คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่ดินแบ่งแยก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3282/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องทางเดินและการพิสูจน์ภารจำยอม: ที่ดินแบ่งแยกและทางจำเป็น
ที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดตราจองที่ 3369ซึ่งมีทางออกสู่ถนนสาธารณะ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินออกสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะในที่ดินโฉนดตราจองที่ 3369ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่โจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางพิพาทในที่ดินจำเลยซึ่งเป็นที่ดินแปลงอื่นเป็นทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะหาได้ไม่ ทางพิพาทจึงไม่เป็นทางจำเป็นแก่โจทก์ โจทก์อ้างว่าใช้ทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็นทางภารจำยอม มีผลเป็นการรอนสิทธิในทรัพย์สินของบุคคลอื่น จึงต้องมีหลักฐานชัดแจ้งมั่นคงว่า โจทก์ทั้งสองใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างเป็นปรปักษ์หรือโดยพลการต่อเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อโจทก์ทั้งสองไม่ได้ใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างเป็นปรปักษ์หรือโดยพลการหากแต่มีลักษณะว่าได้ใช้สิทธิในทางพิพาทโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ ดังนั้นไม่ว่าโจทก์จะใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินเข้าออกจากที่ดินของโจทก์มานานเพียงใดก็ตามทางพิพาทก็ไม่เป็นทางภารจำยอมโดยอายุความแก่ที่ดินของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกแบ่งแยกและไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน
ที่ดินโจทก์จำเลยเดิมเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน เมื่อแบ่งแยกแล้วที่ดินโจทก์ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ โจทก์จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน และเมื่อฟังว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นแล้วก็ไม่เป็นทางภาระจำยอมอีก ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความจะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางผ่านที่ดินของผู้อื่นถูกจำกัดเฉพาะที่ดินเดิมที่แบ่งแยกมา แม้ที่ดินเดิมเคยเป็นแปลงเดียวกัน
เจ้าของที่ดินที่ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมสามารถใช้สิทธิเรียกร้องผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้ เป็นการตัดสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ จึงต้องแปลโดยเคร่งครัด จะแปลโดยอนุโลมหาได้ไม่ เมื่อที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 แม้ที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 จะเคยเป็นที่แปลงเดียวกับที่ดินจำเลยมาก่อนก็ตาม จะถือโดยอนุโลมว่าที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินจำเลยด้วยหาได้ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะภายในบริเวณที่ดินโฉนดเลขที่ 33092 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่ที่ดินโจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านที่ดินจำเลยไปสู่ทางสาธารณะไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องทางเดินเมื่อที่ดินถูกแบ่งแยก – มาตรา 1350 และวิธีบังคับคดีตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2527
เมื่อคดีฟังได้ว่าที่ดินแปลงเดิมมีทางออกไปสู่ทางสาธารณะแต่ภายหลังถูกแบ่งแยกเป็นเหตุให้ที่ดินที่ถูกแบ่งแยกออกมาซึ่งเป็นของโจทก์ไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินบนที่ดินของจำเลยซึ่งเคยเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ดินของโจทก์มาแต่เดิมได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 การที่โจทก์มีคำขอว่า หากจำเลยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างก็ขอให้บุคคลภายนอกเป็นผู้รื้อถอน โดยให้จำเลยชดใช้้ค่าใช้จ่ายนั้น เมื่อมีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2527ออกใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 12 เพิ่มเติมมาตรา 296 ทวิเปลี่ยนแปลงวิธีการดังกล่าวเป็นว่า หากลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการให้โจทก์ชอบที่จะดำเนินการตามวิธีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3660/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่บนที่ดินแบ่งแยก: ไม่เป็นฟ้องซ้ำหากเป็นคนละแปลง แม้เคยมีคดีขับไล่บนที่ดินเดิม
ที่ดินโฉนดเลขที่ 44558 ได้มีการแบ่งแยกในนามเดิมออกไป 12 แปลง คงเหลือเนื้อที่ 28 ตารางวา คดีก่อน ส.ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 44558 ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอฟังว่า จำเลยทั้งสองปลูกบ้านอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 44558 พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ต่อมา ส. ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 127496 เนื้อที่ 50 ตารางวา ซึ่งเป็นโฉนดใหม่ที่แบ่งแยกออกมาดังกล่าวให้โจทก์ทั้งสองขณะที่ ส. ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง ที่ดินโฉนดเลขที่ 44558 กับโฉนดเลขที่ 127496 เป็นที่ดินคนละแปลงกันอยู่แล้ว เมื่อโจทก์ทั้งสองซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 127496 มาจาก ส. และยื่นฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้จึงมิใช่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุเดียวกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3210/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกแบ่งแยกและขาดทางออกสู่สาธารณะ
เดิมมีที่ดินแปลงใหญ่อยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของได้แบ่งขายและแยกโฉนดไปเรื่อยๆ จนเหลือที่ดินแปลงเดิมคือที่ดินแปลงหมายเลข 6 ซึ่งเป็นของจำเลย แม้ในขณะยื่นฟ้อง พ.มารดาโจทก์ยังมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินแปลงหมายเลข 108 และ 122 ซึ่งแบ่งแยกออกมาและอยู่ติดต่อกันแต่ที่ดินทั้งสองแปลงก็เป็นที่ดินคนละโฉนด จะถือว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันไม่ได้ เมื่อที่ดินแปลงหมายเลข 122 ไม่มีทางออกไปสู่สาธารณะนอกจากที่ผ่านที่ดินแปลงหมายเลข 104 หรือแปลงหมายเลข 6 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดิมแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้เบิกทางจำเป็นบนที่ดินแปลงเดิมแปลงใดแปลงหนึ่งที่แบ่งแยกไปได้ตามความจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินแบ่งแยก: เจ้าของที่ดินเดิมมีสิทธิเรียกร้องทางผ่านแม้มีการแบ่งแยกที่ดิน ไม่มีอายุความ
ที่ดินแบ่งแยกออกเป็นหลายแปลง เจ้าของที่ดินที่แบ่งแยกเคยเดินผ่านที่ดินเดิมผ่านที่ดินที่ล้อมไปออกทางสาธารณะ เมื่อแบ่งแยกแล้วก็ยังใช้ทางผ่านที่ดินเดิมได้ตาม มาตรา1350 กรณีเช่นนี้ฟ้องขอให้เปิดทางเมื่อใดก็ได้ ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2686/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเดินทาง (ภารจำยอม/ทางจำเป็น) เมื่อที่ดินถูกแบ่งแยกและไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ การใช้สิทธิโดยปรปักษ์
ที่ดินของโจทก์ซึ่งผู้ซื้อคนก่อนและโจทก์ไม่เคยเข้าอยู่หรือเกี่ยวข้องทำประโยชน์และไม่เคยใช้ทางพิพาทเดินผ่านเข้าออกที่ดินดังกล่าว ดังนี้ โจทก์จะอ้างว่าทางพิพาทตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความหาได้ไม่ เพราะการจะได้ภารจำยอมโดยเหตุดังกล่าวจะต้องเป็นการใช้สิทธิโดยปรปักษ์เดินผ่านทางพิพาทเข้าออกที่ดินของโจทก์ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีแล้ว และเหตุเพียงแต่ว่าที่ดินของโจทก์ได้แบ่งแยกจากทางพิพาทมาเกินกว่า 10 ปี ก็หาใช่เป็นการใช้สิทธิโดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความไม่
ที่ดินโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ โจทก์มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่ที่ดินของโจทก์นี้แบ่งแยกออกมาจากที่ดินซึ่งอยู่ติดกับทางสาธารณะ จึงเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 ที่ให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกได้โจทก์จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่ และเมื่อกรณีต้องด้วยมาตรา 1350 ก็จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 มาปรับแก่คดีของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่การใช้โดยปรปักษ์, สิทธิทางผ่านในที่ดินแบ่งแยก
เมื่อก่อนแยกโฉนดที่ดินกัน ที่ดินโฉนดที่ 7371 ของจำเลยกับโฉนดที่ 7372 ของโจทก์ และที่ดินโฉนดอื่นๆ รวมอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 3604 ซึ่งเดิมเป็นของโจทก์กับบุคคลอื่น ดังนั้น แม้โจทก์จะได้เดินในที่ดินซึ่งภายหลังออกเป็นโฉนดที่ 7371 มานานเท่าใด ก็เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ มิใช่เป็นการใช้โดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความ
ที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่ที่โจทก์เป็นที่ที่แบ่งแยกออกมาจากที่ดินโฉนดที่ 3604 โจทก์มีสิทธิจะเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกได้ จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินในที่ดินเดิมของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน และสิทธิเรียกร้องทางเดินจากที่ดินแบ่งแยก
เมื่อก่อนแยกโฉนดที่ดินกัน ที่ดินโฉนดที่ 7371 ของจำเลยกับโฉนดที่ 7372 ของโจทก์ และที่ดินโฉนดอื่นๆ รวมอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 3604 ซึ่งเดิมเป็นของโจทก์กับบุคคลอื่น. ดังนั้น แม้โจทก์จะได้เดินในที่ดินซึ่งภายหลังออกเป็นโฉนดที่ 7371 มานานเท่าใด. ก็เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ มิใช่เป็นการใช้โดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความ.
ที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ. แต่ที่โจทก์เป็นที่ที่แบ่งแยกออกมาจากที่ดินโฉนดที่ 3604. โจทก์มีสิทธิจะเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกได้ จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่.
of 3