คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทิ้งร้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า ผู้ทิ้งร้างสิทธิขาด
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ไม่ใช่ที่ดินที่มีโฉนดและไม่ใช่ที่บ้านที่สวน โจทก์ได้ขอจับจองที่พิพาทแล้วบุกเบิกทำเป็นนาในระหว่างที่ ผู้ร้องสอดได้ทิ้งร้างที่พิพาทนี้ไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2492 โจทก์ได้เข้าครอบครองทำกินโดยสงบเปิดเผยและโดยเจตนายึดถือเป็นเจ้าของมาแต่ พ.ศ. 2495 จนถึงวันฟ้องคดีเป็นเวลา 5 ปี ผู้ร้องสอดเคยจับจองที่พิพาทไว้ แต่ได้ละทิ้งไปเสียนานเกือบ 10 ปี เช่นนี้ ผู้ร้องสอดย่อมหมดสิทธิในที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องหย่าขาดอายุความเมื่อใด? ศาลฎีกาชี้การทิ้งร้างยังไม่ขาดอายุความจนกว่าจะสิ้นสุด + ผลสัญญาประนีประนอม
เหตุหย่าในข้อจงใจละทิ้งร้างเกินกว่า 1 ปีนั้น ตราบใดที่ยังทิ้งร้างกันอยู่ ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องขอหย่าได้ไม่ขาดอายุความ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2502)
คดีก่อน ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างเหตุว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมในข้อที่กล่าวหาว่าจำเลยร้องเรียนต่อกรมมหาดไทยเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และที่ว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์นั้น ในฟ้องไม่กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อใดทิ้งร้างไปเมื่อใด โดยยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นข้อโต้เถียงเรื่องการหย่าเลย โจทก์ฟ้องคดีหลังกล่าวหาว่าจำเลยร้องเรียนต่อกรมมหาดไทย และร้องเรียนต่อสภาวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันเป็นการกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน และว่าจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์เป็นเวลากว่า 1 ปี เป็นคนละประเด็น คนละเหตุไม่เป็นฟ้องซ้ำ
กล่าวฟ้องว่า จำเลยมีเจตนาจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไป ย่อมแสดงความหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่จำต้องกล่าวว่ากระทำการอย่างใดอันได้ชื่อว่าเป็นการจงใจละทิ้งร้าง ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม
เมื่อปรากฏว่า โจทก์เองก็ไม่ต้องการจะให้จำเลยมาอยู่ร่วมกับโจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุว่าจำเลยมีเจตนาจงใจละทิ้งร้างโจทก์หาได้ไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอหย่าจำเลยตามข้ออ้างเช่นว่านี้
โจทก์ฟ้องขอหย่าอ้างเหตุว่า จำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน แต่ปรากฏว่า เป็นเรื่องเกิดขึ้นก่อนที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกัน โจทก์จะอ้างเหตุที่ว่านั้นมาเป็นข้อฟ้องหย่าหาได้ไม่ เพราะผลของสัญญาประนีประนอมนั้น ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่าจากการระหองระแหง, ทิ้งร้าง, และไม่ส่งเสียเลี้ยงดู
ตามจดหมายที่จำเลยมีไปถึงโจทก์ 2 ฉบับ แสดงออกชัดว่ามีการระหองระแหง จำเลยบอกใบ้จะมีภรรยาใหม่ รบเร้าให้เพิกถอนทะเบียนสมรส และจำเลยก็มิได้ให้เห็นเหตุเป็นอย่างอื่น จดทะเบียนสมรสแล้วหลับนอนกันคืนแรกคืนเดียวต่อๆ มายิ่งนานก็ยิ่งแสดงออกว่าหมดความรักใคร่ต่อกันยิ่งขึ้น และมิได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์มาเป็นเวลากว่าปีแล้ว ถือว่ามีเหตุสมควรที่จะให้หย่ากันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหย่าจากการทิ้งร้างและไม่อุปการะเลี้ยงดูเริ่มนับเมื่อการกระทำสิ้นสุด และการแก้ไขเลขคดีที่พิมพ์ผิดพลาดสามารถทำได้
การที่สามีหรือภริยาทิ้งร้างไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งนั้นการนับอายุความในกรณีเช่นนี้ จะต้องตั้งต้นนับเมื่อการทิ้งร่างและไม่อุปการะเลี้ยงดูนั้นได้ยุติลง ถ้ายังไม่ยุติคือ ยังคงทิ้งร้าง และไม่อุปการะเลี้ยงดูเรื่อย ๆ มาจะเป็นกี่ปีก็ตาม อายุความก็ยังไม่เริ่มนับฉะนั้น ย่อมฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุนี้ได้เสมอ ไม่ขาดอายุความ
จำเลยยื่นคำร้องในวันพิจารณาว่า อ้างเลขคดีในคำให้การของจำเลยผิดปีไปนั้น โดยพิมพ์เลข พ.ศ.2489 เป็น 2491 นั้น เป็นเรื่องไม่ใช่แก้ข้อความ แต่เป็นเรื่องแก้เลข พ.ศ. ของคดีที่พิมพ์ผิดพลาดมาเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะเพิ่งมาขอแก้ภายหลังชี้สองสถานแล้ว ก็ควรอนุญาตให้แก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหย่าจากทิ้งร้างและไม่อุปการะเลี้ยงดูเริ่มนับเมื่อสิ้นสุดการทิ้งร้าง และการแก้ไขเลขปีคดี
การที่สามีหรือภริยาทิ้งร้างไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งนั้นการนับอายุความในกรณีเช่นนี้ จะต้องตั้งต้นนับเมื่อการทิ้งร้างและไม่อุปการะเลี้ยงดูนั้นได้ยุติลง ถ้ายังไม่ยุติคือ ยังคงทิ้งร้าง และไม่อุปการะเลี้ยงดูเรื่อยๆ มาจะเป็นกี่ปีก็ตาม อายุความก็ยังไม่เริ่มนับ ฉะนั้น ย่อมฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุนี้ได้เสมอ ไม่ขาดอายุความ
จำเลยยื่นคำร้องในวันพิจารณาว่าอ้างเลขคดีในคำให้การของจำเลยผิดปีไปนั้น โดยพิมพ์เลข พ.ศ.2489 เป็น 2491 นั้น เป็นเรื่องไม่ใช่แก้ข้อความ แต่เป็นเรื่องแก้เลข พ.ศ. ของคดีที่พิมพ์ผิดพลาดมาเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะเพิ่งมาขอแก้ภายหลังชี้สองสถานแล้ว ก็ควรอนุญาตให้แก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าที่ศาลพิจารณาเหตุทิ้งร้าง แม้หนังสือหย่าไม่สมบูรณ์
โจทก์ ( ภริยา ) ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลย ( สามี ) ไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ หากไม่สามารถไปก็ขอให้มีคำสั่งให้กรมการอำเภอจดทะเบียนการหย่าให้โจทก์ ทั้งนี้โดยโจทก์อ้างเหตุว่าโจทก์จำเลยทะเลาะกันแล้วตกลงหย่ากันโดยทำหนังสือหย่ากันแล้วจำเลยก็ได้ขนทรัพย์สิ่งของอพยพไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมของจำเลย มิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์แต่อย่างใดเกิน 1 ปี ดังนี้ แม้หนังสือหย่าจะไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ศาลก็พิจารณาเหตุ ข้อที่ร้างเกิน 1 ปีเห็นเหตุหย่าได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินแล้วทิ้งร้าง ผู้ครอบครองมีสิทธิเหนือกว่า
ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปีจนมีผู้มาขอจับจองเจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครอง ดังนี้ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินทิ้งร้างและสิทธิของผู้ครอบครอง: ผู้ซื้อทิ้งที่ดินไว้นานจนถูกผู้อื่นครอบครอง ย่อมเสียสิทธิ
ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปี จนมีผู้มาขอจับจอง เจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครองดังนี้ ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละเจตนาครอบครองทรัพย์สิน: การทิ้งร้างและเจตนาสละสิทธิในทรัพย์สินโดยปริยาย
สามีจากภิริยาและบุตรไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น และไปมีภริยาใหม่ เกิดบุตรด้วยกันอีกหลายคน เป็นเวลานานเกือบ40ปี โดยไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยียนภรรยาและบุตรเดิมแบบนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า เจตนาสละการครอบครองที่นามือเปล่าที่ตนเป็นเจ้าของทำกินร่วมกับภริยาและบุตรคนเดิม ให้แก่ภิริยาและบุตรคนเดิมแล้ว
โจทก์ต้องขอแบ่งมฤดกของบิดา จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์ที่ขอแบ่ง มารดาจำเลยได้มาทางบรรพบุรุษของมารดาจำเลยดังนี้ เท่ากับต่อสู้ว่า ทรัพย์รายนี้ไม่ใช่มฤดกของบิดาโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมเป็นของบิดาโจทก์แต่บิดาโจทก์สละให้เป็นมารดาจำเลย และจำเลยแล้ว ศาลก็ตัดสินให้จำเลยชนะคดีได้ ไม่เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละการครอบครองที่ดิน: เจตนาจากพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการติดต่อและการทิ้งร้าง
สามีจากภริยาและบุตรไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น และไปมีภริยาใหม่เกิดบุตรด้วยกันอีกหลายคนเป็นเวลานานเกือบ 40 ปี โดยไม่มีการติดต่อเยี่ยมเยียนภรรยาและบุตรเดิมเลยนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า เจตนาสละการครอบครองที่นามือเปล่าที่ตนเป็นเจ้าของทำกินร่วมกับภริยาและบุตรคนเดิม ให้แก่ภริยาและบุตรคนเดิมแล้ว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดา จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์ที่ขอแบ่งมารดาจำเลยได้มาทางบรรพบุรุษของมารดาจำเลยดังนี้ เท่ากับต่อสู้ว่าทรัพย์รายนี้ไม่ใช่มรดกของบิดาโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมเป็นของบิดาโจทก์ แต่บิดาโจทก์สละให้เป็นของมารดาจำเลยและจำเลยแล้วศาลก็ตัดสินให้จำเลยชนะคดีได้ไม่เป็นการนอกประเด็นข้อต่อสู้
of 3