พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของและการทำประโยชน์ต่อเนื่อง การทำประโยชน์เป็นครั้งคราวไม่เพียงพอ
ผู้ร้องเข้าไปขุดหน้าดินขายในปี 2516-2517 และดูดทรายขายในปี 2526 ในที่ดินพิพาทเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ไม่ได้กระทำสืบเนื่องติดต่อกันเป็นการเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเป็นครั้งคราว ยังไม่ได้แสดงได้โดยแจ้งชัดว่าเป็นการใช้สิทธิยึดถือครอบครองเหนือที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองในที่สาธารณะ: การครอบครองและทำประโยชน์ในหนองน้ำสาธารณะไม่ถือเป็นสิทธิครอบครอง
ประเด็นข้อพิพาทมีว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นหนองน้ำสาธารณะสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันเท่ากับวินิจฉัยว่าที่พิพาทไม่ได้เป็นของโจทก์นั่นเองจึงเป็นการวินิจฉัยตรงตามประเด็นในคดี โจทก์เพียงแต่เข้าไปขุดบ่อไว้เป็นแห่ง ๆ ในที่พิพาทซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะสำหรับประชาชนใช้ร่วมกัน เพื่อจับปลาเช่นเดียวกับจำเลยและราษฎรคนอื่น ๆ และในหน้าน้ำทุกปีน้ำท่วมพื้นที่ทั้งหมดไม่มีผู้ใดสามารถใช้ประโยชน์จากบ่อที่ขุดไว้ได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทำประโยชน์อย่างอื่นในที่พิพาท โจทก์จึงไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินด้วยการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 แม้ไม่ได้ทำประโยชน์ต่อเนื่อง ก็ไม่เสียกรรมสิทธิ์ หากไม่มีผู้อื่นแย่งกรรมสิทธิ์
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติให้กรรมสิทธิ์สิ้นสุดลงโดยการไม่ใช้ แม้โจทก์จะมิได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทนานเท่าใด ตราบใดที่ยังไม่มีผู้อื่นมาแย่งกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทไปจากโจทก์ โจทก์ก็หาเสียกรรมสิทธิ์ไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3752/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองทำประโยชน์ในที่สาธารณะ: โจทก์มีอำนาจฟ้องรบกวนสิทธิได้ แม้เป็นที่สาธารณะ
แม้ที่พิพาทจะเป็นที่สาธารณประโยชน์ของแผ่นดินซึ่งพลเมืองมีสิทธิใช้ร่วมกันแต่เมื่อโจทก์ครอบครองใช้ประโยชน์อยู่ก่อนจำเลยเข้าไปแย่งการครอบครองทำประโยชน์เช่นนี้ในระหว่างโจทก์จำเลยสิทธิของโจทก์ซึ่งมีอยู่เหนือที่พิพาทจึงดีกว่าจำเลยการที่จำเลยเข้าไปแย่งไถนาหว่านข้าวในที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ก่อนจึงเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนสิทธิของโจทก์ได้ โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่คนโดยระบุสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยจำเลยทั้งสี่บังอาจเข้าไปแย่งไถนาและหว่านข้าวในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่โจทก์ทำมา22ปีแล้วทำให้โจทก์ขาดประโยชน์คือข้าว2เกวียนเป็นเงิน6,400บาทมิใช่ฟ้องจำเลยแต่ละคนว่าต่างคนต่างทำละเมิดต่อโจทก์และที่พิพาทที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันแย่งไถนาและหว่านข้าวมีเนื้อที่7ไร่2งานอยู่ทางทิศเหนือของที่ดินโจทก์ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องส่วนคำขอบังคับของโจทก์ก็มีว่าขอให้ห้ามจำเลยทั้งสี่มิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทและใช้ค่าเสียหายปีละ6,400บาทดังนี้คำฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้วไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินปฏิรูปที่ดิน: ผู้ได้รับจัดสรรยังไม่ได้ครอบครอง การทำประโยชน์เดิมไม่ถือเป็นการรบกวน
ช.ได้รับจัดสรรที่ดินพิพาทจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฯแต่ยังไม่ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์จึงยังไม่ได้สิทธิครอบครองการที่จำเลยเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทย่อมไม่เป็นการขัดขวางรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุขของช..
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตห้ามมิให้เข้าอยู่ขัดต่อประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกฎหมายว่าด้วยการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ จึงไม่ชอบ
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บางส่วนของบางจังหวัด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในเขตจังหวัดพื้นที่นั้น ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 (ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว) เป็นประกาศที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม การที่จำเลยออกหนังสืออนุญาตให้โจทก์เข้าไปทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช อันเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตห้ามมิให้บุคคลเข้าไปหรืออาศัยอยู่ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์แล้ว จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี หนังสืออนุญาตดังกล่าวจึงไม่ชอบ จำเลยไม่มีสิทธิเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการออกหนังสืออนุญาตนั้นจากโจทก์ จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าธรรมเนียมที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสิทธิเช่านาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: 'ในนา' หมายถึงเฉพาะส่วนที่ทำประโยชน์แล้ว
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 38 ที่บัญญัติว่า "ถ้าการบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา 35 มาตรา 36 หรือมาตรา 37 มีผลเมื่อผู้เช่านาได้ลงมือทำประโยชน์ในนาแล้วให้ผู้เช่านามีสิทธิในนานั้นต่อไปจนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยวแล้วแต่ต้องเสียค่าเช่านาตามส่วน" นั้นคำว่า "ในนา" หมายถึงนาเฉพาะส่วนที่ผู้เช่านาได้ลงมือทำประโยชน์ไปแล้วเท่านั้น หาได้หมายความรวมถึงส่วนที่ยังมิได้ลงมือทำประโยชน์ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งที่ดินเพื่อตอบแทนการทำประโยชน์ แม้ไม่จดทะเบียน ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้ยันคู่สัญญาได้
โจทก์ตกลงจะแบ่งที่พิพาทให้จำเลยครึ่งหนึ่ง เพื่อตอบแทนการที่จำเลยเข้าถากถางที่พิพาท และปลูกไม้ยืนต้นจนให้ผล ข้อตกลงดังกล่าว แม้จะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 อันเป็นเหตุให้สิทธินั้นไม่บริบูรณ์เป็นทรัพยสิทธิ แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลสิทธิจำเลยอาจยกสิทธินั้นขึ้นยันโจทก์ ซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือโฉนดไม่เพียงพอแสดงการครอบครอง หากไม่มีหลักฐานการเข้าทำประโยชน์ชัดเจน
การถือโฉนดไม่แสดงว่าผู้ถือโฉนดครอบครองที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2679/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินมีตราจองทำประโยชน์แล้ว ถือเป็นกรรมสิทธิ์ ครอบครองปรปักษ์ 10 ปี
ที่ดินมีตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์แล้ว เป็นที่มีกรรมสิทธิ์ ตาม พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 มาตรา11วรรคสอง ต้องครอบครองปรปักษ์ 10 ปี ตาม มาตรา 1382