คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ตัวการ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 464 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุน vs. ตัวการในคดียาเสพติด และการพิสูจน์ความผิดของจำเลยร่วม
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นเพียงการสนับสนุนการกระทำความผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง จำเลยที่ 1 ก็ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1981/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาโดยปริยายและการรับผิดของตัวการต่อบุคคลภายนอกจากการกระทำของตัวแทนเชิด
แม้จำเลยที่ 2 มิได้มอบหมายหรือแต่งตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนขายรถยนต์คันพิพาทแก่โจทก์โดยแสดงออกชัด แต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากผู้ผลิตแล้วจำเลยที่ 2 ขายรถยนต์คันดังกล่าวแก่บริษัท ต. และยังยินยอมตรวจสภาพรถยนต์คันดังกล่าวตามระยะให้แก่โจทก์ โดยที่จำเลยที่ 2 มิได้ทักท้วงหรือกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้เห็นว่ามิได้เป็นตัวการ ทั้งปรากฏด้วยว่าจำเลยที่ 1 กับบริษัท ต. มีกรรมการบริษัทเป็นชุดเดียวกันและมีจำนวน 2 คนเช่นเดียวกัน คือ ช. และ ส. จึงน่าเชื่อว่าบริษัทจำเลยที่ 1 และบริษัท ต. เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน พฤติการณ์ตามข้อเท็จจริงแห่งคดีถือได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาให้บริษัท ต. จัดจำหน่ายรถยนต์คันดังกล่าวแทนตนโดยไม่กำหนดว่าต้องจัดการจำหน่ายอย่างไร เป็นการเชิดบริษัท ต. เป็นตัวแทนเชิดและบริษัท ต. ได้ใช้ชื่อของจำเลยที่ 1 ในการจำหน่ายรถยนต์คันพิพาทให้แก่โจทก์ ซึ่งตามพฤติการณ์แห่งคดีเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 2 รู้แล้วว่าบริษัท ต. โดยจำเลยที่ 1 จำหน่ายรถยนต์คันดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4199/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนที่ทำสัญญาแทนตัวการต่างประเทศตามมาตรา 824
แม้โดยหลักทั่วไปว่าด้วยความรับผิดของตัวการและตัวแทนต่อบุคคลภายนอก เมื่อตัวแทนกระทำการแทนตัวการไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทนแล้ว ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายที่ตัวแทนได้ทำไปดังกล่าวนั้น โดยตัวแทนไม่ต้องผูกพันหรือรับผิดต่อบุคคลภายนอก ตาม ป.พ.พ. มาตรา 820 ก็ตาม แต่ในกรณีตัวแทนที่ทำสัญญาแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศนั้นเป็นกรณีที่มี มาตรา 824 บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้ตัวแทนเช่นนี้ต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง ซึ่งหมายความว่า ตัวแทนเช่นว่านี้ต้องมีความรับผิดด้วย ดังนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศกับจำเลยที่ 2 ตัวแทนที่ทำสัญญารับขนของทางทะเลแทนจำเลยที่ 1 รวมกันมา และศาลได้พิจารณาเห็นว่า จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดต่อโจทก์อีกคนหนึ่งได้ตาม มาตรา 824
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/46)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3934/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนและตัวการจากการผิดสัญญาขนส่งสินค้าและการชำระหนี้เงินต่างประเทศ
การที่โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ทรงใบตราส่งไม่ได้รับสินค้าที่สั่งซื้อที่ท่าเรือปลายทางจึงชำระเงิน 100,000 ดอลลาร์ฮ่องกง ให้แก่บริษัท ย. เจ้าหนี้ของจำเลยทั้งสองแทนจำเลยทั้งสองแล้วรับสินค้าไป ทั้งที่เป็นหน้าที่ของจำเลยทั้งสองจะต้องดำเนินการ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ 2 หลายประการ ถึงแม้ในภายหลังโจทก์ที่ 1 จะได้ใช้เงินคืนให้โจทก์ที่ 2 แต่โจทก์ที่ 2 ก็ยังได้รับความเสียหายในส่วนอื่นอีกอันเนื่องมาจากการกระทำของจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเหตุให้ถูกบริษัท ย. ยึดหน่วงสินค้าไว้ จึงเป็นเรื่องที่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่งระหว่างโจทก์ที่ 2กับจำเลยทั้งสอง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพ.ศ. 2539 มาตรา 45 ประกอบด้วยมาตรา 26 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์ที่ 2 จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองเรียกค่าเสียหายส่วนอื่นได้
จำเลยที่ 2 อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศโดยไม่มีสำนักงานหรือสาขาอยู่ในประเทศไทย จำเลยที่ 2 ประกอบกิจการรับขนของทางทะเลระหว่างประเทศโดยมีบำเหน็จเป็นทางค้าปกติรวมทั้งในประเทศไทยด้วย ซึ่งในการประกอบกิจการในประเทศไทยจำเลยที่ 2 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้กระทำการแทนและจำเลยที่ 1 ได้เข้าทำสัญญารับขนสินค้าทางทะเลกับโจทก์ที่ 1 ผู้ส่งแทนจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นตัวการปฏิบัติผิดสัญญาไม่ส่งมอบสินค้าที่ขนส่งให้แก่โจทก์ที่ 2ผู้ทรงใบตราส่งเมื่อสินค้านั้นถึงเมืองท่าปลายทาง จำเลยที่ 1 ผู้เป็นตัวแทนต้องรับผิดสำหรับความเสียหายเนื่องจากการผิดสัญญานั้นต่อโจทก์ที่ 1 ผู้ส่งและโจทก์ที่ 2 ผู้ทรงใบตราส่งแต่ลำพังตนเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824
จำเลยที่ 2 ปฏิบัติผิดสัญญาเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ได้รับความเสียหายโดยโจทก์ที่ 2 ต้องนำเงินไปชำระหนี้ให้บริษัท ย. แทนจำเลยที่ 2 ในวันที่ 13 ธันวาคม2540 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ 1 และที่ 2 นับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2540อันเป็นวันที่โจทก์ที่ 2 ได้ชำระเงินไป จึงต้องเริ่มคิดดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เป็นเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้เป็นเงินต่างประเทศจึงตรงตามคำฟ้องแต่ที่กำหนดให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนตามอัตราเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพมหานครโดยอาศัยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นวันทำการในวันที่มีคำพิพากษาเป็นเกณฑ์ นั้นไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง และในเรื่องหนี้เงินต่างประเทศนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 196 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สิทธิลูกหนี้ชำระหนี้เป็นเงินไทยได้ และในวรรคสองบัญญัติไว้ว่าการเปลี่ยนเงินนี้ให้คิดอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ณ สถานที่และในเวลาที่ใช้เงินดังนี้ จำนวนเงินบาทที่จำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์จะเป็นจำนวนเท่าใดย่อมต้องคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลาที่มีการชำระหนี้แก่โจทก์จริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนรับชำระหนี้ ตัวการมีผูกพันต่อบุคคลภายนอก และหน้าที่ส่งมอบเอกสารการจดทะเบียน
เมื่อโจทก์ชำระราคารถจักรยานยนต์จำนวน 52 คัน ให้แก่ ส. ตัวแทนของจำเลยแล้ว จำเลยในฐานะตัวการย่อมมีความผูกพันต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอัน ส. ตัวแทนได้ทำไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820จึงถือได้ว่าโจทก์ได้ชำระราคารถจักรยานยนต์จำนวน 52 คัน ให้แก่จำเลยซึ่งเป็นตัวการแล้วตามกฎหมาย แม้ ส. จะยังไม่ได้ส่งมอบเงินค่ารถจักรยานยนต์ให้แก่จำเลยก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยซึ่งเป็นตัวการจะไปว่ากล่าวไล่เบี้ยเอาจาก ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของตนโจทก์จึงไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยมีหน้าที่ต้องจัดส่งเอกสารให้แก่โจทก์ เพื่อโจทก์จะได้นำไปใช้ประกอบในการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดสัญญา ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5984/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิดและอำนาจฟ้อง: บุคคลภายนอกมีสิทธิฟ้องตัวการได้ แต่ไม่อาจฟ้องตัวแทน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความรับผิดของตัวการที่มีต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่มีข้อความใดที่กำหนดให้บุคคลภายนอกต้องรับผิดหรือมีความผูกพันต่อตัวการเลย บุคคลภายนอกจึงมีอำนาจฟ้องให้ตัวการรับผิดได้แต่บุคคลภายนอกไม่อาจฟ้องตัวแทนได้ และตัวการก็จะฟ้องบุคคลภายนอกให้รับผิดไม่ได้เช่นกัน เมื่อจำเลยเป็นบุคคลภายนอกจึงหาอาจจะกล่าวอ้างหรือพิสูจน์ว่าโจทก์ซึ่งลงชื่อเป็นผู้จะซื้อในสัญญาที่ทำกับตนนั้นเป็นเพียงตัวแทนเชิดของ ว. ตัวการเพื่อให้จำเลยไม่ต้องผูกพันหรือรับผิดตามสัญญาได้ไม่ ทั้งการที่จำเลยนำสืบว่าความจริงโจทก์ไม่ใช่ผู้จะซื้อแต่ ว. เป็นผู้จะซื้อนั้น ย่อมเป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาจะซื้อขาย ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข) ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับผลงานและการให้สัตยาบันสัญญา แม้ไม่มีหลักฐานการมอบอำนาจโดยตรง แต่พฤติการณ์บ่งชี้ถึงการผูกพันตามสัญญา
แม้ไม่ปรากฏว่า อ.เป็นกรรมการของจำเลย หรือ อ.ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทจำเลยให้ทำสัญญาจ้างจัดทำงานระบบไฟฟ้าและสื่อเอกสารฉบับพิพาทกับโจทก์ก็ตาม แต่สถานที่ตั้งของจำเลยก็เป็นอาคารเดียวกันกับที่โจทก์ดำเนินการจัดทำและติดตั้งระบบไฟฟ้าและสื่อสาร ทั้งจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คซึ่งประทับตราของจำเลยให้ไว้แก่โจทก์ด้วย การที่จำเลยยอมรับงานที่โจทก์ดำเนินการตามสัญญาจ้างโดยสั่งจ่ายเช็คชำระเงินให้แก่โจทก์และเมื่อเช็คดังกล่าวไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้จำเลยจึงเสนอให้โจทก์รับชำระหนี้ด้วยบ้านและที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกรรมการของจำเลยถือได้ว่าเป็นการยอมรับและให้สัตยาบันแก่การนั้น ย่อมผูกพันจำเลยในฐานะตัวการซึ่งได้ว่าจ้างโจทก์ตามสัญญาจ้างแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4709/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตัวแทนส่งมอบทรัพย์สินคืนให้ตัวการ และผลของการจดจำนองโดยไม่ได้รับความยินยอม
จำเลยเป็นตัวแทนมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทแทนโจทก์ซึ่งเป็นตัวการจำเลยต้องจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทคืนแก่โจทก์โดยปลอดจำนอง แต่การไถ่ถอนจำนอง จำเลยผู้จำนองจะต้องนำเงินไปชำระหนี้ให้แก่ผู้รับจำนองจนครบถ้วน ที่ดินพิพาทจึงจะปลอดจำนอง หากจำเลยไม่ปฏิบัติดังกล่าวก็ไม่อาจดำเนินการบังคับคดีให้เป็นตามลำดับต่อไปได้ จึงเป็นกรณีสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้ ที่ศาลพิพากษาให้จำเลยไถ่ถอนจำนอง หากจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองให้โจทก์ไถ่ถอนจำนองได้เองโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นนั้นไม่เป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์: ตัวการต้องรับผิดต่อผู้ซื้อสุจริตแม้ยังไม่ได้รับเงินจากตัวแทน
การที่จำเลยที่ 2 ติดต่อขอซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 โดยมีข้อตกลงให้จำเลยที่ 1ส่งมอบรถยนต์ ณ สำนักงานของจำเลยที่ 2 หากมีลูกค้ามาติดต่อขอซื้อรถยนต์และจำเลยที่ 2 ขายได้แล้ว จำเลยที่ 2 จะส่งมอบเงินค่ารถยนต์ให้แก่จำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 1จะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่ลูกค้าผู้ซื้อ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ติดต่อขายรถยนต์ด้วยวิธีการดังกล่าวหลายครั้ง แสดงว่าขณะที่จำเลยที่ 2 ครอบครองรถยนต์พิพาทและเสนอขายให้แก่โจทก์นั้น กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทยังคงเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดเวลาจนกว่าจำเลยที่ 2 จะได้รับชำระเงินค่ารถยนต์พิพาทจากโจทก์และนำเงินดังกล่าวมาชำระราคาค่ารถยนต์พิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 ครบถ้วนแล้ว พฤติการณ์ระหว่างจำเลยที่ 1 และที่ 2 ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อและยอมให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนทำการออกหน้าเป็นตัวการว่าเป็นเจ้าของหรือผู้มีสิทธิขายรถยนต์พิพาท เมื่อโจทก์ซื้อรถยนต์พิพาทมาโดยสุจริต จำเลยที่ 1 ในฐานะตัวการจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตมิให้ต้องเสื่อมเสียสิทธิอันเนื่องมาจากข้อตกลงของจำเลยทั้งสองเมื่อโจทก์ชำระราคาค่ารถยนต์พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ครบถ้วนแล้วจำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่จะต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์พิพาทให้แก่โจทก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อและตัวแทน: ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากการซื้อขายรถยนต์
ขณะที่จำเลยที่ 2 ครอบครองรถยนต์และเสนอขายให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองตกลงกันไว้ว่ากรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังเป็นของจำเลยที่ 1 จนกว่าจำเลยที่ 2 จะได้รับชำระเงินค่ารถยนต์จากโจทก์และนำมาชำระค่ารถยนต์ให้แก่จำเลยที่ 1 ครบถ้วนแล้วจำเลยที่ 1 จึงจะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อและยอมให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนทำการออกหน้าเป็นตัวการว่าเป็นเจ้าของหรือผู้มีสิทธิขายรถยนต์ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้สุจริตมิให้ต้องเสื่อมเสียสิทธิอันเนื่องมาจากข้อตกลงของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และจำเลยที่ 1 ไม่อาจอ้างว่าหากโจทก์ตรวจสอบพบชื่อของจำเลยที่ 1 ในสมุดรับประกันและสอบถามไปก็จะทราบถึงข้อตกลงระหว่างจำเลยทั้งสองได้ ดังนั้น เมื่อโจทก์ชำระค่ารถยนต์ให้แก่จำเลยที่ 2 ครบถ้วนแล้ว จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์แก่โจทก์การที่จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้รับเงินค่ารถยนต์จากจำเลยที่ 2 ไม่เป็นข้ออ้างที่จะปฏิเสธไม่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ เพราะสิทธิหน้าที่และความรับผิดระหว่างตัวการกับตัวแทนเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะต้องว่ากล่าวเอาเองอีกส่วนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับความรับผิดที่จำเลยที่ 1 มีต่อโจทก์
of 47