พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดค่าปรับนายประกันที่จำเลยหลบหนีและถูกติดตามจับกุมได้ ความผิดฐานยักยอก
นายประกันนำส่งตัวจำเลยตามที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ศาลชั้นต้นสั่งปรับ 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปรับ 40,000 บาท นายประกันฎีกาต่อมา ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดของจำเลยฐานยักยอกเป็นความผิดเล็กน้อย ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ นายประกันก็ได้พยายามติดตามจำเลยแต่ไม่พบ หลังจากอ่านคำพิพากษาและสั่งปรับกับออกหมายจับแล้วก็จับไม่ได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายในการติดตามเป็นจำนวนไม่น้อย ดังนี้ รูปคดีมีเหตุที่จะลดหย่อนค่าปรับให้แก่นายประกันลงอีก จึงให้ปรับ 30,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีจากเรือนจำ – ไม่มีตัวจำเลยในขณะยื่นฟ้อง
พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่นของศาลนั้น แต่ได้หลบหนีไปจากเรือนจำเสียแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในขณะที่ยื่นฟ้อง และจำเลยมิได้ถูกศาลสั่งขังไว้ในคดีนี้ ทั้งข้อเท็จจริงก็ต่างกับคดีตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1735/2514 ศาลย่อมไม่รับประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีจากเรือนจำ: ไม่มีตัวจำเลยในขณะฟ้องคดี
พนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาโดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่นของศาลนั้นแต่ได้หลบหนีไปจากเรือนจำเสียแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อโจทก์ไม่มีตัวจำเลยอยู่ในขณะที่ยื่นฟ้องและจำเลยมิได้ถูกศาลสั่งขังไว้ในคดีนี้ทั้งข้อเท็จจริงก็ต่างกับคดีตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1735/2514 ศาลย่อมไม่รับประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนี: ศาลรับฟ้องได้หากจำเลยเคยถูกควบคุมตัวโดยอำนาจศาล
คดีอาญา พนักงานอัยการจะต้องส่งตัวจำเลยมาพร้อมกับฟ้องเสมอ เว้นแต่จำเลยจะเป็นผู้อยู่ในอำนาจของศาลแล้ว
ศาลชั้นต้นได้รับฝากขังตัวผู้ต้องหาไว้จากพนักงานสอบสวนและออกหมายขังไว้แล้วผู้ต้องหาหลบหนีไปก่อนโจทก์ยื่นฟ้อง กรณีเช่นนี้นับได้ว่าตัวจำเลยอยู่ในอำนาจศาลในคดีนี้แล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับฟ้องและดำเนินการต่อไป
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2514)
ศาลชั้นต้นได้รับฝากขังตัวผู้ต้องหาไว้จากพนักงานสอบสวนและออกหมายขังไว้แล้วผู้ต้องหาหลบหนีไปก่อนโจทก์ยื่นฟ้อง กรณีเช่นนี้นับได้ว่าตัวจำเลยอยู่ในอำนาจศาลในคดีนี้แล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับฟ้องและดำเนินการต่อไป
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาจำเลยที่อยู่ระหว่างกักขัง - การส่งตัวจำเลย
จำเลยต้องกักขังตามอำนาจศาลอยู่ในคดีหนึ่งแล้วหลบหนีไปต่อมาอัยการจะมาฟ้องจำเลยผู้นั้นในอีกคดีหนึ่ง โดยไม่มีตัวจำเลยมาส่งศาลพร้อมฟ้องนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนี และทนายยื่นฎีกาแทน การมีอำนาจพิจารณาของศาลฎีกา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อน ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้ว ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาโดยจำเลยหลบหนี: ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ แม้จำเลยไม่ได้รับทราบคำพิพากษา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้วทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฎว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้ และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ป.วิ.อาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนีและไม่สามารถนำตัวมาพิจารณาได้
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฏว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 799/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีอาญาเนื่องจากจำเลยหลบหนี ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคดีในชั้นฎีกาได้
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน แต่ไม่ได้ตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงออกหมายจับ เมื่อไม่ได้ตัวมาหลัง 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาไป ทนายจำเลยได้ใช้สิทธิฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบ เพราะถือว่าจำเลยไม่มีตัวอยู่ขณะจะพิจารณาคดีในชั้นฎีกา กรณีไม่เข้า วิ.อาญา มาตรา 201 ซึ่งมีแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม วิ.อาญา พ.ศ. 2499 (ฎีกาที่ 223/2500) เพราะไม่ใช่เป็นกรณีที่ส่งสำเนาฟ้องให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้.