พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนด vs. ที่ธรณีสงฆ์: สิทธิของผู้เช่าหลังบอกเลิกสัญญา
ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมีโฉนด ซึ่งมีชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่า โจทก์เป็นเจ้าของมีกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินดังกล่าวเมื่อจำเลยรับว่าเช่าที่ดินพิพาทอันเป็นที่ดินบางส่วนของโฉนดดังกล่าวจากโจทก์ โจทก์ได้บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทได้ ที่จำเลยจะขอนำสืบข้อเท็จจริงที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งแห่งที่ธรณีสงฆ์วัด ต.(ร้าง) ซึ่งเป็นบุคคลที่สามจึงไม่จำเป็นเพราะที่ดินพิพาทจะเป็นส่วนหนึ่งแห่งที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบุคคลผู้มีอำนาจดูแลที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินงอกริมตลิ่ง: เจ้าของที่ดินโฉนดมีกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินงอก เว้นแต่มีการแบ่งแยกการครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 บัญญัติว่า ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น เมื่อโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ไม่ระบุว่าส่วนของคนใดมีเท่าใด และไม่มีข้อตกลงเรื่องที่งอกเป็นอย่างอื่น ต้องถือว่าโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์เท่า ๆ กัน เมื่อยังไม่มีการแบ่งแยกการครอบครองโดยเด็ดขาด จำเลยจะอ้างว่าครอบครองยึดถือที่งอกแต่ผู้เดียวมิได้ เพราะเป็นกรณียึดถือแทนโจทก์เจ้าของรวมด้วย โจทก์จำเลยจึงเป็นเจ้าของที่งอกจากที่ดินโฉนดนี้ร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดที่ดินโฉนดและที่งอกริมตลิ่งแยกเป็นสองแปลง ผู้ประมูลซื้อเฉพาะโฉนด ย่อมได้กรรมสิทธิ์เฉพาะโฉนดเท่านั้น
ที่ดินของลูกหนี้แปลงหนึ่ง เป็นที่ดินมีโฉนด ลูกหนี้ได้แยกที่งอกริมตลิ่งของที่ดินแปลงนี้ไปแจ้งการครอบครองตามแบบ ส.ค.1ไว้ ในการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจแยกขายที่ดินตามโฉนดกับที่งอกริมตลิ่งของที่ดินตามโฉนดนั้นเป็นคนละแปลงได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 123
ผู้ร้องทราบว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แยกขายที่ดินดังกล่าวออกเป็น 2 แปลงและได้ซื้อเฉพาะที่มีโฉนดไว้เพียงแปลงเดียวผู้ร้องจะอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์ที่งอกริมตลิ่งซึ่งแยกขายเป็นอีกแปลงหนึ่งนั้นไม่ได้
ผู้ร้องทราบว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แยกขายที่ดินดังกล่าวออกเป็น 2 แปลงและได้ซื้อเฉพาะที่มีโฉนดไว้เพียงแปลงเดียวผู้ร้องจะอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์ที่งอกริมตลิ่งซึ่งแยกขายเป็นอีกแปลงหนึ่งนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ของผู้ซื้อที่ดินโฉนดโดยสุจริต
ผู้ที่ครอบครองที่ดินมีโฉนดของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ถ้ายังมิได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ซื้อผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการขุดมันสำปะหลังในที่ดินโฉนดร่วม ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่ายเพื่อวินิจฉัยความผิด
ตามฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยตลอดจนข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยแถลงรับกันฟังได้ว่ามันสัมปะหลังที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขุดลักเอาไปตามฟ้องนั้นปลูกไว้ในที่ดินมีโฉนดซึ่งมีชื่อของจำเลยและนางอัวมารดาผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยถือกรรมสิทธิร่วมกัน นางอัวตายแล้วผู้เสียหายถือว่าที่ดินเป็นมรดกตกได้แก่ผู้เสียหาย ส่วนมันสำปะหลังผู้เสียหายและจำเลยต่างเกี่ยงกันว่าตนเป็นผู้ปลูกเช่นนี้จะงดสืบพยานและพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าจำเลยไม่มีเถยยะจิตเป็นโจรยังไม่ได้ มูลคดียังไม่พอวินิจฉัยชี้ชาดว่าจำเลยได้ทำผิดดังข้อหาหรือไม่จึงจำเป็นต้องฟังคำพยานทั้งสองฝ่ายให้สิ้นกระแสความก่อน.
เพราะเถียงกันว่าใครเป็นผู้ปลูกมันสำปะหลัง
เพราะเถียงกันว่าใครเป็นผู้ปลูกมันสำปะหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกริมตลิ่ง: กรรมสิทธิ์เป็นของเจ้าของที่ดินเดิม ครอบครองปรปักษ์ต้อง 10 ปี
ที่ดินซึ่งมีโฉนดมีเจ้าของกรรมสิทธิ์เกิดที่งอกริมตลิ่งออกไป ที่งอกใหม่นั้นย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินโฉนดแปลงนั้น ผู้ที่อ้างว่าเจ้าครอบครองปรปักษ์จะต้องครอบครองที่งอกริมตลิ่งนั้นเป็นเวลาสิบปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกริมตลิ่งเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินโฉนด การครอบครองปรปักษ์ต้อง 10 ปี
ที่ดินซึ่งมีโฉนดมีเจ้าของกรรมสิทธิ์เกิดที่งอกริมตลิ่งออกไปที่งอกใหม่นั้นย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินโฉนดแปลงนั้นผู้ที่อ้างว่าเข้าครอบครองปรปักษ์จะต้องครอบครองที่งอกริมตลิ่งนั้นเป็นเวลาสิบปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินโฉนดกลายเป็นทางสาธารณะได้ด้วยการอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยาย หากไม่มีหลักฐานการอุทิศ การกีดกั้นทางสาธารณะจึงไม่เป็นความผิด
ที่ดิน ทางสาธารณะ โฉนด ที่ดินในโฉนดแผนที่จะกลับกลายเป็นทางสาธารณะก็ย่อมจะมีการอุทิศโดยตรงหรือโดยปริยาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7461/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำกระโดงที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นสาธารณสมบัติ แม้ที่ดินโฉนดจะครอบคลุม ก็มิอาจหวงห้ามได้
สำเนาโฉนดที่ดินเลขที่ 120 และ 121 เป็นโฉนดที่ดินที่ออกให้ตั้งแต่รัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เมื่อปี ร.ศ.125 โดยระบุอาณาเขตของที่ดินทั้งสองแปลงว่าด้านทิศใต้จดลำกระโดงและตามรูปแผนที่ในโฉนดที่ดินก็ปรากฏว่าด้านทิศใต้ของที่ดินเป็นลำกระโดง แสดงให้เห็นว่าลำกระโดงมีมาไม่น้อยกว่า 100 ปีแล้ว โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าเป็นลำกระโดงที่มีอยู่ตามธรรมชาติหรือมีผู้ใดขุดให้เป็นลำกระโดงและขุดตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งโจทก์ที่ 1 เบิกความยอมรับว่าในสมัยก่อนเจ้าของที่ดินที่ลำกระโดงผ่านจะใช้ลำกระโดงเป็นทางออกเพื่อขนผลิตผลทางการเกษตรออกไปสู่คลองชักพระและได้ความจาก ฉ. พยานโจทก์อีกปากหนึ่งว่า ลำกระโดงมีระยะทางเริ่มต้นจากคลองชักพระไปจนถึงสวนของพยานซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ผู้อยู่อาศัยทั้งสองฝั่งของลำกระโดงจะแบ่งกันใช้น้ำและใช้ประโยชน์ในลำกระโดงร่วมกันจึงสอดคล้องกับคำเบิกความของ ว. และ บ. พยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งขณะเบิกความต่างมีอายุ 69 ปี และตั้งบ้านเรือนอยู่ริมลำกระโดงที่พิพาทมาเป็นเวลานาน โดยพยานทั้งสองเบิกความยืนยันว่า ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายเป็นต้นมาชาวบ้านบริเวณดังกล่าวใช้ลำกระโดงพิพาทเป็นทางสัญจรและใช้ขนผลิตผลทางการเกษตรโดยทางเรือออกสู่ภายนอก พยานเห็นว่าลำกระโดงพิพาทมีมาตั้งแต่เกิดและได้ใช้ลำกระโดงดังกล่าวเป็นทางสัญจรเช่นเดียวกับชาวบ้านในละแวกนั้นโดยไม่เคยมีบุคคลใดหวงห้าม เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายแล้วเห็นได้ว่าลำกระโดงสายนี้ยังมีสภาพที่ประชาชนสามารถใช้เรือสัญจรไปมาออกสู่คลอกชักพระได้โดยสะดวก จากพยานหลักฐานดังกล่าวฟังได้ว่าประชาชนในละแวกนั้นได้ใช้ลำกระโดงสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว หากจะฟังว่าลำกระโดงสายนี้เกิดจากการขุดสร้างขึ้นเองของชาวบ้านทั้งสองฝั่งในที่ดินของตนเพื่อประโยชน์ในการใช้น้ำและการสัญจรไปมาก็ถือได้ว่าเจ้าของที่ดินแต่เดิมได้ยกที่ดินส่วนที่เป็นลำกระโดงพิพาทให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 1304 แล้วโดยปริยาย หากจำต้องการแสดงเจตนาอุทิศให้หรือจดทะเบียนยกให้เป็นทางสาธารณะต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดไม่ เมื่อฟังว่าลำกระโดงพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันมาเป็นเวลาเนิ่นนานก่อนที่โจทก์ทั้งสองจะรับโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 120 และ 121 จากเจ้าของเดิม แม้ลำกระโดงพิพาทจะอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ทั้งสอง และโจทก์ทั้งสองได้กลับเข้าหวงกันหรือประชาชนใช้ประโยชน์จากลำกระโดงพิพาทน้อยลงจากเดิม ก็ไม่ทำให้ลำกระโดงพิพาทหมดสภาพจากการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินกลับไปเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินที่ได้กรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินดังกล่าวอีก โจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะยึดถือเอาลำกระโดงพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองได้