พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3713/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ของลูกหนี้รายอื่น ผู้จำนองต้องรับผิดชอบดอกเบี้ยค้างชำระ การนำสืบภายหลัง
โจทก์ทำสัญญาจำนองในวงเงิน 390,000 บาท เพื่อประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของ ท. ที่มีต่อธนาคารจำเลยผู้รับจำนอง โดยสัญญาจำนองระบุว่า ผู้จำนองได้จำนองเพื่อประกันเงินซึ่ง ท.ได้เบิกไปจากผู้รับจำนองหรือในเงินจำนวนใดจำนวนหนึ่งซึ่งลูกหนี้เป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่ในเวลาทำสัญญาจำนองหรือจะเป็นหนี้ต่อไปในภายหน้ากับค่าอุปกรณ์ คือ ดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้ ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนอง ผู้จำนองยอมรับผิดชอบด้วยทั้งสิ้นและว่า ผู้จำนองยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจำนองในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในจำนวนเงินทั้งสิ้นซึ่งลูกหนี้เป็นหนี้ผู้รับจำนอง ถ้าลูกหนี้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยที่กล่าวนี้ผู้จำนองยอมให้ผู้รับจำนองคำนวณดอกเบี้ยที่ค้างชำระทบต้นในบัญชีของลูกหนี้ด้วย ดังนั้น ย่อมมีความหมายว่า นอกจากโจทก์ผู้จำนองจะต้องรับผิดตามสัญญาจำนองเป็นเงิน 390,000 บาท แล้ว ยังต้องรับผิดสำหรับดอกเบี้ยเมื่อ ท. ซึ่งเป็นลูกหนี้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยแก่จำเลยด้วย จำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบภายหลังมีสิทธิอ้างส่งสัญญาค้ำประกันเพื่อการนำสืบตามประเด็นข้อต่อสู้ได้ แม้จะมิได้ถามค้านพยานโจทก์ในข้อนี้ไว้ก่อนก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงทบดอกเบี้ยเข้าต้นเงิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อตกลงก่อนดอกเบี้ยค้างชำระ 1 ปี ไม่เป็นโมฆะ
คู่สัญญากู้ยืมเงินตกลงกันเป็นหนังสือให้เอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเป็นเวลาหนึ่งปีทบเข้ากับต้นเงินแล้ว ให้คิดดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ทบเข้ากันนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรคแรก มิได้บังคับว่าต้องกระทำเมื่อดอกเบี้ยค้างชำระครบหนึ่งปีแล้วเท่านั้น ดังนั้น แม้จะตกลงกันไว้ตั้งแต่ขณะทำสัญญาข้อตกลงนี้ก็ไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยทบต้นต้องเป็นดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 1 ปี การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายเป็นโมฆะ
ดอกเบี้ยที่จะเอามาทบเป็นเงินต้นได้ ต้องเป็นดอกเบี้ยที่ค้างชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี การที่เอาดอกเบี้ยมาทบต้นตั้งแต่แรกกู้เงินโดยยังไม่ค้างชำระเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย มาตรา 655 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จำเลยยอมชำระดอกเบี้ยล่วงหน้าแก่โจทก์ ถ้าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่เกินอัตราตามกฎหมาย โจทก์ก็ย่อมเรียกร้องเอาได้ เพราะข้อตกลงนี้ไม่ขัดต่อกฎหมาย ถ้าเกินอัตราตามกฎหมาย ข้อตกลงเรียกดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น
จำเลยยอมชำระดอกเบี้ยล่วงหน้าแก่โจทก์ ถ้าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่เกินอัตราตามกฎหมาย โจทก์ก็ย่อมเรียกร้องเอาได้ เพราะข้อตกลงนี้ไม่ขัดต่อกฎหมาย ถ้าเกินอัตราตามกฎหมาย ข้อตกลงเรียกดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยค้างชำระ: สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยยังไม่ขาดอายุความ แม้ฟ้องเรียกเกิน 5 ปี
กฎหมายมิได้ห้ามคิดเอาดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้เกิน 5 ปี เป็นแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยที่ค้างส่งหรือค้างชำระว่า ให้มีกำหนดอายุความ 5 ปีเท่านั้น
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
จำเลยมิได้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ จะมายกข้อนี้ขึ้นในชั้นฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองแม้หนี้เกิน 10 ปี และสิทธิการหลุดเป็นสิทธิเมื่อค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปี
การฟ้องคดีบังคับจำนองนั้น แม้หนี้จำนองเกิน 10 ปี แล้วก็ยังฟ้องได้
ฟ้องขอให้ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิหรือยึดที่จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้จำนองนั้น เมื่อปรากฎว่าจำเลยค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปีแล้ว และผู้จำนองไม่ได้ต่อสู้ไว้ว่าที่จำนองมีราคาท่วมหนี้จำนองศาลก็ย่อมพิพากษาให้เอาที่จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ได้
ฟ้องขอให้ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิหรือยึดที่จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้จำนองนั้น เมื่อปรากฎว่าจำเลยค้างดอกเบี้ยเกิน 5 ปีแล้ว และผู้จำนองไม่ได้ต่อสู้ไว้ว่าที่จำนองมีราคาท่วมหนี้จำนองศาลก็ย่อมพิพากษาให้เอาที่จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยค้างชำระ: ขอบเขตการบังคับใช้ตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 166 และข้อจำกัดในการยกข้อต่อสู้ในชั้นฎีกา
ฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลชั้นล่างนั้น จะยกขึ้นมาโต้เถียงในชั้นฎีกาไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ที่ว่าจะเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งเกินกว่า 5 ปีไม่ได้ตามประมวลแพ่งฯ ม.166 นั้นหมายถึงดอกเบี้ยที่ค้างมาแล้วก่อนฟ้อง ดอกเบี้ยที่คิดเอาตั้งแต่วันฟ้องต่อไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จไม่ใช่เป็นดอกเบี้ยค้างส่งตามความหมายในมาตรานี้ ศาลตัดสินให้ใช้แก่เจ้าหนี้ได้
ที่ว่าจะเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งเกินกว่า 5 ปีไม่ได้ตามประมวลแพ่งฯ ม.166 นั้นหมายถึงดอกเบี้ยที่ค้างมาแล้วก่อนฟ้อง ดอกเบี้ยที่คิดเอาตั้งแต่วันฟ้องต่อไปจนกว่าจะใช้เงินเสร็จไม่ใช่เป็นดอกเบี้ยค้างส่งตามความหมายในมาตรานี้ ศาลตัดสินให้ใช้แก่เจ้าหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยค้างชำระและการคำนวณระยะเวลาดอกเบี้ย ศาลฎีกาวินิจฉัยการคำนวณดอกเบี้ยที่ถูกต้องตามสัญญา
ดอกเบี้ยค้างชำระตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม ให้นับ 13 วัน (คือไม่นับวันที่ 29 มิถุนายน แต่นับวันที่ 12 กรกฎาคม รวมด้วย) ฎีกาอุทธรณ์ปัญหากฎหมาย+ที่ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกเหนือจากพะยานหลักฐานในสำนวนหรือไม่เป็นปัญหากฏหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความดอกเบี้ยค้างชำระในคดีฟื้นฟูกิจการ การคำนวณระยะเวลา และสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้
ดอกเบี้ยค้างรับตามสัญญากู้เงินระยะยาวและสัญญากู้เงินระยะสั้นโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่เจ้าหนี้อุทธรณ์ว่า หนี้ดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ขาดอายุความเพราะเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดอายุความตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/15 นั้น เห็นว่า หนี้ดอกเบี้ยค้างรับที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ หนี้ดังกล่าวเป็นสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยค้างชำระในระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม 2540 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2541 มีกำหนดอายุความ 5 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/33 (1) ซึ่งครบกำหนดอายุความตั้งแต่ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม 2545 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2546 เมื่อในคดีก่อนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2546 เห็นได้ว่าอายุความดอกเบี้ยส่วนหนึ่งครบกำหนดก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และอายุความดอกเบี้ยอีกส่วนหนึ่งครบกำหนดภายใน 6 เดือน นับแต่วันดังกล่าว มีผลให้อายุความดอกเบี้ยค้างรับทั้งหมดยังไม่ครบกำหนดจนกว่าจะพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/15 อายุความดอกเบี้ยค้างรับจึงครบกำหนดในวันที่ 15 สิงหาคม 2547 การที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 ยังไม่พ้นกำหนดอายุความ ดอกเบี้ยค้างรับตามสัญญากู้เงินระยะยาวและสัญญากู้เงินระยะสั้นโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงินจึงไม่ขาดอายุความ เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ดอกเบี้ยดังกล่าว