พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง: สิทธิการสวมสิทธิจำเลยต้องระบุข้อกฎหมายชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฎีกาลอย ๆ ว่า โจทก์มีสิทธิจะสวมสิทธิจำเลยต่อผู้ร้องได้ตามกฎหมายเท่านั้น มิได้ยกข้อกฎหมายขึ้นกล่าวอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิจะสวมสิทธิจำเลยต่อผู้ร้องได้ ตามกฎหมายข้อใดประการใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2724/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน: จำเลยอ้างฟ้องเคลือบคลุม แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียด ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยฎีกาว่าคำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม เพราะโจทก์มิได้บรรยายคำฟ้องอย่างแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งโจทก์มิได้อ้างข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา เช่นนี้ฎีกาของจำเลยมิได้บรรยายว่า คำฟ้องของโจทก์ไม่ชัดแจ้งตรงไหนอย่างไร ตามคำให้การของจำเลยก็ไม่ปรากฏว่า จำเลยหลงข้อต่อสู้ตรงไหน จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน-ข้อเท็จจริงเกินทุนทรัพย์-การยกข้อกฎหมายที่โจทก์ให้การต่อสู้แล้ว
ฎีกาผู้ร้องมิได้บรรยายว่า ถ้าโจทก์ชนะคดีจำเลยในคดีดำที่ 255/2509แล้วจะมีผลลบล้างคดีร้องขัดทรัพย์นี้ได้อย่างไร หรือด้วยเหตุผลอย่างไรจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ส่วนฎีกาที่อ้างว่าเรือนพิพาทเป็นโรงเรือนชั่วคราว เจ้าพนักงานไม่ยอมจดทะเบียนให้เพราะไม่ถือว่าเป็นอาคารนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องจะฎีกาไม่ได้ เพราะคดีร้องขัดทรัพย์นี้มีทุนทรัพย์เพียง 4,000 บาท
โจทก์ให้การต่อสู้แล้วว่า การมอบเรือนพิพาทไม่มีผลตามกฎหมายเพราะมิได้จดทะเบียนหรือทำนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ ดังนี้ หาได้ต่อสู้แต่เพียงว่าผู้ร้องกับจำเลยสมยอมกันเท่านั้นไม่ ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย
โจทก์ให้การต่อสู้แล้วว่า การมอบเรือนพิพาทไม่มีผลตามกฎหมายเพราะมิได้จดทะเบียนหรือทำนิติกรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ ดังนี้ หาได้ต่อสู้แต่เพียงว่าผู้ร้องกับจำเลยสมยอมกันเท่านั้นไม่ ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน: เหตุผลการไม่อนุมัติทรัพย์มรดกทั้งหมด และการอ้างอิงคำให้การแทนข้อกฎหมาย
ฎีกาที่บรรยายว่า 'โจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมดดังข้อต่อสู้ของจำเลย' เพียงเท่านี้มิได้กล่าวมาให้ชัดแจ้งว่าโจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์มรดกทั้งหมดเพราะเหตุใด หรือโจทก์ควรได้รับเท่าใด นั้น เป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งในฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 และจะไปอ้างอิงคำให้การมาเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาไม่ได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยในข้อนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์สินของจำเลยระหว่างเจ้าหนี้หลายราย ศาลฎีกาไม่สามารถวินิจฉัยได้เนื่องจากฎีกาโจทก์ไม่ชัดเจน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์สินของจำเลยผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีสำนวนอื่นของจำเลยขอเฉลี่ยทรัพย์ อ้างว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้วนอกจากที่โจทก์นำยึดเท่านั้น
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด(ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย)และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้าน เมื่อฎีกาของโจทก์คลุมเครือไม่แจ้งชัดว่าหมายถึงเจ้าหนี้รายใด(ผู้ร้องขอเฉลี่ยหลายราย)และข้ออ้างว่ากระไร ดังนี้ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3231/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดเจน-เกินสองแสน-ฟังข้อเท็จจริงนอกคำให้การ ศาลฎีกาคืนค่าขึ้นศาล
ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการฎีกา บัญญัติให้คู่ความผู้ยื่นฎีกาต้องกล่าวถึงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างไว้ให้ชัดแจ้งในฎีกา แต่ฎีกาของจำเลยทั้งสองเพียงแต่อ้างข้อเท็จจริงที่ได้จากทางนำสืบของโจทก์และจำเลยมาแสดงประกอบคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น แล้วอ้างว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้และตามคำให้การที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ไว้ เมื่อปรากฏว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนของโจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ถูกกลับโดยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 และฎีกาของจำเลยทั้งสองมิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ว่า ไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูก ต้องเป็นอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามตามบทกฎหมายข้างต้น เมื่อข้อต่อสู้ตามฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่า ศาลชั้นต้นมิได้ฟังข้อเท็จจริงนอกคำให้การ ไม่ขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 142 วรรคหนึ่ง และมาตรา 177 ดังกล่าวเป็นฎีกาในข้อกฎหมายที่ไม่ชัดแจ้ง ทั้งเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อการวินิจฉัยอันมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และคดีในส่วนของโจทก์แต่ละคนมีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 ฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงเป็นฎีกาที่มิชอบ และไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย แม้ศาลฎีกาจะมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสองในประเด็นดังกล่าว กรณีก็ไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 169/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักล้างพยานเอกสารต้องด้วยข้อเท็จจริง พยานโจทก์ต้องเบิกความเกี่ยวกับเอกสารนั้นโดยตรง การฎีกาที่ไม่ชัดเจนถือเป็นเหตุต้องห้ามมิให้รับวินิจฉัย
ที่จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 รับฟังคำเบิกความโจทก์ที่ 1 ขัดแย้งกับพยานเพื่อหักล้างพยานเอกสารดังกล่าวไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 94 นั้น ในทางนำสืบไม่ปรากฏว่ามีพยานโจทก์คนใดที่เบิกความเกี่ยวกับเอกสาร มีเพียงจำเลยที่ตอบทนายโจทก์ทั้งสิบเอ็ดซึ่งนำเอกสารดังกล่าวมาถามค้าน จึงไม่อาจฟังได้ว่าคำเบิกความพยานโจทก์ทั้งสิบเอ็ดขัดแย้งกับเอกสาร ดังที่จำเลยฎีกา ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป ส่วนฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงของจำเลยนั้น ล้วนเป็นการคัดลอกข้อความในอุทธรณ์ของจำเลยมาทั้งสิ้น โดยมิได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร และที่ถูกแล้วศาลอุทธรณ์ภาค 9 ควรวินิจฉัยอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง