พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสำเนาจากไมโครฟิล์มที่ไม่สามารถแสดงต้นฉบับได้ ไม่อาจนำสืบได้ตามกฎหมาย
บันทึกรายการขายและใบแจ้งยอดหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตของธนาคารโจทก์เป็นภาพถ่ายสำเนาเอกสารจากไมโครฟิล์ม ซึ่งต้นฉบับอยู่ที่โจทก์และไม่ปรากฏว่าต้นฉบับเอกสารได้สูญหาย ถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่น จึงต้องห้ามมิให้รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 93
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อาจนำต้นฉบับเอกสารจากไมโครฟิล์มมาแสดงได้ ทำให้ศาลไม่รับฟังหลักฐานสำเนา
บันทึกรายการขายและใบแจ้งยอดหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตของธนาคารโจทก์เป็นภาพถ่ายสำเนาเอกสารจากไมโครฟิล์มซึ่งต้นฉบับอยู่ที่โจทก์และไม่ปรากฏว่าต้นฉบับเอกสารได้สูญหายถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นจึงต้องห้ามมิให้รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสำเนาจากไมโครฟิล์มไม่อาจใช้แทนต้นฉบับได้ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93
บันทึกรายการขายและใบแจ้งยอดหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตของธนาคารโจทก์เป็นภาพถ่ายสำเนาเอกสารจากไมโครฟิล์มซึ่งต้นฉบับอยู่ที่โจทก์และไม่ปรากฎว่าต้นฉบับเอกสารได้สูญหายถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นจึงต้องห้ามมิให้รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานสัญญาซื้อขาย: สำเนาเอกสารที่ไม่สามารถแสดงต้นฉบับได้
ตามสำเนาสัญญาซื้อขายที่โจทก์อ้างส่งนั้น เป็นสำเนาเอกสารซึ่งโจทก์อ้างว่าต้นฉบับอยู่ที่จำเลย แต่จำเลยคัดค้านว่าต้นฉบับเอกสารนี้ไม่อยู่ในความครอบครองของจำเลย และนำสืบว่าไม่มีต้นฉบับเอกสารนี้ เมื่อชั้นพิจารณาโจทก์ไม่มีต้นฉบับเอกสารมาแสดงโดยไม่ปรากฏว่าต้นฉบับเอกสารหาไม่ได้เพราะสูญหายหรือถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัย การอ้างสำเนาเอกสารของโจทก์จึงรับฟังข้อความตามเอกสารไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่โจทก์อ้างเป็นสำเนา ต้นฉบับไม่อยู่ในครอบครองจำเลย ศาลไม่รับฟังสัญญา
จำเลยคัดค้านว่าสำเนาสัญญาซื้อขายที่โจทก์อ้างส่งโดยอ้างว่าต้นฉบับอยู่ที่จำเลยนั้นไม่อยู่ในความครอบครองของจำเลยและนำสืบว่าไม่มีต้นฉบับเอกสารนี้เมื่อชั้นพิจารณาโจทก์ไม่มีต้นฉบับเอกสารมาแสดงโดยไม่ปรากฏว่าหาไม่ได้เพราะสูญหายหรือถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยจึงรับฟังข้อความตามสำเนาเอกสารไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3188/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องแสดงสภาพแห่งข้อหาชัดเจน และการรับฟังสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเมื่อต้นฉบับสูญหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ถอนเงินของโจทก์จากธนาคาร2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 26 มิถุนายน 2528 เป็นเงิน 500,000 บาทครั้งที่สองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2529 เป็นเงิน 200,000 บาทและเบียดบังเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต แล้วหลบหนีไปเป็นละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ซึ่งเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องบรรยายว่าจำเลยที่ 1จงใจหรือประมาทเลินเล่ออีก คำฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม โจทก์นำสืบว่า ต้นฉบับสัญญาค้ำประกันสูญหายเพราะถูกจำเลยที่ 1ลักไป ได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจไว้แล้ว อันเป็นการแสดงเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถส่งต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐานได้การที่ศาลชั้นต้นรับฟังสำเนาสัญญาค้ำประกัน จึงเท่ากับศาลชั้นต้นอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ศาลย่อมรับฟังสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเอกสารได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การรับฟังสำเนาเอกสารเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) หาใช่เป็นการรับฟังต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐาน อันจะต้องปิดอากรแสตมป์ที่ต้นฉบับนั้นไม่ ทั้งสำเนาเอกสารดังกล่าวก็มิใช่ต้นฉบับหรือคู่ฉบับหรือคู่ฉีก จึงไม่อยู่ในบังคับที่ต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3418/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สัญญากู้ยืมเงินสำเนาเป็นหลักฐานฟ้องร้องได้เมื่อต้นฉบับไม่อยู่ในการครอบครองของผู้มีหน้าที่นำสืบ
สัญญากู้เงินได้ทำไว้ 2 ฉบับ โดยขณะทำสัญญาได้ใช้กระดาษก๊อปปี้คั่นกลาง ต้นฉบับอยู่ที่จำเลยซึ่งเป็นผู้กู้ ส่วนฉบับสำเนาอยู่ที่โจทก์ ดังนี้ สำเนาสัญญาไม่ใช่เอกสารปลอม เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยและนำสืบพยานหลักฐานแสดงให้เห็นแล้วว่าต้นฉบับเอกสารนำมาไม่ได้ จึงรับฟังสำเนาสัญญากู้ดังกล่าวได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 93(2) เท่ากับโจทก์มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ จึงฟ้องร้องบังคับคดีจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3418/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาสำเนาใช้ฟ้องร้องได้ หากต้นฉบับไม่อยู่ในความครอบครองของศาล หรือคู่ความ
โจทก์จำเลยทำสัญญากู้ 2 ฉบับ โดยใช้กระดาษก๊อปปี้คั่นกลางต้นฉบับอยู่ที่จำเลย ฉบับสำเนาอยู่ที่โจทก์ เมื่อโจทก์นำสืบว่าต้นฉบับสัญญากู้นำมาไม่ได้ จึงรับฟังสัญญาฉบับสำเนาซึ่งอยู่ที่โจทก์ได้ เท่ากับโจทก์มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือฟ้องร้องบังคับคดีจำเลยได้ตามกฎหมายแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4558/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสำเนาเอกสารเป็นหลักฐาน: ต้องแสดงเหตุต้นฉบับหายหรือเข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย จึงจะรับฟังได้
โจทก์ส่งสำเนา (ภาพถ่ายเอกสาร) หนังสือรับสภาพหนี้ของจำเลยเป็นพยานต่อศาล โดยมิได้นำสืบหรือแถลงโดยชัดแจ้งให้รับฟังได้ว่าต้นฉบับเอกสารดังกล่าวหายสาบสูญหรือค้นหาไม่พบหรือถูกทำลายโดยเหตุสุดวิสัยหรือไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นกรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 93(2) ซึ่งทำให้โจทก์มีสิทธินำสำเนา (ภาพถ่ายเอกสาร) หรือพยานบุคคลมาสืบได้ และการที่ศาลรับสำเนาหนังสือดังกล่าวไว้ระหว่างพิจารณา จะถือว่าเป็นการที่ศาลอนุญาตให้โจทก์อ้างสำเนาหรือพยานบุคคลมาสืบโดยปริยายแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเอกสาร: การส่งต้นฉบับต่อศาลและรับคืนโดยส่งสำเนา ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ หากคู่ความไม่คัดค้าน
การที่โจทก์นำสืบเอกสารโดยส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวต่อศาลและขอรับคืนไปโดยขอส่งสำเนาไว้แทนเมื่อจำเลยมิได้คัดค้านการนำสืบเอกสารนั้นโดยเหตุที่ว่าไม่มีต้นฉบับหรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือแต่บางส่วนหรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องตรงกับต้นฉบับย่อมต้องฟังว่าต้นฉบับเอกสารนั้นมีอยู่แท้จริงและถูกต้องและรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้.