็เข้าต่อสู้กับผู้ตาย ภายหลังที่ผู้ตายร้องท้าจำเลยนั้นเป็นการสมัครใจเข้าต่อสู้ มิใช่เป็นการป้องกันตัว
ข. การที่จำเลยใช้มีดดาบยาว 1 แขนกระโดดลงจากเรือนไปต่อสู้กับผู้ตายและฟันผู้ตายถึง 3 แห่ง แผลที่สำคัญถูกที่คอเกือบขาดนั้นแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา มาตรา 288 ประมวลกฎหมายอาญา
(ข้อ ข.ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2505)
of 18