คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
งดบังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 131 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลเกี่ยวกับการงดบังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคสาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง ถือเป็นที่สุด ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293(ที่ยังไม่แก้ไข) ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ก่อนจำเลยยื่นฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 โดยให้ตัดข้อความบางส่วนของวรรคสอง และเพิ่มวรรคสามของมาตรา 293 ว่า"คำสั่งของศาลตามมาตรานี้ให้เป็นที่สุด" ซึ่งมีผลใช้บังคับทันทีนับแต่วันที่ 4พฤษภาคม 2542 ตามบทบัญญัติมาตรา 293 วรรคสาม ที่ว่า "คำสั่งของศาลตามมาตรานี้ให้เป็นที่สุด" นั้น หมายความว่าคำสั่งของศาลตามมาตราดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการอนุญาตให้งดการบังคับคดีหรือยกคำร้อง คำสั่งดังกล่าวย่อมเป็นที่สุด จะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปไม่ได้ทั้งนี้ก็เพื่อให้กระบวนการบังคับคดีสามารถดำเนินการไปด้วยความรวดเร็ว เมื่อจำเลยยื่นฎีกาภายหลังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคสาม มีผลใช้บังคับแล้ว คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงถึงที่สุดตามมาตราดังกล่าว ประกอบด้วยมาตรา 246 ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามมาตรา 293 วรรคสาม ประกอบมาตรา 223 และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9321/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการของดบังคับคดี: ต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงตามกฎหมาย
ผู้ที่มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้ จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม ป.วิ.พ.มาตรา 280
ตามคำร้องของผู้ร้องกล่าวอ้างสิทธิของผู้ร้องในการขอให้งดการบังคับคดีเพียงว่า ผู้ร้องกำลังมีข้อพิพาทกับโจทก์และจำเลยคดีนี้ ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว ผู้ร้องเป็นเพียงคู่ความที่ฟ้องร้องกันอยู่กับโจทก์และจำเลยในคดีนี้เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ดังนั้น ขณะผู้ร้องยื่นคำร้อง ผู้ร้องจึงมิใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9321/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอ งดบังคับคดี ต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่คู่ความในคดีอื่น
ผู้ที่มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้ จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280
ขณะผู้ร้องยื่นคำร้อง ผู้ร้องเป็นเพียงคู่ความที่ฟ้องร้องกันอยู่กับโจทก์และจำเลยในคดีนี้เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ผู้ร้องจึงมิใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9320/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีต้องมีเหตุตามกฎหมาย แม้กรรมการผู้มีอำนาจเป็นคนละนิติบุคคลก็ไม่ถือเป็นคู่ความเดียวกัน
คดีที่จำเลยหยิบยกมาเป็นเหตุในคำร้องให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 293 วรรคหนึ่ง โจทก์คือบริษัท ท. จำเลยคือบริษัท อ.ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย แม้โจทก์คดีนี้จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท อ.และจำเลยจะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ท.ก็ตาม จะถือว่าคู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันกับคู่ความในคดีดังกล่าวหาได้ไม่ เพราะเป็นบุคคลต่างรายกัน ชอบที่ศาลจะยกคำร้องของจำเลยโดยเหตุดังกล่าวเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9320/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคหนึ่ง ต้องมีคู่ความรายเดียวกันในคดีที่อ้างถึง
คดีที่จำเลยหยิบยกมาเป็นเหตุในคำร้องให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคหนึ่ง โจทก์คือบริษัท ท. จำเลยคือบริษัท อ. ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย แม้โจทก์คดีนี้จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท อ. และจำเลยจะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ท. ก็ตาม จะถือว่าคู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันกับคู่ความในคดีดังกล่าวหาได้ไม่ เพราะเป็นบุคคลต่างรายกันชอบที่ศาลจะยกคำร้องของจำเลยโดยเหตุดังกล่าวเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีต้องมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินก่อน หากยังไม่มีการบังคับคดี การขอให้งดบังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคหนึ่ง ไม่อาจทำได้
การที่จำเลยขอ งด การบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ได้นั้นจะต้องมีการบังคับคดีโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามคำพิพากษาอยู่ก่อนแล้วในขณะที่ขอให้งดการบังคับคดี แต่เมื่อ ปรากฏว่าจำเลยได้ขอให้ศาลแรงงานกลางงดการบังคับคดีโดยที่ยังมิได้มีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยแต่อย่างใด ต้องถือว่าคดีนี้ยังไม่มีการบังคับคดี จำเลยจะขอให้งดการ บังคับคดีตามมาตรา 293 วรรคหนึ่ง หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2175/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีต้องมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินก่อน หากยังไม่มีการบังคับคดี การขอ งดบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ย่อมทำไม่ได้
การขอให้งดการบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 จะต้องมีการ บังคับคดีโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตาม คำพิพากษาอยู่ก่อนแล้วในขณะที่ขอให้งดการบังคับคดี เมื่อคดีแรงงานเรื่องนี้ยังไม่มีการบังคับคดี จำเลยจะขอ ให้งดการบังคับคดีตามบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3288/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความฝ่ายแพ้ ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา การงดบังคับคดีไม่ชอบ
ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทพร้อมกับให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว ย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายแพ้คดีให้ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาคือออกจากบ้านและที่ดินพิพาทเมื่อจำเลยขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายชนะคดีก็ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ จำเลยจะอาศัยเหตุที่จำเลยฟ้องโจทก์ขอแสดงสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินราชพัสดุมิใช่ที่ดินของโจทก์เป็นคดีขึ้นมาใหม่เพื่อขอให้งดการบังคับคดีนี้ไว้ก่อนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7496/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษา: ศาลมีอำนาจยกเลิกคำสั่งงดบังคับคดีได้หากจำเลยยังไม่ปฏิบัติตาม
เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดบังคับให้จำเลยเปิดถนนพิพาทโดยให้จำเลยนำแผงเหล็กที่ปิดกั้นออกและขนย้ายวัสดุก่อสร้างบนถนนพิพาทออกไปให้จำเลยใช้ค่าทดแทนไปจนกว่าจะเปิดถนนพิพาทและขนย้ายวัสดุก่อสร้างเสร็จจำเลยเพียงแต่ขนย้ายวัสดุก่อสร้างออก เป็นการปฏิบัติส่วนหนึ่งตามคำพิพากษาเท่านั้น แต่จำเลยไม่รื้อรั้วกำแพงที่ปิดกั้นถนนพิพาทออก จึงมีผลเท่ากับจำเลยยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาในส่วนที่ให้เปิดถนนพิพาท และการที่จำเลยที่ 3 สร้างรั้วกำแพงขึ้นใหม่ในถนนพิพาท เป็นการจงใจก่อเหตุให้โจทก์ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากถนนพิพาทได้โดยปกติสุข ที่ศาลชั้นต้นให้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการรื้อกำแพงดังกล่าวจึงชอบแล้ว
จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยได้นำเงินวางศาลชำระค่าเสียหายและขนย้ายแผงเหล็กกับวัสดุก่อสร้างออกไปแล้ว ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้งดการบังคับคดีแล้ว แต่เมื่อศาลชั้นต้นเป็นศาลที่ออกหมายบังคับคดีจึงย่อมมีอำนาจทำคำวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องเกี่ยวกับการบังคับคดีได้ ตลอดจนมีอำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่เคยอนุญาตให้งดการบังคับคดีด้วย การที่ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสามยังปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ครบถ้วน จึงออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการรื้อกำแพงพิพาทตามคำขอของโจทก์ มีผลเท่ากับศาลชั้นต้นได้ยกเลิกคำสั่งที่อนุญาตให้งดการบังคับคดีไปโดยปริยายอยู่แล้ว โดยหาจำต้องให้โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เพิกถอนคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3669/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ งดบังคับคดี-วางเงิน: ศาลฎีกามีอำนาจจำหน่ายคดีเมื่อการบังคับคดีสิ้นสุด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีและขอวางเงินโดยมีเงื่อนไข ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของผู้ร้อง เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ถอนการยึดที่ดินทั้งสองแปลงที่ผู้ร้องขอให้งดการบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ถอนการยึดแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องที่ว่าผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องดังกล่าวหรือไม่ ศาลฎีกามีอำนาจจำหน่ายคดี
of 14