พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหลังมรณะ พินัยกรรมสั่งให้เป็นของกลาง และการก่อตั้งทรัสต์ที่ไม่สมบูรณ์
ตามหลักกฎหมายทั่วไปไม่ว่าจะก่อนประมวลกฎหมายหรือภายหลังประมวลกฎหมายก็ดีเมื่อคนหนึ่งตายลงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหลายของคนตายนั้นจะต้องตกทอดในที่สุดแม้จะไม่มีทายาท ก็จะต้องตกเป็นของรัฐ
ข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ทรัพย์สินเป็นของกลางโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้และไม่เป็นกรรมสิทธิ์แก่ใครนั้นเป็นการเลิกล้างกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
ความสำคัญในเรื่องทรัสต์คือการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือสั่งให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปอยู่แก่ทรัสตีโดยมีเงื่อนไขคำมั่นมัดทรัสตีอยู่ว่าทรัสตีจะต้องถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นเพื่อจัดการให้ผู้รับประโยชน์ได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ให้เป็นที่แน่นอน
คำสั่งในพินัยกรรมที่ว่า เมื่อญาติพี่น้องของผู้ตายคนใดจะมาอยู่อาศัยในที่ดินของผู้ตายก็อยู่ได้แต่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองทรัพย์สินนั้นก่อนเมื่อผู้ปกครองทรัพย์เห็นสมควรอนุญาตให้แล้ว จึงจะอยู่ได้ดังนี้ได้ชื่อว่าการตั้งทรัสต์มิได้ระบุตัวผู้รับประโยชน์โดยแน่นอน เป็นการขาดหลักในเรื่องทรัสต์ที่ได้ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไป
ข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ทรัพย์สินเป็นของกลางโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้และไม่เป็นกรรมสิทธิ์แก่ใครนั้นเป็นการเลิกล้างกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
ความสำคัญในเรื่องทรัสต์คือการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือสั่งให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปอยู่แก่ทรัสตีโดยมีเงื่อนไขคำมั่นมัดทรัสตีอยู่ว่าทรัสตีจะต้องถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นเพื่อจัดการให้ผู้รับประโยชน์ได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ให้เป็นที่แน่นอน
คำสั่งในพินัยกรรมที่ว่า เมื่อญาติพี่น้องของผู้ตายคนใดจะมาอยู่อาศัยในที่ดินของผู้ตายก็อยู่ได้แต่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองทรัพย์สินนั้นก่อนเมื่อผู้ปกครองทรัพย์เห็นสมควรอนุญาตให้แล้ว จึงจะอยู่ได้ดังนี้ได้ชื่อว่าการตั้งทรัสต์มิได้ระบุตัวผู้รับประโยชน์โดยแน่นอน เป็นการขาดหลักในเรื่องทรัสต์ที่ได้ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัสต์เก่ากว่า 50 ปี ข้อพิพาทหน้าที่ทรัสตี ศาลยืนตามเดิม
จ. ยอมให้ที่ดินเป็นทรัสต์ทำสุเหร่า จึงให้ลงชื่อสุเหร่าในโฉนดแต่เดิม แล้วเปลี่ยนจากชื่อสุเหร่าเป็นชื่อทรัสตี ได้ชื่อว่า จ. ได้สละที่ดินไปแล้ว ไม่ใช่ทรัพย์ของ จ. ทายาทของ จ. ไม่เคยครอบครองที่ดินและทรัสตีก็ไม่ได้ครอบครองแทนทายาทของจ. จ.จะขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินนั้นไม่ใช่ทรัสต์ไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การรับรองกันว่า ตั้งทรัสต์โดยชอบ เมื่อ พ.ศ.2443 คงเถียงกันว่า ทรัสตีทำผิดหน้าที่ควรถอดถอนหรือไม่ ศาลยกฟ้อง โจทก์จะฎีกาว่า ทรัสตีตั้งมา 50ปีแล้ว ควรสิ้นสภาพอ้างว่า เป็นข้อที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังนี้ ฎีกาโจทก์ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่โต้เถียงกันในฟ้องและคำให้การเลย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ตามฟ้องและคำให้การรับรองกันว่า ตั้งทรัสต์โดยชอบ เมื่อ พ.ศ.2443 คงเถียงกันว่า ทรัสตีทำผิดหน้าที่ควรถอดถอนหรือไม่ ศาลยกฟ้อง โจทก์จะฎีกาว่า ทรัสตีตั้งมา 50ปีแล้ว ควรสิ้นสภาพอ้างว่า เป็นข้อที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังนี้ ฎีกาโจทก์ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่โต้เถียงกันในฟ้องและคำให้การเลย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัสต์มีวัตถุประสงค์ชัดเจน การฟ้องร้องต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นหน้าที่ของทรัสตี การหมดอายุทรัสต์ไม่ใช่ประเด็นที่ยกขึ้นมาได้
จ. ยอมให้ที่ดินเป็นทรัสต์ทำสุเหร่า จึงให้ลงชื่อสุเหร่าในโฉนดแต่เดิม แล้วเปลี่ยนจากชื่อสุเหร่าเป็นชื่อทรัสตี ได้ชื่อว่า จ. ได้สละที่ดินไปแล้ว ไม่ใช่ทรัพย์ของ จ. ทายาทของ จ. ไม่เคยครอบครองที่ดินและทรัสตีก็ไม่ได้ครอบครองแทนทายาทของจ. จ.จะขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินนั้นไม่ใช่ทรัสต์ไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การรับรองกันว่า ตั้งทรัสต์โดยชอบ เมื่อ พ.ศ.2443 คงเถียงกันว่า ทรัสตีทำผิดหน้าที่ควรถอดถอนหรือไม่ ศาลยกฟ้อง โจทก์จะฎีกาว่า ทรัสตีตั้งมา 50ปีแล้ว ควรสิ้นสภาพอ้างว่า เป็นข้อที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังนี้ ฎีกาโจทก์ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่โต้เถียงกันในฟ้องและคำให้การเลย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ตามฟ้องและคำให้การรับรองกันว่า ตั้งทรัสต์โดยชอบ เมื่อ พ.ศ.2443 คงเถียงกันว่า ทรัสตีทำผิดหน้าที่ควรถอดถอนหรือไม่ ศาลยกฟ้อง โจทก์จะฎีกาว่า ทรัสตีตั้งมา 50ปีแล้ว ควรสิ้นสภาพอ้างว่า เป็นข้อที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังนี้ ฎีกาโจทก์ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่โต้เถียงกันในฟ้องและคำให้การเลย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งทรัสต์ต้องมีเจตนาชัดเจน ยกทรัพย์ให้เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือสาธารณะ คำสั่งกว้างๆ ไม่ถือเป็นทรัสต์
กรณีจะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความให้เห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่า ผู้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดๆอันกำหนดตัวได้แน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ต่อไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้นเป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้างๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหนและบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อตั้งทรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้วไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมต่อไป
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ต่อไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้นเป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้างๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหนและบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อตั้งทรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้วไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และผูกมัดการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญทั่วไปไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผ้ได้รับกรรมสิทธ์นั้นจะตอ้งใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนี่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินักรรม์ว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนมไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้น เป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไร ต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประวงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ตรัสต์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัสต์ต้องมีการยกกรรมสิทธิ์และวัตถุประสงค์ชัดเจน การสั่งให้ทำบุญอย่างกว้างๆ ไม่ถือเป็นทรัสต์
ที่จะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินัยกรรมว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนม์ไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้นเป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไรต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ทรัสต์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507-508/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์โดยเสน่หาและการตั้งทรัสต์โดยไม่ทำตามแบบแผนกฎหมาย ศาลไม่รับวินิจฉัยประเด็นนอกฟ้อง
ประเด็นของโจทก์ที่ไม่ได้ว่ากล่าวมาในฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแย้งทรัพย์จากทรัสต์: คดีทรัสต์ก่อนใช้ประมวลแพ่ง ไม่ถูกจำกัดด้วยอายุความ 10 ปี
การฟ้องขอแย่งทรัพย์จากทรัสต์ผู้ถือกองมฤดกไว้ให้แก่ทายาทนั้น ไม่มีกำหนดอายุความ แม้เกิน 10 ปี แล้ว ท่ายาทก็ยังฟ้องได้
ศาลไทยก่อนใช้ประมวลแพ่ง บรรพ 6 ยอมรับรองและบังคับบัญชาในคดีเรื่องทรัสต์ให้
กรณีที่พิพาทกันเรื่องทรัสต์ซึ่งเกิดก่อนใช้ประมวลแพ่ง บรรพ 6 แม้จะพิจารณาเมื่อใช้ประมวลแพ่งบรรพ 6 แล้ว ก็ต้องบังคับตามกฎหมายเก่า
ฏีกาอุทธรณ์ สัญญาทางพระราชไมตรีคดีคนในบังคับอังกฤษเป็นคู่ความฏีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย พ.ร.บ. วิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 115
ศาลไทยก่อนใช้ประมวลแพ่ง บรรพ 6 ยอมรับรองและบังคับบัญชาในคดีเรื่องทรัสต์ให้
กรณีที่พิพาทกันเรื่องทรัสต์ซึ่งเกิดก่อนใช้ประมวลแพ่ง บรรพ 6 แม้จะพิจารณาเมื่อใช้ประมวลแพ่งบรรพ 6 แล้ว ก็ต้องบังคับตามกฎหมายเก่า
ฏีกาอุทธรณ์ สัญญาทางพระราชไมตรีคดีคนในบังคับอังกฤษเป็นคู่ความฏีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย พ.ร.บ. วิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 115
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลทรัพย์สินตามสัญญาจัดตั้งทรัสต์เมื่อผู้ดูแลเดิมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
เมื่อใดตรัสต์ได้เกิดขึ้น+ไม่สมัคร์จะเป็นต่อไปตรัสต์อื่นขอให้ตั้งคนใหม่แทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7278-7279/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งทรัสตี: ผู้มีส่วนได้เสีย, ความเหมาะสม, และการดูแลทรัพย์สินตามวัตถุประสงค์ของทรัสต์
ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นที่ดินที่ชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยนที่มาจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ร่วมกันออกเงินซื้อมาก่อตั้งเป็นทรัสต์เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังศพของชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยน เมื่อทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าจัดตั้งขึ้นก่อน ป.พ.พ. บรรพ 6 มาตรา 1686 ประกาศใช้ย่อมมีผลใช้บังคับกันได้ต่อไปไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด เว้นแต่ผู้รับประโยชน์ทุกคนตกลงให้เลิกกันเมื่อ ล ทรัสตีคนเดิมถึงแก่ความตาย ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการย่อมร้องขอต่อศาลให้ตั้งทรัสตีคนใหม่แทนเพื่อให้ทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋ามีผู้ดูแลจัดการได้ต่อไป
ผู้ร้องเป็นทายาทของ ต ชั้นหลานและศพของ ต ได้ฝังอยู่ในป่าช้าจีนบ้าบ๋า ซึ่งผู้ร้องและญาติได้มาเคารพกราบไหว้ตามประเพณี เมื่อที่ดินดังกล่าว ต ล และชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยนที่มาจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ร่วมกันออกเงินซื้อมาจัดตั้งเป็นทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังศพของชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยนมิใช่เพื่อชาวจีนกลุ่มอื่น ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นทรัสตีของทรัสต์ป่าช้าบ้าบ๋าได้
ส่วนผู้คัดค้านที่ 3 เป็นชาวจีนแคะ แม้มีบิดาเลี้ยงเป็นชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยน ผู้คัดค้านที่ 3 ก็มิได้เกี่ยวข้องกับบิดาเลี้ยงทางสายโลหิต ย่อมไม่มีบรรพบุรุษฝังอยู่ในป่าช้าจีนบ้าบ๋า และเมื่อผู้คัดค้านที่ 3 เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 3 ครอบครองปรปักษ์ที่ดินป่าช้าจีนบ้าบ๋าซึ่งศาลฎีกาตัดสินว่า การดำเนินคดีของผู้คัดค้านที่ 3 กระทำโดยไม่สุจริต แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจบังคับได้ ผู้คัดค้านที่ 3 ซึ่งเป็นคู่ความย่อมต้องผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 ดังนั้น ผู้คัดค้านที่ 3 จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินที่จะขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านที่ 3 เป็นทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าแทน ล ทรัสตีคนเดิม ปัญหาดังกล่าวแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 และ 247
ผู้ร้องเป็นทายาทของ ต ชั้นหลานและศพของ ต ได้ฝังอยู่ในป่าช้าจีนบ้าบ๋า ซึ่งผู้ร้องและญาติได้มาเคารพกราบไหว้ตามประเพณี เมื่อที่ดินดังกล่าว ต ล และชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยนที่มาจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ร่วมกันออกเงินซื้อมาจัดตั้งเป็นทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังศพของชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยนมิใช่เพื่อชาวจีนกลุ่มอื่น ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นทรัสตีของทรัสต์ป่าช้าบ้าบ๋าได้
ส่วนผู้คัดค้านที่ 3 เป็นชาวจีนแคะ แม้มีบิดาเลี้ยงเป็นชาวจีนบ้าบ๋าหรือฮกเกี้ยน ผู้คัดค้านที่ 3 ก็มิได้เกี่ยวข้องกับบิดาเลี้ยงทางสายโลหิต ย่อมไม่มีบรรพบุรุษฝังอยู่ในป่าช้าจีนบ้าบ๋า และเมื่อผู้คัดค้านที่ 3 เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 3 ครอบครองปรปักษ์ที่ดินป่าช้าจีนบ้าบ๋าซึ่งศาลฎีกาตัดสินว่า การดำเนินคดีของผู้คัดค้านที่ 3 กระทำโดยไม่สุจริต แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ไม่อาจบังคับได้ ผู้คัดค้านที่ 3 ซึ่งเป็นคู่ความย่อมต้องผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 ดังนั้น ผู้คัดค้านที่ 3 จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินที่จะขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านที่ 3 เป็นทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าแทน ล ทรัสตีคนเดิม ปัญหาดังกล่าวแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาแต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 และ 247