พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลขยายเวลาให้ยื่นคำให้การในกรณีฉุกเฉิน และการพิสูจน์การครอบครองที่ดินโดยอาศัย
เมื่อกรณีมีเหตุสุดวิสัยและฉุกเฉินจำเลยไม่อาจจะไปยื่นคำให้การต่อศาลที่รับประทับฟ้องไว้ทันตามกำหนดและจำเลยได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนา อยู่เพื่อขออนุญาตขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การ ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นั้นมีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้ขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การได้
โจทก์ฟ้องอ้างการครองครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้น จำเลยมีหน้าที่สืบก่อน คำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องอ้างการครองครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้น จำเลยมีหน้าที่สืบก่อน คำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน การต่อสู้แย่งปืนไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืนๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้วผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืนยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิตจากผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำเลยหนีขึ้นเรือนผู้อื่นเสียทัน ครั้นต่อมาลงจากเรือนผู้นั้นจะกลับบ้านผู้ตายยังมาดักทำร้ายอีก จำเลยหนี ผู้ตายถือมีดวิ่งไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทางทั้งหยิบมาป้องกันตัวประจบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า
ผู้ตายใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำเลยหนีขึ้นเรือนผู้อื่นเสียทัน ครั้นต่อมาลงจากเรือนผู้นั้นจะกลับบ้านผู้ตายยังมาดักทำร้ายอีกจำเลยหนี ผู้ตายถือมีดวิ่งไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทาง ทั้งหยิบมาป้องกันตัว ประจวบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำเลยหนีขึ้นเรือนผู้อื่นเสียทัน ครั้นต่อมาลงจากเรือนผู้นั้นจะกลับบ้านผู้ตายยังมาดักทำร้ายอีกจำเลยหนี ผู้ตายถือมีดวิ่งไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทาง ทั้งหยิบมาป้องกันตัว ประจวบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในภาวะฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธอื่น
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืน ผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตายดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษ ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวฉุกเฉิน: การใช้มีดต่อสู้การทำร้ายด้วยอาวุธ ศาลยกเว้นโทษ
จำเลยกับผู้ตายเดินมาด้วยกัน พอมาระหว่างทางเวลากลางคืนผู้ตายเอาไม้ตะพดตีจำเลยก่อน แล้วยังตีจำเลยอีก 2-3 ที จำเลยจึงเอามีดปลายแหลมแทงชุ่ยไป 2-3 ทีบ้างถูกผู้ตาย ดังนี้ ถือว่าเป็นการต่อต้านในเวลาฉุกละหุกฉุกเฉิน เป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเคลื่อนย้ายฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต: ข้อยกเว้นเฉพาะกรณีฉุกเฉินร้ายแรง
ผู้รับอนุญาตตั้งร้านจำหน่ายฝิ่นเอาฝิ่นออกจากร้านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานมีผิด เว้นแต่มีภัยฉุกเฉินร้ายแรงจึงจะแก้ตัวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10060/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจค้นและจับกุมคดียาเสพติดโดยไม่มีหมายค้น: เหตุฉุกเฉินและความผิดซึ่งหน้า
ก่อนเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจสืบทราบว่าจำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนในท้องที่ โดยจำเลยที่ 1 ใช้รถยนต์ยี่ห้อนิสสันสีขาวของสถานีอนามัยมีตราของกระทรวงสาธารณสุขเป็นยานพาหนะประจำ ในคืนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 3 ถึง 4 นาฬิกา มีผู้แจ้งเบาะแสโดยส่งข้อความไปที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ของดาบตำรวจ ส. รวม 6 ครั้ง 6 ข้อความ ว่ามีคนส่งยาบ้าที่พีพีรีสอร์ต ห้องที่ 14 ให้รีบไปเร็ว ๆ ก่อนเขาหนี เป็นรายใหญ่ ถ้าไม่ไปฉันจะไม่ส่งข่าวอีก เมื่อดาบตำรวจ ส. ไปที่รีสอร์ตพบรถดังกล่าวจอดอยู่ที่ห้องที่ 15 จำได้ว่าเป็นรถที่จำเลยที่ 1 ใช้อยู่ สอบถามพนักงานรีสอร์ตแจ้งว่าเจ้าของรถมากับผู้หญิงพักอยู่ห้องที่ 14 ดาบตำรวจ ส. จึงเชื่อในเบาะแสที่แจ้งมา ดาบตำรวจ ส. กับพวกให้พนักงานรีสอร์ตเคาะประตูห้องที่ 14 ว่าขอเช็กมิเตอร์ ปรากฏว่าคนในห้องเปิดประตูออกมา ขณะนั้นไฟในห้องยังเปิดอยู่ เมื่อดาบตำรวจ ส. แจ้งว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ คนในห้องดันประตูกลับคืนและปิดไฟ เป็นพฤติการณ์น่าเชื่อว่ามีสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดตามที่ได้รับแจ้ง ทั้งที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ตซึ่งจำเลยทั้งสองไปพักชั่วคราว จำเลยทั้งสองจะออกไปจากรีสอร์ตเมื่อใดก็ได้ หากเนิ่นช้าไปกว่าจะเอาหมายค้นมาทำการตรวจค้นในวันรุ่งขึ้น จำเลยทั้งสองจะออกจากห้องพักเสียก่อนพร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลาง เป็นเหตุให้พยานหลักฐานสำคัญสูญหาย ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่งทำให้เจ้าพนักงานเข้าไปค้นในห้องพักโดยไม่จำต้องมีหมายค้นตาม ป.วิ.อ. มาตรา 92 (4) และ มาตรา 96 (2) และเมื่อเจ้าพนักงานพบอุปกรณ์การเสพและเมทแอมเฟตามีน 11 เม็ดในห้องพักดังกล่าว กับพบเมทแอมเฟตามีน 600 เม็ด ในรถยนต์ จึงเป็นความผิดซึ่งหน้าซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับจำเลยทั้งสองได้โดยไม่ต้องมีหมายจับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 78 (1), 80 หลังจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจได้ทำรายงานการตรวจค้นและผลการตรวจค้นไว้ในบันทึกการจับกุมเสนอผู้บังคับบัญชา ดังนั้น การตรวจค้นและจับกุมในกรณีนี้จึงเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15837/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือซ่อมแซมท่อประปาในภาวะฉุกเฉิน ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีเจตนาหาเสียง
การที่จำเลยเข้าไปซ่อมแซมตัดต่อท่อประปาที่หน้าวัดอ่างทองสามัคคีธรรมเนื่องจากระบบท่อน้ำประปาที่คุ้มโนนไม่ไหล จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าการเข้าไปซ่อมแซมตัดต่อท่อประปาเป็นเรื่องมีเหตุฉุกเฉิน เพราะน้ำประปาในชุมชุนไม่ไหล การที่จำเลยนำท่อประปาเข้าไปซ่อมแซมจึงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านเฉพาะหน้า หลังจากซ่อมแซมระบบประปาแล้ว จำเลยก็ไม่เคยนำผลงานดังกล่าวไปโฆษณาหาเสียงอันจะเป็นประโยชน์ในการเลือกตั้งของจำเลยแต่อย่างใด แม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างประกาศหาเสียงเลือกตั้ง แต่ลักษณะการกระทำของจำเลยมีเจตนาเพียงต้องการช่วยเหลือชุมชนที่เดือดร้อนเพราะน้ำประปาไม่ไหล ไม่ได้มีเจตนาพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 วรรคหนึ่ง (2), 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15078/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉินนอกสถานพยาบาลตามสิทธิ ประกันสังคมคุ้มครอง
โจทก์เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกขณะปฏิบัติงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครจึงไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้ไปเข้ารับการบริการทางการแพทย์ได้ และอาการป่วยดังกล่าวถือได้ว่ามีลักษณะรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันตนเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงานและไม่สามารถไปรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้สำหรับโจทก์และเป็นกรณีที่จำเป็นต้องได้รับบริการทางการแพทย์อย่างฉุกเฉิน โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามความจำเป็น ภายในระยะเวลาไม่เกินเจ็ดสิบสองชั่วโมงตามที่ระบุไว้ในประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง กำหนดจำนวนเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์