คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่พิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3820/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแผงลอยในตลาด: พิจารณาว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือไม่
แผงลอยพิพาทอยู่ในตลาดซึ่งเป็นที่ขายของจำพวกอาหารมีลักษณะเป็นพื้นและฝากั้นแบ่งเป็นช่อง ๆ ซึ่งเป็นที่วางของขายบนพื้นดิน ประกอบกับคำฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันขนสินค้าเข้าไปขายในที่พิพาทอีกอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ คำว่าที่พิพาทตามคำฟ้องจึงมีความหมายอยู่ในตัวว่าเป็นพื้นดิน ฉะนั้นแผงลอยพิพาทตามฟ้องจึงหมายถึงพื้นดินอันเป็นที่ตั้งของแผงลอยจึงเป็นอสังหาริมทรัพย์ มิใช่แผงลอยทั่วๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่พิพาท แม้ไม่มีพยานรับรองลายมือชื่อ แต่มีการชำระเงินบางส่วน โจทก์ฟ้องบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 456 วรรคสอง
จำเลยได้ตกลงขายที่พิพาทให้แก่ผู้จะซื้อ โดยได้รับชำระราคาส่วนหนึ่งแล้วแม้ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยในสัญญาจะซื้อจะขายจะไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนตามกฎหมายจึงถือไม่ได้ว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของจำเลย แต่ก็ถือได้ว่าการซื้อขายรายนี้ได้มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว โจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่พิพาทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรนัยและการยินยอมโดยปริยาย ทำให้สัญญาสมบูรณ์
ที่พิพาทมิใช่ที่สาธารณสมบัติหรือหวงห้าม แม้จะเป็นของกรมธนารักษ์และตกอยู่ในความดูแลขององค์การเชื้อเพลิงก็ตามแต่เมื่อโจทก์ได้เข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในที่พิพาทต่อมาเป็นเวลานาน โดยองค์การเชื้อเพลิงมิได้ห้ามปรามทักท้วงประการใดพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าองค์การเชื้อเพลิงยินยอมโดยปริยายให้โจทก์มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทและโจทก์อาจยอมให้บุคคลอื่นผู้ไม่มีสิทธิดีกว่าเข้าใช้ประโยชน์ด้วยได้ ฉะนั้น สัญญาขอใช้สถานที่ประกอบรถยนต์ในที่พิพาทที่จำเลยกระทำไว้ต่อโจทก์ จึงเป็นสัญญาที่สมบูรณ์ตามกฎหมายและมีผลบังคับให้จำเลยต้องเสียค่าตอบแทนตามสัญญา
คดีเดิมศาลยกฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้มีหนังสือยินยอมของสามีมิได้ชี้ขาดประเด็นข้อพิพาทคดีนี้สามีเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกับโจทก์เดิมด้วยไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิอาศัยและการละเมิดเมื่อไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
จำเลยเข้ามาปลูกเพิงในที่พิพาทได้โดยใช้สิทธิอาศัยเมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนเพิงออกไปจำเลยไม่ยอมออกย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์และตราบใดที่จำเลยไม่ยอมรื้อถอนออกไปตราบนั้นการละเมิดยังคงมีอยู่และเป็นการละเมิดติดต่อกันตลอดมาคดีโจทก์จึงหาขาดอายุความไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองร่วมที่ดิน: เมื่อการแย่งครอบครองทำให้เกิดสิทธิร่วม
ที่ดินซึ่งโจทก์จำเลยแย่งกันครอบครองตอนที่อยู่ติดต่อกันโจทก์จำเลยชอบที่จะมีสิทธิครอบครองร่วมกัน จำเลยมีสิทธิครอบครองร่วมอยู่ด้วยจึงมีสิทธิใช้ที่พิพาทได้ไม่เป็นละเมิดไม่ต้องใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ใช้ที่พิพาทนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2488/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงให้ศาลชี้ขาดที่พิพาท: ไม่เป็นประนีประนอม & ผูกพันตามคำชี้ขาด
การที่คู่ความตกลงกันให้ศาลไปตรวจดูที่พิพาท แล้วให้ศาลชี้ขาดตามที่เห็นสมควรโดยคู่ความยินยอมตามที่ศาลชี้ขาดนั้นหาใช่เป็นการตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ไม่ เพราะศาลยังต้องชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีอีกว่าที่พิพาทควรจะเป็นของใครเพียงใด คดีจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 แต่เมื่อศาลตรวจดูที่พิพาทแล้ว เห็นว่า ไม่อาจชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นของฝ่ายใด จึงพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทออกเป็นสองส่วน ให้โจทก์จำเลยได้ฝ่ายละส่วน โจทก์จะอุทธรณ์ว่าที่พิพาทมีลักษณะเหมือนของโจทก์ ควรให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่ เพราะเท่ากับไม่ยอมปฏิบัติตามคำชี้ขาดของศาลตามที่ตกลงไว้นั่นเอง เมื่อไม่ปรากฏว่าคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยมิชอบ ศาลสูงก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกและการโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทตามพินัยกรรม
โจทก์ฎีกาว่า ปัญหาอำนาจฟ้องยุติ คงมีปัญหาเพียงว่าที่พิพาทเป็นของผู้ตายใส่ชื่อจำเลยไว้แทนหรือเป็นของจำเลยจำเลยแก้ฎีกาว่า ในชั้นอุทธรณ์จำเลยได้แก้อุทธรณ์โต้แย้งอำนาจฟ้องของโจทก์ไว้ และขอถือว่ามีประเด็นข้อนี้ในชั้นฎีกาด้วย ซึ่งถูกต้องตามคำแก้ฎีกา แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยอำนาจฟ้องของโจทก์ ซึ่งมีประเด็นในชั้นอุทธรณ์ด้วย ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยประเด็นอำนาจฟ้องของโจทก์ให้
โจทก์ทั้งสองฟ้องคดีในฐานะผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมเรียกร้องให้จำเลยคืนที่พิพาทเพื่อจัดการให้เป็นไปตามพินัยกรรมของผู้ตาย ช. ผู้จัดการมรดกร่วมอีกคนหนึ่งไม่ได้เป็นโจทก์ฟ้องด้วย เพราะ ช. เป็นภริยาจำเลย เป็นผู้รับโอนที่พิพาทแทนจำเลยและเป็นพยานจำเลยด้วย แสดงชัดว่า ช. ไม่ต้องการฟ้องจำเลย ดังนี้ โจทก์ทั้งสองย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1715 วรรคสอง และเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะฟ้องได้ในระหว่างจัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1719, 1736

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรุกล้ำที่ดินและการครอบครองปรปักษ์: คำให้การที่มีเหตุผลย่อมใช้ได้ แม้ยังไม่ชัดเจนว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของใคร
เขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์และจำเลยอยู่ติดต่อกัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยรุกล้ำ จำเลยให้การว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของจำเลยหรือหากว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์ จำเลยก็ได้ครอบครองที่นั้นมาโดยปรปักษ์ เป็นคำให้การที่ใช้ได้เพราะขณะจำเลยให้การยังไม่สามารถกำหนดได้โดยแน่ชัดว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของใครแน่ คำให้การของจำเลยจึงมีเหตุผลในการต่อสู้คดีและไม่มีนัยขัดกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีต้องตรงกับที่พิพาทที่ชนะคดี โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องบังคับคดีในที่ดินที่ไม่ได้ระบุในคำพิพากษา
เมื่อฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดี คือ ที่ดินที่จำเลยครอบครองอยู่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินที่จำเลยครอบครอง คำร้องขอให้บังคับคดีของโจทก์จึงต้องยกเสีย และการที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องนี้หาใช่เป็นการปฏิเสธสิทธิของโจทก์ตามคำพิพากษาหรือเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลซึ่งมีอยู่ไม่ แต่เป็นเพราะโจทก์ขอให้มีการบังคับคดีไม่ตรงกับที่โจทก์ชนะคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีต้องตรงกับที่พิพาทที่ชนะคดี หากไม่ตรง ศาลย่อมยกคำร้อง
เมื่อฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดี คือ ที่ดินที่จำเลยครอบครองอยู่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินที่จำเลยครอบครอง คำร้องขอให้บังคับคดีของโจทก์จึงต้องยกเสียและการที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องนี้หาใช่เป็นการปฏิเสธสิทธิของโจทก์ตามคำพิพากษาหรือเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลซึ่งมีอยู่ไม่แต่เป็นเพราะโจทก์ขอให้มีการบังคับคดีไม่ตรงกับที่โจทก์ชนะคดี
of 4