คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทรัพย์สินเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งให้ลูกจ้างปฏิบัติงานแม้ในวันหยุดชอบด้วยกฎหมาย หากประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ลูกจ้างต้องรับผิด
ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้โจทก์มาปฏิบัติหน้าที่ในวันหยุดประจำสัปดาห์ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างจะสั่งได้ จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของจำเลยเสียหาย โจทก์ต้องรับผิดต่อจำเลยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1) โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3397/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการชนแล้วทรัพย์สินเสียหาย การคุ้มครองทรัพย์สิน และเหตุสุดวิสัย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผลแห่งการกระทำละเมิด ทำให้สังกะสีที่โจทก์บรรทุกรถมาแตกเสียหายและสูญหาย โดยบรรยายขนาดของสังกะสีแต่ละขนาดและจำนวนแผ่นของสังกะสีขนาดนั้น ๆ ที่เสียหายและสูญหาย รวมทั้งราคาของสังกะสีดังกล่าว และราคาของทรัพย์สินอื่นที่ได้รับความเสียหายดังนี้เป็นฟ้องที่แจ้งชัดแล้ว โจทก์ไม่จำต้องแสดงหลักฐานการแจ้งความแก่ตำรวจหรือแนบสำเนารายการทรัพย์สินที่เสียหายมาท้ายฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจ้างบรรทุกสินค้าย่อมจะต้องมีความรับผิดต่อผู้ว่าจ้างบรรทุกสินค้า จึงย่อมมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุให้รับผิดในผลละเมิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ลูกจ้างผู้ขับรถ สำหรับความเสียหายของสินค้าที่รับจ้างมาอยู่แล้วข้อเท็จจริงที่ว่าสินค้าจะเป็นของ ต. ตามที่โจทก์อ้างหรือไม่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่จำเลยที่ 2
ปัญหาที่ว่ารถโจทก์บรรทุกสังกะสีมาเป็นจำนวนเท่าใดและเหตุที่เกิดขึ้นทำให้สังกะสีต้องบุบสลายเสียหายไปเป็นจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นแม้ปัญหาดังกล่าวศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมา ก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ทรัพย์สินของโจทก์ต้องบุบสลาย เสียหายและสูญหายเพราะเกิดจากผลแห่งการละเมิดของจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในฐานะนายจ้างด้วยโดยตรง แม้คนของโจทก์หรือคนของจำเลยที่ 2 ต่างก็ไม่สามารถคุ้มครองทรัพย์สินเหล่านั้นได้ความเสียหายของโจทก์ในส่วนนี้จึงเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดไม่ใช่เหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างเจ้าของทรัพย์ที่เสียหายไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์ที่จำเลยทำให้เสื่อมค่าไร้ประโยชน์ เป็นของ ส. แต่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นทรัพย์ของ ศ. เกิดเหตุในร้านของ ศ. ซึ่ง ส. อาศัยอยู่และขณะนั้น ส.อยู่ในร้านด้วย ก็ไม่เป็นเหตุที่ศาลจะยกฟ้องในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ด้วยข้อแตกต่างดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะนำสืบอ้างฐานที่อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำให้เกิดระเบิดโดยประมาท หรือเจตนาฆ่าตัวตาย จนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 222
ปกติลูกระเบิดเป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อถอดสลักลูกระเบิดหรือสลักนิรภัยออกแล้วย่อมจะต้องระเบิดขึ้นทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ จำเลยทำให้เกิดระเบิดโดยเจตนาฆ่าตัวตาย เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 222

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำให้เกิดระเบิดโดยประมาท หรือเจตนาฆ่าตัวตาย จนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นความผิดอาญา
ปกติลูกระเบิดเป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อถอดสลักลูกระเบิดหรือสลักนิรภัยออกแล้วย่อมจะต้องระเบิดขึ้นทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้จำเลยทำให้เกิดระเบิดโดยเจตนาฆ่าตัวตายเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 222

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากการก่อสร้างที่ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการตอกเสาเข็ม
จำเลยจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างตึกความเสียหายแก่ตึกของโจทก์เกิดจากการตอกเสาเข็มในการก่อสร้างตึกของจำเลย จำเลยเป็นผู้เลือกหาผู้รับจ้างและการก่อสร้างต้องเป็นไปตามการงานที่จำเลยสั่งให้ทำตามข้อบังคับในสัญญาจ้าง จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์ที่เกิดขึ้นจากการตอกเสาเข็ม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำลายทรัพย์สินโดยเจตนาและพฤติการณ์ที่แสดงเจตนาพิเศษ (มาตรา 358, 83)
จำเลยที่ 4 นั่งมาในรถที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับ จำเลยที่ 1 ขับรถปาดหน้ารถยนต์โจทก์ร่วม และเมื่อโจทก์ร่วมได้ขับรถแซงรถของจำเลยขึ้นไป รถของจำเลยเร่งแซงขึ้นหน้าและได้มีการมองหน้ากัน ในขณะที่รถจำเลยแซงขึ้นหน้าไปนั้นเอง จำเลยที่ 4 ได้ขว้างก้อนอิฐมาถูกกระจำหน้ารถโจทก์ร่วมแตก เมื่อถูกขว้างรถ โจทก์ร่วมก็ขับรถตามไปจนทันและร้องบอกให้รถจำเลยหยุด จำเลยที่ 1 ก็ไม่หยุดกลับขับเบียดกระโปรงข้างหน้ารถของโจทก์ร่วม เป็นพฤติการณ์แวดล้อมที่ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 4 กระทำผิดด้วยกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 358

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำลายทรัพย์สิน: แม้มีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่การกระทำที่ทำให้ทรัพย์สินเสียหายถือเป็นความผิด
การที่จำเลยถ่อเรือเข้าไปตัดใบบัวในหนองสาธารณะซึ่งผู้เสียหายปลูกต้นข้าวไว้โดยต้นข้าวขึ้นปะปนอยู่กับกอบัวจนเป็นเหตุให้ต้นข้าวเน่าตายไปจำนวนหนึ่ง เช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นอยู่ว่าการถ่อเรือเข้าไปในป่าข้าวทำความเสียหายแก่ต้นข้าวได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเจตนาทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในสัญญาจ้างดูแลทรัพย์สิน กรณีประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
จำเลยทำสัญญารับจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางให้โจทก์ จำเลยก็ต้องรักษาไม้ของกลางให้อยู่ในสภาพปลอดภัย แต่จำเลยมิได้ทำการอย่างใดเพื่อป้องกันไฟป่า ซึ่งถ้าจำเลยกระทำการป้องกันไว้ก่อนไฟป่าอาจไม่ลุกลามมาถึงกองไม้ ดังนั้นการที่ไฟป่าไหม้ไม้ของกลางจึงมิใช่เหตุสุดวิสัย แต่เป็นเพราะจำเลยประมาทเลินเล่อไม่ใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูแลเฝ้ารักษาไม้ของกลางให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายของบุตรที่บิดารับรอง กรณีรถชนเสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหาย
กรณีผู้ละเมิดขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ของบิดาโจทก์เสียหายและเป็นเหตุให้บิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย โจทก์ซึ่งเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดาโจทก์ผู้ตายรับรองแล้ว มีสิทธิฟ้องเรียกร้องค่าปลงศพของบิดาโจทก์ผู้ตาย และมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนรถยนต์ของบิดาโจทก์ที่ถูกชนเสียหายนั้นด้วย
of 4