คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชื่อบริษัท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4219/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อบริษัทที่มีคำว่า 'เงินทุน' โดยไม่ได้รับอนุญาต และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อตามกฎหมาย
จำเลยใช้ชื่อว่าบริษัทเงินทุนในการประกอบธุรกิจโดยจำเลยมิใช่บริษัทเงินทุนตามกฎหมาย ต่อมาระหว่างอุทธรณ์ได้มีประกาศใช้บังคับ พระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนฯ ซึ่งมาตรา 37 บัญญัติให้เลิกใช้ชื่อดังกล่าวภายใน 180 วันนับแต่วันที่พ.ร.ก. ใช้บังคับ ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จำเลยได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเลิกใช้ชื่อว่า บริษัทเงินทุน ดังนี้จำเลยมิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 13, 72 แห่งพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจเงินทุนฯ อีกต่อไป ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2939/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิในนามทางการค้า: การใช้ชื่อบริษัทคล้ายคลึงกันทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียหาย
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ประเภท บริษัทจำกัด โดยโจทก์จดทะเบียนก่อนใช้ชื่อว่า บริษัทยูเนี่ยนการ์เมนท์ จำกัด จำเลยที่ 1 ใช้ชื่อว่า บริษัทดียูเนี่ยนการ์เมนท์ จำกัด เป็นการเลียนแบบถือได้ว่า เป็นการละเมิดต่อสิทธิในนามของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18,420 โจทก์ขอให้ห้ามใช้ชื่อได้
แม้โจทก์มิได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะผู้เริ่มก่อการบริษัท แต่จำเลยทั้งสี่ก็ต้อง รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในมูลละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขชื่อจำเลยในคดีไม่ทำให้ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องจำเลยภายในกำหนดอายุความ แต่ระบุชื่อบริษัทจำเลยไม่ถูกต้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อบริษัทจำเลยให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นอนุญาต การแก้ไขเพิ่มเติมชื่อจำเลยให้ถูกต้องเช่นนี้ หาเป็นเหตุทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยโดยใช้ชื่อบริษัทไม่ถูกต้อง ศาลมีอำนาจสั่งแก้ฟ้องได้ แม้จะไม่ได้มีการขอ
โจทก์ฟ้องระบุบริษัทศรีเมืองประกันภัย จำกัด จำเลยที่ 2 ความจริงเป็นบริษัทประกันภัยศรีเมือง จำกัด จำเลยที่ 2 ให้การรับว่าได้รับประกันภัยรถยนต์ตามฟ้อง จึงเป็นเพียงพิมพ์ตำแหน่งในถ้อยคำผิดพลาดเล็กน้อย ไม่ใช่สารสำคัญแห่งคำฟ้อง แม้ศาลชั้นต้นมิได้สั่งคำร้องขอแก้ฟ้องโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อบริษัทที่คล้ายคลึงกันจนสร้างความเข้าใจผิดแก่สาธารณชน เป็นการละเมิดสิทธิและก่อให้เกิดความเสียหาย
จำเลยใช้นามเมืองทองเป็นชื่อบริษัทเลียนชื่อที่โจทก์ใช้มานานทำให้โจทก์เสียหาย เป็นละเมิดศาลให้ถอนชื่อและให้ค่าเสียหายตามความร้ายแรงแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนใช้ชื่อบริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนกู้เงิน ความรับผิดชอบยังคงเป็นของหุ้นส่วน
สองคนเข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้า มีชื่อเป็นบริษัทบริษัทหนึ่งได้ทำสัญญากู้เงินเขา โดยหุ้นส่วนคนหนึ่งลงชื่อเป็นผู้กู้ มีผู้อื่นเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่เขา ผู้ค้ำประกันต้องออกเงินใช้แทนไป ดังนี้ แม้ในสัญญากู้และ
สัญญาค้ำประกันจะใช้คำว่า บริษัทเป็นผู้กู้ก็ดี แต่บริษัทดังว่า ยังมิได้จะทะเบียนเป็นนิติบุคคล จึงไม่ทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสองพ้นจากความรับผิดไปได้เพราะชื่อบริษัทที่กล่าวนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้แทนชื่อของตน
นั่นเอง./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15698/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความบ่งเฉพาะของเครื่องหมายที่มาจากชื่อบริษัทและภาษาต่างประเทศ
คำว่า หรือ ของเครื่องหมายบริการ และ ตามคำขอทั้งสี่คำขอของโจทก์มาจากตัวอักษรโรมันคำว่า ซึ่งเป็นชื่อของโจทก์ ไม่ปรากฏจากทางนำสืบของจำเลยว่ามีแหล่งข้อมูลอื่นที่ให้ความหมายคำว่า เป็นคำย่อในภาษาเยอรมันซึ่งหมายถึงสมาคมที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคเช่นเดียวกับเอกสารที่จำเลยอ้าง ทั้งปรากฏในเอกสารดังกล่าวด้วยว่าคำดังกล่าวซึ่งเป็นคำย่อยังมีอีกหลายความหมาย จำเลยก็ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าบุคคลที่มีความรู้ภาษาเยอรมันหรือบุคคลที่มีความรู้ทางด้านการให้คำแนะนำทางเทคนิคต่าง ๆ ทราบดีว่า คำว่า เป็นคำย่อในภาษาเยอรมันซึ่งหมายถึงสมาคมที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค แม้คำว่า เป็นคำย่อซึ่งหมายถึงสมาคมที่ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคก็ตาม แต่คำดังกล่าวก็ไม่เป็นคำที่ผู้ใช้บริการสามารถทราบได้ว่าเกี่ยวข้องกับบริการจำพวกที่ 35 และ 42 ตามที่โจทก์ขอจดทะเบียน คำว่า และ ที่โจทก์ขอจดทะเบียนจึงไม่ใช่คำหรือข้อความที่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของบริการโดยตรง เครื่องหมายบริการของโจทก์ทั้งสี่คำขอ จึงมีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 6 และ มาตรา 7 ประกอบมาตรา 80 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 อันพึงรับจดทะเบียนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8405/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักษณะบ่งเฉพาะของเครื่องหมายการค้า: ชื่อบริษัทต้องมีลักษณะพิเศษและไม่สื่อถึงคุณสมบัติสินค้า
เครื่องหมายการค้าที่ประกอบด้วยชื่อนิติบุคคลจะมีลักษณะบ่งเฉพาะตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 7 วรรคสอง (1) ได้ต่อเมื่อเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเป็นชื่อเต็มของนิติบุคคลที่แสดงโดยลักษณะพิเศษและไม่เล็งถึงลักษณะ หรือคุณสมบัติของสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นโดยตรง
เครื่องหมายการค้าคำว่า "" เป็นชื่อเต็มของบริษัทโจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายประกอบด้วยภาษาโรมันเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด แม้โจทก์อ้างว่าได้มีการออกแบบลายเส้นของตัวอักษรให้มีลักษณะโค้งมน โดยคำว่า "" ออกแบบให้ฐานของตัวอักษร EAS เกาะเกี่ยวเชื่อมต่อกันและอักษร "A" ไม่มีขีดกลางตัวอักษรก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการดัดแปลงลายเส้นเฉพาะตัวอักษรโรมัน "EAS" เพียงเล็กน้อย โจทก์มิได้ทำให้เห็นถึงลักษณะพิเศษของตัวอักษรดังกล่าวในเครื่องหมายการค้า คำว่า "" โดยยังคงมีลักษณะเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ธรรมดาทั่วไป เมื่อมองภาพรวมเห็นได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นเครื่องหมายที่ใช้อักษรโรมันเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น เครื่องหมายการค้าของโจทก์จึงเป็นเพียงชื่อเต็มของนิติบุคคลบริษัทโจทก์ที่ยังมิได้แสดงลักษณะพิเศษ
เครื่องหมายดังกล่าวมีคำว่า "CO., LTD." ซึ่งย่อมาจากคำว่า "Company Limited" ที่แปลว่า บริษัทจำกัดอยู่ตอนท้าย ทำให้ผู้พบเห็นเครื่องหมายดังกล่าวไม่อาจทราบได้ทันทีว่าคำว่า "" เป็นเครื่องหมายการค้า มิใช่เป็นเพียงแต่ชื่อบริษัทเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์ดังกล่าวเป็นชื่อเต็มของนิติบุคคลที่แสดงโดยลักษณะพิเศษ อันมีลักษณะบ่งเฉพาะในตัวเอง ตามความหมายของมาตรา 7 วรรคสอง (1) แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
เครื่องหมายใดจะมีสภาพเป็นเครื่องหมายการค้าตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4 หรือไม่ จะต้องพิจารณาว่าได้มีการใช้เครื่องหมายดังกล่าวเป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือไม่ สินค้าที่โจทก์นำเข้าที่บรรจุในถังได้มีการจำหน่ายต่อให้โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยถังที่บรรจุสินค้าจะมีเครื่องหมายการค้าคำว่า "" ปรากฏอยู่ชัดเจนที่ด้านข้างตัวถัง ฝาถังและใช้ร่วมกับเครื่องหมายอื่น เห็นได้ว่า เครื่องหมายการค้าคำว่า "" ของโจทก์ได้ถูกใช้เป็นที่หมายของสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ดังกล่าวนั้นแตกต่างจากสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นแล้ว คำว่า "" ย่อมเป็นเครื่องหมายการค้าไม่ใช่เป็นเพียงชื่อนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8137/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ชื่อสกุล การใช้ชื่อบริษัทที่คล้ายคลึงกัน การพิสูจน์ความเสียหาย
เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดที่แสดงว่า การที่จำเลยใช้ชื่อสกุลของโจทก์เป็นชื่อของจำเลยเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือโจทก์ได้รับความเสียหายหรือต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการที่จำเลยใช้ชื่อ บูรพาชีพ เป็นชื่อของจำเลย จึงถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียประโยชน์ ต้องเสียหายหรือเป็นวิตกว่าจะต้องเสียหายอยู่สืบไปโจทก์จึงไม่อาจขอให้สั่งห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อ บูรพาชีพเป็นชื่อของจำเลยดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 18 ได้ ส่วนบริษัทบูรพาโอสถ จำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากโจทก์ จะได้รับความเสียหายอย่างไรจากการใช้ชื่อบูรพาชีพ ของจำเลย เป็นเรื่องต้องไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยเองไม่เกี่ยวกับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8137/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อสกุลเป็นชื่อบริษัท การคุ้มครองสิทธิในชื่อ และความเสียหายที่ต้องพิสูจน์
บริษัทจำเลยใช้ชื่อสกุลของโจทก์เป็นชื่อของจำเลยโดยไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการที่จำเลยใช้ชื่อ บูรพาชีพ เป็นชื่อของจำเลยจึงถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของนามสกุลบูรพาชีพต้องเสื่อมเสียประโยชน์ ต้องเสียหายหรือเป็นที่วิตกว่าจะต้องเสียหายอยู่สืบไป โจทก์จึงไม่อาจขอให้สั่งห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อ บูรพาชีพ เป็นชื่อของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 18
บริษัทบูรพาโอสถ จำกัด เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากโจทก์ หากบริษัทบูรพาโอสถ จำกัด ได้รับความเสียหายอย่างไรจากการใช้ชื่อบูรพาชีพ เป็นชื่อของจำเลย ก็เป็นเรื่องที่บริษัทบูรพาโอสถจำกัด ต้องไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยเอง
of 3