คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำหน่ายยาเสพติด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 35 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6423/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย กรณีโต้เถียงข้อเท็จจริงและดุลพินิจศาลชั้นต้นเกี่ยวกับความผิดฐานครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง , 66 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดสองกรรมให้เรียงกระทงลงโทษ ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 5 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี อันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ตาม ป.อ. มาตรา 78 แล้วให้จำคุกจำเลยรวม 7 ปี 6 เดือน ตามบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นปรับบทมา เป็นการแก้เฉพาะกำหนดโทษให้เบาลง มิได้แก้บทความผิด ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ฟังข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้วว่า จำเลยได้ยึดถือครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นของตนแล้วจึงวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายต่อไปว่า ไม่ว่าจำเลยจะครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางนานเพียงใดหรือรับเมทแอมเฟตามีนเป็นของกลางมาแล้วจำหน่ายไปบางส่วนดังกล่าวทันที การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดสองกรรม การที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเพียงกรรมเดียว ศาลอุทธรณ์ภาค 6 วินิจฉัยความหมายคำว่าครอบครองคลาดเคลื่อน เพราะการครอบครองจะต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาอยู่ในครอบครองระยะหนึ่งก่อน จำเลยเพียงแต่มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้แล้วจำหน่ายไปจำนวน 1 เม็ด ทันที โดยจำเลยถือว่าจำเลยมิได้มีเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไว้ในครอบครอง จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง ส่วนที่จำเลยจำหน่ายให้แก่สายลับไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมา เพื่อที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความหมายของคำว่า "ครอบครอง" ตามฎีกาของจำเลย ถือว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5376/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: การจัดหายาเสพติดให้โทษตามคำสั่ง ถือเป็นการจำหน่าย แม้ไม่ใช่เจ้าของยา
คำว่า "จำหน่าย" ตามความหมายในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 หมายความว่า ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้ การที่จำเลยเป็นผู้จัดหายาเสพติดให้โทษมาให้แก่ ช. โดย ช. ต้องมอบเงินให้แก่จำเลยส่วนจำเลยจะไปหายาเสพติดให้โทษมาจากที่ใด อย่างไร หาได้เกี่ยวข้องกับ ช.ไม่ ช. เป็นเพียงผู้ต้องการยาเสพติดให้โทษ เมื่อมอบเงินให้จำเลยไปจำเลยก็จัดหายาเสพติดให้โทษมามอบให้ตามที่ ช. ต้องการ จึงต้องถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะ ผู้จำหน่ายโดยไม่ต้องคำนึงว่ายาเสพติดให้โทษดังกล่าวจะเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายยาเสพติด: ผู้ส่งมอบอาหารที่มีเฮโรอีนซุกซ่อนให้ผู้ต้องขัง มีความผิดฐานจำหน่าย
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าชิ้นเนื้อในอาหารที่จำเลยนำมาให้ ฟ. มีเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ การที่จำเลยส่งมอบอาหารซึ่งเป็นชิ้นเนื้อที่มีเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เพื่อส่งมอบให้แก่ ฟ. ต่อไป เข้าลักษณะเป็นการจำหน่ายตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติด จำเลยต้องรู้ว่าสิ่งที่ส่งมอบเป็นยาเสพติด พยานหลักฐานต้องชัดเจน
จำเลยเป็นเพียงผู้รับฝากเฮโรอีนจาก ล. นำไปให้ ส. และ อ. การที่จะลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายเฮโรอีนได้ก็ต่อเมื่อรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าห่อของที่นำไปให้ ส. และ อ. เป็นเฮโรอีนเท่านั้น แต่เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุม จำเลยยืนเฉย ๆ ไม่ได้วิ่งหนีไปไหน ทั้งปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง จึงเห็นได้ว่า หากจำเลยรู้ว่าห่อของที่จำเลยรับฝากเป็นเฮโรอีนแล้ว โดยสัญชาตญาณจำเลยคงวิ่งหนีไปไม่ยอมให้จับกุมการที่จำเลยมิได้หลบหนีจึงอาจเป็นไปได้ว่าจำเลยไม่รู้ว่าห่อของที่นำมาให้ ส. และ อ. เป็นเฮโรอีน ประกอบกับโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้เกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมจำหน่ายเฮโรอีนกับ ล. ด้วยหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9012/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: การส่งมอบยาให้ตำรวจถือเป็นความผิดฐานจำหน่าย แม้ยังไม่ได้รับเงิน
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 นิยามคำว่า "จำหน่าย" หมายความถึง ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้ การที่จำเลยส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้เจ้าพนักงานตำรวจตรวจดูโดยไม่รู้ว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ แม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะยังมิได้ส่งมอบเงินค่าเมทแอมเฟตามีนให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนแล้ว มิใช่เป็นเพียงความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้โจทก์มิได้ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง แต่ไม่อาจแก้โทษที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9012/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด แม้ยังไม่ได้รับเงิน ก็เป็นความผิดฐานจำหน่ายได้ หากมีเจตนาจำหน่าย
นิยามคำว่า "จำหน่าย" หมายความถึง ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้การที่จำเลยส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้เจ้าพนักงานตำรวจตรวจดูโดยไม่รู้ว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะยังมิได้ส่งมอบค่าเมทแอมเฟตามีนให้แก่จำเลย แล้วจำเลยก็ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับการกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนแล้ว เพราะจำเลยมีเจตนาจะจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว จึงมิใช่เป็นเพียงความผิดฐานพยายามจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5433/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อหาและพิสูจน์ความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติด การเติมคำในเอกสารประกอบการสอบสวนไม่ทำให้การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การแจ้งข้อหาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134นั้น แม้พนักงานสอบสวนจะมิได้แจ้งข้อหาจำเลยทุกข้อหาทุกกระทงความผิดก็ตามแต่เมื่อภายหลังได้ดำเนินการสอบสวนแล้วปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานอื่นด้วย จึงถือได้ว่าได้มีการสอบสวนในข้อหาฐานอื่นที่มิได้แจ้งข้อหาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120 แล้ว ดังนั้นการเติมคำว่า "จำหน่าย" ในบัญชีของกลางในคดีอาญา คำให้การในชั้นสอบสวนและบันทึกการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ จึงหาทำให้การสอบสวนเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำผิดฐานจำหน่ายยาเสพติด จำเลยที่ 1 มีบทบาทแค่ขับรถส่ง ไม่มีส่วนรู้เห็นการขาย
นายดาบตำรวจ จ. เบิกความว่า พยานปลอมตัวไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยที่ 2 ตามที่สายลับนัดหมายไว้ เมื่อถึงเวลานัดจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์มากับจำเลยที่ 2 จากนั้นจำเลยที่ 2 ลงจากรถเข้ามานั่งเจรจา ซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับพยานในรถยนต์ของพยาน หลังจากที่จำเลยที่ 2 ส่งมอบเมทแอมเฟตามีนและรับเงิน จากพยานแล้วได้กลับไปขึ้นรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ จอดรออยู่แล้ว จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์พาจำเลยที่ 2 ออกไป ซึ่งหลังจากที่จับกุมจำเลยทั้งสองได้แล้วได้ตรวจค้น พบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นในของ จำเลยที่ 2 อีกทั้งจำเลยที่ 1 ก็ให้การปฏิเสธตลอดมาว่า มาส่งจำเลยที่ 2 เท่านั้น พยานหลักฐานของโจทก์ มีเพียงเท่านี้ ยังไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9134/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกระทำความผิดจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้ครอบครองยาเสพติดเอง
จำเลยทั้งสองทำงานที่บริษัทเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 1ทราบว่าสายลับมาขอซื้อเมทแอมเฟตามีน จำเลยที่ 1 ได้เรียกจำเลยที่ 2 มาขายให้แก่สายลับ และร่วมกับจำเลยที่ 2 ในการ เจรจาราคาจากเม็ดละ 20 บาท เป็นเม็ดละ 25 บาท เมื่อสายลับ ตกลงซื้อจำเลยที่ 1 ก็รับเงิน 1,000 บาท จากสายลับแล้วมอบ ให้แก่จำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้เป็นผู้ครอบครอง เมทแอมเฟตามีน ที่ขายให้แก่สายลับก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ได้รู้เห็นและมีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 2 ในการขายเมทแอมเฟตามีน ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นไม่ใช่เป็นเพียงแนะนำให้สายลับ ทราบว่ามีขายเท่านั้น จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 กระทำ ความผิดเข้าลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 1 จึงมี ความผิดฐานเป็นตัวการในความผิดดังกล่าวตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8456/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดต้องสำเร็จการซื้อขาย หากยังไม่ส่งมอบ ถือเป็นความผิดพยายามจำหน่าย
เจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับไปล่อซื้อเฮโรอีนเมื่อสายลับเข้าเจรจากับจำเลยเพื่อขอซื้อเฮโรอีนจำเลยรับเงินไว้ และไปนำเฮโรอีนจำนวน 2 หลอดจากที่ซ่อนเพื่อนำมาส่งมอบให้สายลับ จำเลยอยู่บริเวณสวนมะพร้าวห่างจากจุดที่สายลับรออยู่ประมาณ10 เมตร และจำเลยยังไม่ได้ส่งมอบเฮโรอีนให้แก่สายลับก็ถูกจับ การซื้อขายระหว่างจำเลยกับสายลับจึงไม่สำเร็จบริบูรณ์ จึงยังไม่เป็นความผิดฐานจำหน่าย เฮโรอีนสำเร็จ คงมีความผิดเพียงพยายามจำหน่ายเฮโรอีนเท่านั้น
of 4