คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชดใช้ราคา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6468/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าฉางที่มีลักษณะสัญญาฝากทรัพย์ การคิดอายุความตามมาตรา 164 เมื่อไม่มีกฎหมายเฉพาะ
สัญญาเช่าฉาง เอกชน นอกจากเป็นสัญญาเช่าทรัพย์แล้วยังมีข้อกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่เก็บรักษาข้าวเปลือกและดูแลมิให้เกิดความเสียหายหากเกิดความเสียหายหรือสูญหาย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคา จึงมีลักษณะเป็นสัญญาฝากทรัพย์รวมอยู่ด้วย จำเลยในฐานะผู้รับฝากทรัพย์ซึ่งจะต้องคืนทรัพย์ที่รับฝากไว้แก่โจทก์เมื่อทรัพย์ที่ฝากสูญหายจึงต้องใช้ราคาแทนตัวทรัพย์ การฟ้องเรียกให้ใช้ราคาทรัพย์ในกรณีนี้ไม่ใช่เรียกค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 และไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 (กฎหมายใหม่ 193/30)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องนายหน้าขายที่ดิน: ศาลยืนตามสัญญาโอนที่ดินหรือชดใช้ราคา หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีที่ดินเนื้อที่ประมาณ 26 ไร่ต้องการขายที่ดินดังกล่าวจำนวน 14 ไร่เศษ ซึ่งจำเลยมีโครงการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินจัดสรรขายแก่บุคคลทั่วไปเพื่อนำเงินไปชำระหนี้แก่ธนาคารเพราะจำเลยได้จำนองที่ดินจำนวน 26 ไร่ไว้แก่ธนาคารและธนาคารบอกกล่าวบังคับจำนอง จำเลยจึงติดต่อโจทก์กับผู้มีชื่อให้เป็นนายหน้าขายที่ดินของจำเลยโดยสัญญาว่าจะยกที่ดินให้คนละ 1 ไร่ เป็นค่าตอบแทนในการเป็นนายหน้าต่อมากลางปี 2530 โจทก์สามารถติดต่อขายที่ดินให้จำเลยได้สำเร็จแต่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญา จึงมีคำขอ บังคับให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดิน 120,000 บาท หากไม่ปฏิบัติ ตามให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ดังนี้ฟ้องโจทก์ได้บรรยายชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง แล้ว จำเลยสามารถต่อสู้คดีได้อย่างถูกต้องส่วนโจทก์จะติดต่อให้ผู้ใดมาซื้อที่ดินกับจำเลยในราคาเท่าใดเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม สัญญานายหน้าทำขึ้น 2 ฉบับ เมื่อเอกสารดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของจำเลย 1 ฉบับ กรณีย่อมเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(2) โจทก์จึงไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสาม ฉบับ ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอบังคับให้จำเลยชำระเงิน120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ก่อน หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้บังคับจำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์แต่เมื่อลำดับการขอบังคับตามคำขอท้ายฟ้องดังกล่าวมิได้เป็นไปตามขั้นตอนของการบังคับชำระหนี้ตามที่โจทก์มีสิทธิ ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาให้บังคับไปตามขั้นตอนของสิทธิของโจทก์ที่จะบังคับชำระหนี้ที่ถูกต้องได้โดยพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์ก่อน หากโอนไม่ได้จึงจะให้ชำระเงิน 120,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดของกลางที่ไม่เข้าข่ายความเสียหายเร่งด่วน จำเป็นต้องคืนสินค้าหรือชดใช้ราคา
การที่จำเลยที่ 1 ได้ขายทอดตลาดแผงวงจรโทรทัศน์สินค้าของกลางที่ยึดไว้โดยอ้างว่าถ้าหน่วงช้าไว้จะเป็นการเสี่ยงต่อความเสียหาย แต่เมื่อปรากฏว่าได้มีการยึดสินค้าของกลางเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2524 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้จำเลยคืนสินค้าของกลางให้โจทก์โดยได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2527 และได้มีการขายทอดตลาดสินค้าของกลางเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2528 จำเลยที่ 1 เก็บรักษาไว้เป็นเวลาเกือบ 4 ปี ทั้งไม่ปรากฏจากพยานหลักฐานว่าจะทำให้สินค้าเป็นสนิมหรือเสื่อมสภาพแต่อย่างใด ถึงแม้จะหน่วงช้าไว้อีกก็ไม่เป็นการเสี่ยงต่อความเสียหาย การขายสินค้าของกลางดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 25 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ต้องคืนหรือใช้ราคาสินค้าของกลางตามที่เป็นจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2496/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าซื้อช่วงรถยนต์และการชดใช้ราคาจากผู้ให้เช่าซื้อเดิมเมื่อสัญญาเช่าซื้อเดิมสิ้นสุด
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของจำเลยที่ 2 โดยโจทก์ทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 1 เช่าซื้อจากจำเลยที่ 2มาจำหน่าย และจำเลยที่ 2 ยินยอมให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์เช่าซื้อช่วงรถยนต์คันดังกล่าว โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อให้จำเลยที่ 1 ครบถ้วนแล้ว แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อที่ทำไว้กับจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วจำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนไปจากโจทก์ได้แต่การที่โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 ซึ่งถือเป็นพ่อค้าตามความหมายดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1332 โดยสุจริต โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับชดใช้ราคารยนต์ที่ซื้อมาจากจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับฝากทรัพย์ต้องระมัดระวังรักษาทรัพย์สินให้ปลอดภัย หากขาดความระมัดระวังจนทรัพย์สินสูญหายหรือถูกยึด ต้องรับผิดชดใช้ราคา
ผู้รับฝากทรัพย์โดยมีบำเหน็จค่าฝากจำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินนั้นเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติการณ์ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ของจำเลยขนทรัพย์สินของโจทก์ที่ฝากไว้ออกจากสถานที่รับฝากโดยหลบหนีภาษีศุลกากร จนทรัพย์สินของโจทก์ถูกยึดเป็นของกลางในคดีอาญา แสดงว่าจำเลยขาดความระมัดระวังไม่ใช้ฝีมือสงวนทรัพย์สินของโจทก์เช่นวิญญูชน หาใช่เหตุสุดวิสัยเมื่อจำเลยคืนทรัพย์สินที่ฝากไม่ได้ จำเลยต้องใช้ราคา โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องค่าเสียหายประเด็นข้อพิพาทในส่วนนี้จึงถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติ การขุดดินโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคา
ที่ดินพิพาทเป็นที่ราชพัสดุที่ใช้ในราชการกองทัพบกอันเป็น ทรัพย์สินของแผ่นดินตาม พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ที่ดินพิพาทจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ใช้เพื่อ ประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304(3) แม้ ส. จะได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) สำหรับที่ดินแปลงนี้มาโดยสุจริตและจำเลยจะซื้อที่ดินแปลงนี้มาโดยสุจริตก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาท จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะขุดหรือ ตัก ดินไปจากที่ดินแปลงนี้ เมื่อจำเลยขุดหรือตัก ดินไป โจทก์ ย่อมฟ้องบังคับให้จำเลยนำดินที่ขุดหรือตักไปนั้นคืนมาหรือขอให้ จำเลยชดใช้ราคาได้ แม้จำเลยจะได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยปัญหาที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ โจทก์มิได้ยกปัญหาในเรื่องอายุความขึ้นอุทธรณ์ และจำเลยมิได้แก้อุทธรณ์ของโจทก์ จึงถือว่าไม่มีประเด็นในเรื่องอายุความในชั้นอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ด้วยก็เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ต้องถือว่า เป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแต่ไม่ตรงตามที่ตกลง
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วย สัญญาข้อ 8 วรรคสอง มีว่า ถ้าจำเลยที่ 1 (ผู้ขาย) ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญา จำเลยที่ 1 ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง ต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่ โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองแล้วจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่ แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่ 1 กล่าวคือ ต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกัน มิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้ เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486-1487/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากปุ๋ยและการจ่ายปุ๋ยผิดพลาด จำเลยต้องรับผิดคืนปุ๋ยหรือชดใช้ราคา
โจทก์ซื้อปุ๋ยจากจำเลย จำเลยส่งมอบปุ๋ยให้โจทก์ตรวจรับตามจำนวนและคุณภาพถูกต้องแล้ว การที่จำเลยเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของจำเลยเพื่อรอจ่ายให้แก่ผู้รับตามใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์เป็นคราว ๆ จนกว่าจะครบจำนวน ถือได้ว่าจำเลยรับฝากปุ๋ยของโจทก์ไว้ จำเลยจะต้องคืนปุ๋ยให้แก่โจทก์หรือจ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งถือใบสั่งจ่ายของโจทก์ตามข้อตกลง การที่จำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้ถือใบสั่งจ่ายปุ๋ยซึ่งลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายและตราของโจทก์ที่ประทับเป็นของปลอม ถือได้ว่าจำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้อื่นผิดไปจากข้อตกลง จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486-1487/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากปุ๋ยและการจ่ายปุ๋ยผิดพลาด จำเลยต้องรับผิดคืนปุ๋ยหรือชดใช้ราคา
โจทก์ซื้อปุ๋ยจากจำเลย จำเลยส่งมอบปุ๋ยให้โจทก์ตรวจรับตามจำนวนและคุณภาพถูกต้องแล้ว การที่จำเลยเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของจำเลยเพื่อรอจ่ายให้แก่ผู้รับตามใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์เป็นคราว ๆ จนกว่าจะครบจำนวน ถือได้ว่าจำเลยรับฝากปุ๋ยของโจทก์ไว้ จำเลยจะต้องคืนปุ๋ยให้แก่โจทก์หรือจ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งถือใบสั่งจ่ายของโจทก์ตามข้อตกลง การที่จำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้ถือใบสั่งจ่ายปุ๋ยซึ่งลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายและตราของโจทก์ที่ประทับเป็นของปลอม ถือได้ว่าจำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้อื่นผิดไปจากข้อตกลง จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อรถหาย, ผู้เช่าซื้อต้องชดใช้ราคาตามสัญญา
แม้ความประสงค์เดิมของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ต้องการกู้เงินโดยนำรถยนต์ไปเป็นประกัน แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ยินยอมทำนิติกรรมตามความประสงค์ของโจทก์ คือจำเลยที่ 2 โอนขายรถยนต์ให้โจทก์ และจำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากโจทก์ เพื่อจำเลยที่ 2 จะได้เงินตามที่ต้องการ อันเป็นวิธีการทางการค้าของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทั้งสองเปลี่ยนเจตนาเดิมมายินยอมผูกพันตน ตามสัญญาเช่าซื้อโดยสมัครใจสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 จึงมิใช่นิติกรรมอำพราง
สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่ง จึงนำบทบัญญัติลักษณะเช่ามาใช้บังคับด้วยเมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับลงตั้งแต่วันที่รถยนต์สูญหายไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ชำระค่าเช่าซื้อเฉพาะงวดที่รถยนต์ยังไม่สูญหาย และไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายที่โจทก์อาจนำรถยนต์คันนี้ไปแสวงหาประโยชน์ได้อีก แต่เมื่อสัญญาเช่าซื้อระบุว่าหากเกิดการเสียหายขึ้นแก่รถยนต์ไม่ว่าด้วยประการใดๆ ผู้เช่าซื้อยินยอมชดใช้ค่าหรือราคารถยนต์ให้เจ้าของ จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชดใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์
ส่วนราคารถยนต์นั้นสมควรกำหนดตามราคาที่จำเลยที่ 1 จะต้องชดใช้โดยให้หักค่าเช่าซื้อที่ได้ชำระไปแล้วออก
of 3