คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ถอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก กรณีทรัพย์สินถูกยกให้ก่อนเสียชีวิต
คำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านอ้างว่า ทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งได้แก่ที่ดิน 2 แปลง ผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านทั้งสอง ก่อนผู้ตายถึงแก่-ความตาย จึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออีก และผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกรายนี้ซึ่งถ้าได้ความตามคำร้องขอของผู้คัดค้าน กรณีย่อมถือได้ว่าคดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดทรัพย์ชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ก่อนพิพากษา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี และสิทธิในการถอนเงินประกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ในระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยศาลได้มีคำสั่งอายัดที่ดินดังกล่าวไปยังเจ้าพนักงานที่ดินแล้วเมื่อโจทก์ขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาและศาลได้ออกหมายอายัดชั่วคราวส่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินและจำเลยแล้วเป็นเพียงการสั่งห้ามชั่วคราวเท่านั้นยังไม่มีกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเข้ามาอายัดที่ดินพิพาทกรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของตาราง5ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่โจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี เมื่อเป็นกรณีที่โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามตาราง5ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโจทก์จึงมีสิทธิถอนเงินประกันค่าเสียหายที่ศาลมีคำสั่งให้วางไว้ได้ทันทีเมื่อศาลมีคำสั่งถอนหมายอายัดชั่วคราวซึ่งมีผลเท่ากับถอนคำสั่งห้ามชั่วคราวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการมรดกจดทะเบียนรับโอนทรัพย์มรดกแต่ผู้เดียวเป็นเหตุให้ถูกถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดก
จำเลยในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกไปจดทะเบียนรับโอนที่พิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายมาเป็นของจำเลยแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่แบ่งปันให้แก่ทายาทเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นการละเลยไม่กระทำตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดก จึงมีเหตุถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: การก่อสร้างกีดขวางทางภารจำยอม แม้ได้รับอนุญาต ก็สามารถถอนได้หากไม่จำเป็นต่อการใช้ภารจำยอม
ทางพิพาทตกอยู่ในภารจำยอมเพียงให้คนและยานพาหนะผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะเท่านั้น จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะปลูกสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาทเพราะมิใช่การอันจำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภารจำยอม การที่เจ้าของที่ดินเดิมอนุญาตให้จำเลยทั้งสองก่อสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาท การอนุญาตหาได้มีข้อผูกพันให้มีผลอยู่ตลอดไปไม่ เจ้าของที่ดินเดิมหรือโจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของที่ดินเดิม จะถอนการอนุญาตเสียในเวลาใดก็ย่อมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4688/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดกและการตั้งผู้จัดการมรดกใหม่เมื่อมีการแบ่งมรดกแล้วแต่ยังไม่จดทะเบียน
มารดาผู้ร้องและคัดค้านได้แบ่งที่ดินมรดกของบิดาให้ทายาททุกคน ซึ่งรวมทั้งผู้ร้องและผู้คัดค้าน ได้ เข้าครอบครองเป็นสัดส่วนแล้ว เป็นการแบ่งปันทรัพย์มรดก โดยชอบด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 วรรคแรกเมื่อผู้ร้องได้ขายที่ดินมรดกที่ได้รับแบ่งให้ไปแล้วจึงไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกอีก แม้ต่อมาผู้ร้องได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกของบิดาก็ไม่มีสิทธิจัดการมรดก ดังนั้น เมื่อผู้ร้องขอจะใช้อำนาจผู้จัดการมรดกมาเรียกร้องเอาส่วนแบ่งใหม่ให้ผิดไป จากที่ได้แบ่งปันกันไปแล้ว จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกระทบกระเทือนสิทธิของผู้คัดค้านและทายาทอื่นซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกส่วนของตนอยู่ มีเหตุสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 แม้มีการแบ่งปันที่ดินมรดกโดยผู้คัดค้านและทายาทอื่นเข้าครอบครองเป็นส่วนสัดแล้วก็ตาม แต่ที่ดินมรดกรายนี้เป็นที่ดินมี น.ส.3 และยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยกทั้งเคยมีการไปขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินดำเนินการ แบ่งแยกทะเบียน แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะดำเนินการแบ่งแยกทางทะเบียนให้โดยอ้างว่าต้องให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขอแบ่งแยกทางทะเบียน กรณีจึงพอถือได้ว่าการจัดการ หรือแบ่งปันมรดกที่ดินของผู้ตายมีเหตุขัดข้องทั้งผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามที่จะเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718จึงตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกที่ดินของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก: กรณีผู้จัดการมรดกไม่เต็มใจเข้าจัดการมรดก
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกเข้ารับตำแหน่งแล้ว ละเลยไม่จัดการมรดกตามหน้าที่ จึงให้สิทธิผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอถอนผู้จัดการมรดกเสียได้ คำร้องของ ผู้ร้องซึ่งขอให้ถอน ป. จากการเป็นผู้จัดการมรดกที่ตั้งขึ้นโดยพินัยกรรม บรรยายว่า ป. ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมปฏิเสธที่จะจัดการมรดก เป็นกรณีที่ผู้จัดการมรดกไม่เต็มใจเข้าจัดการมรดกโดยไม่เข้ารับหน้าที่ผู้จัดการมรดก จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะร้องขอถอนผู้จัดการมรดกได้ ศาลย่อมยกคำร้องดังกล่าวได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5472/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก เหตุผู้ร้องไม่มีสิทธิ/ส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
มาตรา 1727 วรรคแรก บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกได้โดยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 กรณีคือ กรณีแรกเพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่กรณีที่สองเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควร กรณีที่สองนี้มิได้จำกัดว่าจะต้องเป็นการกระทำโดยมิชอบอย่างใดอย่างหนึ่งในการทำหน้าที่ผู้จัดการมรดก แต่หมายความรวมถึงเหตุอื่นใดก็ได้ที่ทำให้ผู้จัดการมรดกไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป เช่น การเป็นผู้ไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดก หรือการขาดคุณสมบัติของผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นต้น ซึ่งเหตุเช่นว่านี้อาจมีอยู่แล้วในขณะที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกหากแต่ในขณะนั้นยังไม่ปรากฏต่อศาลก็ได้ แม้ผู้คัดค้านจะมิได้อ้างในคำร้องคัดค้านว่าผู้ร้องละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกก็ตาม แต่ก็อ้างเป็นใจความว่าผู้ร้องมิได้เป็นผู้มีสิทธิหรือผู้มีส่วนได้เสียอันจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเพราะไม่มีทรัพย์มรดกที่จะต้องจัดการเนื่องจากทรัพย์มรดกคือที่ดิน 1 แปลงตามที่ระบุในคำร้องของผู้ร้องนั้นเป็นของผู้คัดค้านทั้งสอง อันเป็นเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ผู้ร้องไม่ควรเป็นผู้จัดการมรดกต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องคัดค้านว่าไม่ใช่เรื่องขอให้เพิกถอนเพราะผู้จัดการมรดกทำผิดหน้าที่จึงไม่ชอบ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับ คำร้อง ของ ผู้คัดค้านทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3824/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดกและการใช้บทบัญญัติเรื่องอายุความในคดีมรดก
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก ซึ่ง ป.พ.พ. มาตรา 1727บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียต้องร้องขอก่อนการปัน มรดก เสร็จสิ้นกรณีมิใช่คดีฟ้องเรียกทรัพย์มรดก หรือคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 และ 1733 ที่จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดก แม้ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย และการถอนผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกจะเป็นใครก็ได้ ไม่จำต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก แต่ต้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันของผู้ตาย แม้ผู้ร้องจะไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกแต่เมื่อผู้ร้องยังไม่ได้ถูกถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องก็มีอำนาจกระทำการอันจำเป็นเพื่อจัดการมรดกซึ่งได้แก่การรวบรวมทรัพย์มรดกแล้วดำเนินการแบ่งปันให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกต่อไปถือได้ว่ากระทำแทนทายาทผู้มีสิทธิและในกรณีที่มีผู้จัดการมรดกหลายคน การทำหน้าที่ของผู้จัดการมรดกต้องร่วมกันจัดการและถือเอาเสียงข้างมาก จะจัดการโดยลำพังไม่ได้ หากผู้คัดค้านทั้งสองละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ผู้จัดการมรดกหรือมีเหตุให้เพิกถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องก็มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้คัดค้านทั้งสองออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดกและแต่งตั้งใหม่ตามพินัยกรรมที่ยกทรัพย์สินให้กุศลสาธารณะ
ผู้คัดค้านได้ยื่นบัญชีพยานระบุว่าพินัยกรรมของผู้ตายอยู่ที่ผู้ร้อง และได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ออกคำสั่งเรียกพินัยกรรมดังกล่าวจากผู้ร้อง 2 ครั้ง ศาลชั้นต้นออกคำสั่งเรียกให้ตามขอวันนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้าน ผู้ร้องยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าผู้ร้องไม่เคยมีพินัยกรรมของผู้ตายไว้ในครอบครอง ดังนี้จึงเป็นเรื่องหาต้นฉบับเอกสารไม่ได้ เมื่อผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นออกคำสั่งเรียกต้นฉบับพินัยกรรมของผู้ตายจากผู้ร้อง อันเป็นการแสดงเหตุจำเป็นที่ส่งต้นฉบับเอกสารเป็นพยานไม่ได้ไว้ก่อนแล้ว การที่ศาลชั้นต้นรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวจึงเท่ากับศาลชั้นต้นอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารหรือพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) คำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกและขอตั้งผู้คัดค้านเป็นแทนนั้นไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีพยานเอกสารมาแสดงประกอบคำร้องขอทั้งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 มิได้ห้ามการนำสืบหักล้างพยานเอกสารด้วยพยานเอกสาร ผู้คัดค้านมีสิทธินำสืบเกี่ยวกับพินัยกรรมได้แม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะระบุว่าไม่มีพินัยกรรมการนำสืบของผู้คัดค้านไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านคำร้องของผู้คัดค้านว่า ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ พินัยกรรมที่ผู้คัดค้านอ้างเป็นพินัยกรรมปลอม มิได้โต้เถียงว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ เพราะพยานในพินัยกรรมมิได้ลงลายมือชื่อในขณะทำพินัยกรรม ปัญหาว่าพินัยกรรมของผู้ตายเป็นโมฆะหรือไม่จึงมิใช่ประเด็นข้อพิพาทและมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แม้ปัญหาดังกล่าวจะเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรจะยกขึ้นวินิจฉัย จึงไม่รับวินิจฉัย ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดให้แก่กิจการกุศลสาธารณประโยชน์โดยตั้งให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามพินัยกรรม เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่กิจการกุศลสาธารณประโยชน์อันถือว่าผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายถูกตัดมิให้รับมรดกของผู้ตายเสียแล้ว ผู้ร้องย่อมไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตาย กรณีจึงมีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1727 และตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแทน.
of 4