คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ต้องห้ามฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 24 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4613/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษจำคุกและการรอการลงโทษ ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือนและให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเกินหนึ่งปี เป็นคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2355/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษโดยรอการลงโทษ ถือเป็นคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
ในการที่จะปรับว่าคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ ต้องพิจารณากระทงความผิดเป็นกระทงกระทงไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยที่ 1 กระทงแรก 4,000 บาท และให้จำคุกจำเลยที่ 1 อีก 2 กระทง กระทงละ 1 ปี และศาลอุทธรณ์ก็ยังคงลงโทษจำเลยที่ 1 ไม่ เกินกำหนดที่ว่ามานี้ ถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้อันเป็นการแก้มากก็ตาม ก็ต้องถือว่าเป็นคดีที่ห้ามมิให้คู่ความ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่พิพาทเป็นเหตุให้ฎีกาฐานบุกรุกต้องห้าม และคดีแพ่งต้องอ้างอิงข้อเท็จจริงจากคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือละเมิดทางแพ่ง พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ส่วนคดีทางแพ่งที่ขอให้ขับไล่จำเลยนั้น เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีสิทธิขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2905/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาจำเลยอุทธรณ์เรื่องอายุความและฟ้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาคงอุทธรณ์แต่ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและคดีขาดอายุความแล้วเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงเป็นอันยุติ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยอุทธรณ์โดยมิได้วินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงจึงชอบแล้ว
ฟ้องที่บรรยายครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว ย่อมไม่เคลือบคลุม
เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เพิ่งทราบว่าจำเลยฉ้อโกงโจทก์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2517 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2518 ยังไม่เกิน 3 เดือนจึงยังไม่ขาดอายุความ จำเลยฎีกาโต้แย้งว่าโจทก์ทราบว่าจำเลยฉ้อโกงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2512 แล้ว เป็นการฎีกาโต้แย้งในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับโดยศาลอุทธรณ์ไม่ถือเป็นการแก้บท ฎีกาโจทก์เกี่ยวกับดุลพินิจโทษจึงต้องห้าม
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุกจำเลย3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับโดยศาลอุทธรณ์ ไม่ถือเป็นการแก้บท ฎีกาโจทก์ขอลงโทษทั้งจำและปรับ เป็นปัญหาดุลพินิจข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุกจำเลย 3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามฎีกาหากยังไม่ทำให้คดีเสร็จสิ้น การงดการพิจารณาคดีรอผลคดีอื่นก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยเรื่องมีเหตุสมควรจะสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ จำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาล ศาลถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามคำร้อง จึงสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย แต่ยังคงสั่งให้นัดพิจารณาพยานโจทก์ต่อไป คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เพราะยังไม่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) และมาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลสั่งรอคดีแพ่งชั่วคราว ฟังผลคดีอาญา: การวินิจฉัยศาลล่างเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
การที่จะสั่งให้รอคดีแพ่งไว้ฟังผลคดีอาญานั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 39 เป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจเมื่อเห็นสมควรจะสั่งให้รอคดีไว้ก็ได้
เมื่อศาลทั้งสองใช้ดุลพินิจสั่งไม่ให้รอคดีไว้แล้วเป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 2,000 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตามข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ที่ดินรายพิพาททั้งแปลงเป็นของจำเลยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้แบ่งปันแก่โจทก์กึ่ง หนึ่งดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 2,000 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตามข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ที่ดินรายพิพาททั้งแปลงเป็นของจำเลย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้แบ่งปันแก่โจทก์กึ่งหนึ่ง ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
of 3