คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่ดินขายฝาก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนที่ดินขายฝาก: การขอไถ่ด้วยวาจาไม่สมบูรณ์ ต้องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้บังคับได้
คำว่า 'ถ้าไถ่ภายในเวลา'ตามมาตรา 492 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ย่อมหมายความว่า ได้มีการไถ่ถอนถูกต้องบริบูรณ์ตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว เท่านั้นการขอไถ่ยังหาเป็นการไถ่ไม่
สิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้นก็คือสิทธิอันหนึ่งที่ผู้ขายฝากมีอยู่ในอันที่จะเรียกร้องบังคับให้ผู้ซื้อฝากทำนิติกรรมให้กรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินนั้นกลับคืนมาสู่ตน ฉะนั้นการใช้สิทธิไถ่ถอน จึงต้องรวมตลอดถึงการฟ้องร้องต่อศาล ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ซื้อฝากกระทำการเช่นว่านั้น หรือให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของผู้ซื้อฝากในนิติกรรมเช่นนั้น
การไปพูดขอไถ่ หรือนัดให้ผู้ขายฝากไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อทำการไถ่ถอน ยังหาเป็นการใช้สิทธิไถ่ถอนไม่ เมื่อผู้จัดการซื้อฝากไม่ไปยังพนักงานเจ้าหน้าที่ตามนัด ก็เป็นการแสดงอาการปฏิเสธไม่ยอมรับไถ่ถอนอยู่ในตัวแล้ว ผู้ขายฝากย่อมต้องจัดการฟ้องร้องขอให้บังคับตามสิทธิไถ่ถอนของตนเสีย ในกำหนดอายุความไถ่ถอนตามสัญญา (อ้างฎีกาที่ 544/2490, 185/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีไถ่ถอนที่ดินขายฝากเกิน 2,000 บาท ไม่เป็นคดีต้องห้ามฎีกา ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้
คดีโจทก์ฟ้องขอไถ่ที่นาซึ่งขายฝากแก่จำเลยไว้เป็นราคา 2200 บาทจำเลยแก้ว่า ตามสัญญาขายฝากเมื่อพ้นกำหนด 7 ปี ให้ที่เป็นกรรมสิทธิแก่จำเลย โจทก์ได้ขอไถ่ถอนเมื่อพ้นกำหนดแล้ว จึงไม่มีอำนาจถอน ดังนี้ เป็นคดีพิพาทเรื่องการไถ่ถอน ซึ่งกำหนดเป็นราคาเงินได้เกินกว่า 2,000 บาท ไม่เป็นคดต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19332/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ที่ดินขายฝาก: การใช้สิทธิภายในกำหนดเวลา แม้จดทะเบียนไม่ได้ทัน
โจทก์ใช้สิทธิไถ่ที่ดินจากจำเลยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2554 อันเป็นวันครบกำหนดเวลาไถ่ที่ดินซึ่งขายฝาก โดยนำเงินสินไถ่เพื่อไปชำระให้แก่จำเลยที่บ้าน แต่จำเลยบ่ายเบี่ยงอ้างว่าหมดเวลาราชการแล้ว การกระทำของโจทก์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิไถ่ที่ดินซึ่งขายฝากต่อจำเลยภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาขายฝากโดยชอบตาม ป.พ.พ. มาตรา 492 ประกอบมาตรา 498 แล้ว จำเลยต้องรับการไถ่ แม้โจทก์ใช้สิทธิไถ่ที่ดินนั้นในเวลา 18 นาฬิกา ซึ่งล่วงพ้นเวลาราชการแล้ว และไม่สามารถจดทะเบียนการไถ่ขายฝากที่ดินในวันดังกล่าวได้ก็ตาม แต่การจดทะเบียนไถ่ทรัพย์ซึ่งขายฝาก กฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไถ่ทรัพย์คืน เมื่อโจทก์ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากนั้นต่อจำเลยภายในกำหนดเวลาไถ่ตามสัญญาขายฝากโดยชอบแล้ว จึงมีผลผูกพันใช้ยันได้ระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์ย่อมมีสิทธิไถ่ที่ดินซึ่งขายฝากได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8522/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายกำหนดเวลาไถ่ที่ดินขายฝากต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การไม่มีหลักฐานหนังสือไม่อาจรับฟังได้
ป.พ.พ. มาตรา 496 วรรคสอง บัญญัติว่า "การขยายกำหนดเวลาไถ่ตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับไถ่..." บทบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์โดยชัดแจ้ง เพื่อป้องกันข้อพิพาทโต้เถียงของคู่สัญญาว่า มีการตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่แก่กันหรือไม่ จึงได้บัญญัติว่า หากมีการขยายกำหนดเวลาไถ่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับไถ่ โจทก์มีแต่พยานบุคคลมาสืบประกอบสำเนาบันทึกแจ้งเหตุขัดข้องต่อผู้ใหญ่บ้านและสำเนารายงานประจำวันว่า จำเลยขยายกำหนดเวลาไถ่ให้ แต่โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยมาแสดง ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยได้ตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่ให้ เมื่อพ้นกำหนดเวลาไถ่แล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิไถ่ที่ดินที่ขายฝากและจำเลยย่อมมีสิทธิขับไล่โจทก์พร้อมบริวารออกจากที่ดินตามฟ้องแย้งได้
of 2